พระยอดธง ยอดเศรษฐีรัตนโกสน์ (มวลสารแร่โคตรเศรษฐีล้วน)

พระยอดธง ยอดเศรษฐีรัตนโกสน์ (มวลสารแร่โคตรเศรษฐีล้วน)
พระยอดธง ยอดเศรษฐีรัตนโกสน์ (มวลสารแร่โคตรเศรษฐีล้วน)พระยอดธง ยอดเศรษฐีรัตนโกสน์ (มวลสารแร่โคตรเศรษฐีล้วน)พระยอดธง ยอดเศรษฐีรัตนโกสน์ (มวลสารแร่โคตรเศรษฐีล้วน)พระยอดธง ยอดเศรษฐีรัตนโกสน์ (มวลสารแร่โคตรเศรษฐีล้วน)
หมวดหมู่ แร่โคตรเศรษฐี แม่ชีประทุม โชติอนันต์
ราคา 6,500.00 บาท
ลงสินค้า 19 ก.ย. 2558
อัพเดทล่าสุด 15 ม.ค. 2559
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

พระยอดธง รุ่น ยอดเศรษฐีรัตนโกสน์ (มวลสารแร่โคตรเศรษฐีล้วน) พิธีเสาร์ ๕ ปี ๕๔  นำเข้าพุทธาภิเษก ณ วัดท่าซุง 

แร่โคตรเศรษฐีที่เหลืออยู่จากสมัยท่านแม่ชีปทุมนั้นได้เหลืออยู่ที่สำนักส่งเสริมปฎิบัติธรรม โดยมีป้าอี๊ดซึ่งเป็นลูกสาวของท่าน

 แม่ชีประทุม โชติอนันต์ ดูแลอยู่..และได้นำมาสร้างเป็นพระยอดธง รุ่นยอดเศรษฐีรัตนโกสน์ 
 
>
 โค้ดใต้ฐาน พระยอดธง จะมีตัวอักษร ดังนี้

1. เนื้อ แร่โคตรเศรษฐี = ยอดเศรษฐี คศ. + โค๊ด  (เนื้อแร่โคตรเศรษฐีล้วน)

2. เนื้อ แร่เทพรักษา = ยอดเศรษฐี ท. + โค๊ด
 
3. เนื้อ เงิน = ยอดเศรษฐี ง. + โค๊ด
 
4. เนื้อ นวฤทธิ์ = ยอดเศรษฐี น. + โค๊ด
 
5. เนื้อ สัมฤทธิ์ = ยอดเศรษฐี ส. + โค๊ด
 
6. เนื้อ ทองคำ = ยอดเศรษฐี + โค๊ด
 
เครดิตเว็บไซต์  http://phraloungpor.blogspot.com/2011/07/blog-post_08.html

คุณแม่ชีประทุม  โชติอนันต์

 

 

 

 

 

จากหนังสือ ประวัติแม่ชีประทุม และหนังสือ ประวัติแร่โคตรเศรษฐี โดย คุณแม่ชีประทุม โชติอนันต์

สำนักส่งเสริมปฏิบัติธรรม ( ศิษย์พระราชพรหมยาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จังหวัด อุทัยธานี )

อ.ปากช่อง จังหวัด นครราชสีมา ถอดความโดยย่อ ดังนี้

พอดีเวลาบ่ายของวันหนึ่ง ประมาณเกือบสองโมงเศษ ได้มีแม่ชีเดินเข้ามาในสำนัก

ข้าพเจ้ามองดู รู้ว่า แม่ชีที่เดินเข้ามาในสำนักนี้ คือ แม่ชีที่ข้าพเจ้าเชิญให้ออกจากสำนักนี้ไปนานแล้ว

แม่ชีนั่งลงกราบข้าพเจ้า พูด พร้อมกับหยิบห่อกระดาษในกระเป๋าหิ้ว ให้ข้าพเจ้าดู

เธอเล่าต่อไปว่า " ของสิ่งนี้ มีคนเขาฝากมาให้ คุณแม่ เพื่อสร้างพระมหาวิหาร "

ข้าพเจ้าจึงได้ถามแม่ชีขึ้นว่า " ใครเป็นผู้ฝาก เป็นหญิงหรือชาย "

แม่ชีเธอตอบขึ้นว่า " เป็นผู้ชายค่ะ "

ข้าพเจ้าจึงได้ซักถามเธอต่อไปว่า " ไหนเธอลองเล่ามาให้ฟังซิว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรมา ตั้งแต่ต้น "

แม่ชีเล่าว่า " ในคืนนั้นดิฉันได้ปฏิบัติอยู่ในถ้ำประมาณห้าทุ่มเห็นจะได้ เกิดนิมิต เห็นผู้ชายแต่งตัวทรงเครื่องสวยงามอร่าม แพรวพราว ระยับเป็นสีทอง ยืนอยู่ข้างหน้าดิฉัน

ชายผู้นั้นได้พูดขึ้นว่า พรุ่งนี้ตอนสองโมงเช้า จงแต่งขันธ์ห้าขึ้น และจงมานั่งตรงนี้

ฉันจะฝากของเธอ เอาไปให้กับแม่ชีประทุม เพื่อร่วมสร้างพระมหาวิหาร ดิฉันรับคำท่าน ท่านก็หายวับไป

พอรุ่งเช้าดิฉันจัดแจงแต่งขันธ์ห้า พอได้เวลาที่ท่านสั่ง ดิฉันได้ไปนั่งตามเดิมพร้อมเครื่องบูชาขันธ์ห้า

ดิฉันนั่งสมาธิไปจนถึงสิบโมงกว่า จึงคลายออกจากสมาธิ พอลืมตาขึ้นก็เห็นของสิ่งนี้วางอยู่

ดิฉันรู้ทันทีว่า ของที่วางนี้เป็นของที่ท่านฝากให้คุณแม่ ดิฉันจึงนำมา

เพราะตรงที่ดิฉันนั่งปฏิบัตินั้น ฉันกวาดเตียนไม่เคยมีอะไรมาก่อน

ดิฉันนั่งปฏิบัติมาตั้งสองเดือนกว่าแล้วค่ะ ฉันไม่เห็นมีอะไรเลย "

ข้าพเจ้าบอกให้แม่ชีแก้ห่อดูของ ข้าพเจ้าเห็นของที่ห่อมา มองดูเหมือนก้อนหินที่ขรุขระ และมีรอยถูกตัดไป

รอยที่ตัด มีแสงไม่เหมือนตะกั่ว ตะกั่วไม่มีแสงจึงทำความแปลกใจให้ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงถามแม่ชีว่า

" ของนี้ทำไมจึงมีรอยถูกตัดออกไป " เมื่อแม่ชีได้ฟังข้าพเจ้าถามขึ้น แม่ชีมีสีหน้าไม่ค่อยดี

เธอตอบขึ้นว่า " ดิฉันได้ของแล้วห่อของ รีบเดินทางตั้งใจจะนำของมาให้คุณแม่ ตามคำสั่งของท่าน

เมื่อเดินมาได้ครึ่งทางได้พบกับชายคนหนึ่งเขาทำงานอยู่แถวนั้น เขาขอดู เขาเห็นฉันหิ้วหนักมาก ฉันจึงให้เขาดู

แล้วเขาขอฉัน ฉันจึงให้เขาค่ะ ดิฉันคิดว่าคงไม่เป็นอะไร ของที่เขาขอตัดไปก็นิดเดียวเอง "

ในที่สุดเธอลาจากไป ข้าพเจ้าได้ให้ปัจจัยเป็นค่าเดินทางกับเธอ

ข้าพเจ้ารับของก้อนโคตรเศรษฐี ใส่พานมีผ้าขาวปูรองรับ มีดอกมะลิบูชา ตั้งไว้ที่หน้าหน้าหลวงปู่ปาน

ครั้นพอตกกลางคืนในเวลาเช้ามืดของคืนวันเดียวกันกับวันที่รับของ

เวลาตอนตีห้าครึ่ง ออกจากพระกรรมฐานเพื่ออุทิศส่วนกุศล ทำอย่างนี้เป็นประจำตลอดมา

เมื่ออุทิศส่วนกุศลจบลง ข้าพเจ้านั่งอยู่ในกลด เห็นว่าเสร็จกิจแล้ว จึงหยิบยานัตถุ์ขึ้นมาทำท่าจะนัตถุ์ยา

มุ้งกลดของข้าพเจ้าบางมาก ในทันใดมีความรู้สึกว่า มีคนมายืนใกล้ ๆ กลดของข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าจึงได้ชำเลืองตาดู เห็นคนมายืนอยู่จริง ๆ

ท่านแต่งตัวสวยงามยืนชะโงกดูของที่ได้รับมาจากแม่ชีเมื่อตอนบ่ายนั่นเอง

ท่าที่ท่านยืน คือ ขาซ้ายเยื้องไปอยู่หน้า ขาขวาลดลงมาหลัง ยืนชะโงกดูของในพานเอามือไพล่หลัง

ขาใหญ่มาก ข้าพเจ้าชำเลืองดูเห็นแต่ขา ส่วนหัวเข่ามองไม่เห็นเพราะขาของท่านยาว ไม่สามารถจะเห็นเข่าได้

ข้าพเจ้านึกรู้ได้ทันทีว่า ท่านคงตามมาดูของ

ข้าพเจ้ายกมือขึ้นพนมและพูดกับท่านว่า

"ท่านผู้เจริญที่เคารพ ขณะนี้ของที่ท่านส่งมาให้ดิฉัน ดิฉันได้รับแล้วและได้บูชาไว้กับหลวงปู่ปานและหลวงพ่อฤาษี

ที่ท่านได้ชะโงกดูอยู่นั่นแหละค่ะ ต่อแต่นี้เป็นต้นไปทั้งท่านและดิฉันจะได้ร่วมสร้างพระมหาวิหารแล้วในเวลาอันใกล้นี้

ขอท่านจงปกปักรักษา อย่าให้ใครมาแย่งชิงเอาไปนะคะ สำนักนี้มีแต่ผู้หญิง

ท่านผู้มีตาทิพย์จงช่วยสอดส่องดูแลเอาไว้ให้ดี

และขอท่านจงโมทนาในความตั้งใจดีต่อพระพุทธศาสนาในครั้งนี้ด้วยเทอญ "

ท่านโมทนา เมื่อข้าพเจ้าพูดจบลงท่านหายวับไปฉับพลัน

นี่ข้าพเจ้าเห็นด้วยตาเปล่า มิได้ห็นด้วยสมาธิ ที่เขียนมาตรง ๆ อย่างนี้

มิได้โอ้อวดด้วยประการใด เรื่องนี้ได้เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าจริงๆ

เมื่อผู้ใดอ่านท่านจะเชื่อหรือไม่นั้นเป็นเรื่องของท่าน สำหรับข้าพเจ้าขอเอาศีลเป็นพยานเท่านั้น

ข้าพเจ้าวางของลงที่โต๊ะนั่งของหลวงพ่อ ( หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จังหวัด อุทัยธานี )

ข้าพเจ้าก้มลงกราบพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาหลวงพ่อพูดกับข้าพเจ้าขึ้นว่า "

นี่โยม โยมชีจะเอาของมาทำฉันหรือ เห็นเป็นมันวาววับโยม "

ท่านพูดท่านยิ้มมองดูของ ท่านถามข้าพเจ้าว่า " นั่นอะไร "

ข้าพเจ้าตอบท่านว่า ไม่ทราบว่าเป็นอะไรค่ะ โยมปฏิบัติธรรมได้ของสิ่งนี้มาค่ะหลวงพ่อ โยมนำมาให้หลวงพ่อดู

หลวงพ่อมองดูแล้วพูดว่า " ดีนะโยม ของนี้เป็นของพันปีมีค่ามหาศาล "

" โยมอยากทราบว่าเป็นอะไรเจ้าค่ะหลวงพ่อ "

หลวงพ่อพูดว่า " ดี.. เอาไปให้ด็อกเตอร์เขาดูบ้างซิ เผื่อเขาจะรู้บ้าง "

ข้าพเจ้าเห็นคนเข้ามาถวายสังฆทานกันมาก

จึงถอยออกมาเดินไปหาด็อกเตอร์เอาของให้ดู ด็อกเตอร์พูดว่า

" หลวงพ่อว่าเป็นอะไร ก็เป็นเช่นนั้นแหละครับ "

ข้าพเจ้าลาด็อกเตอร์ออกมานั่ง เมื่อข้าพเจ้านั่งลง

หลวงพ่อไ ด้เมตตาสั่งข้าพเจ้าขึ้นว่า "โยมที่เอาของให้ดูนั่นนะ ของโยมพันปีเก็บไว้ให้ดี อย่าไปทิ้งเสียล่ะ มีค่ามหาศาล"

หลังจากนั้นข้าพเจ้าได้กราบลาพระเดชพระคุณหลวงพ่อกลับปากช่อง

ขั้นตอนการสร้างพระโคตรเศรษฐี

วันหนึ่งนั่งสวดมนต์ พอก้มกราบต้องฟุบลงไปชั่วโมง ช่วงนี้เสวยกรรมหนัก นอนคิดมาคิดไป

นึกถึงของจะเอาไปทำอะไรดี ของสิ่งนี้ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นเลย คิดว่าจะทำอะไรดี

ใจก็นึกถึง ท้าวธตรฐ ว่า " จะให้ของ จะให้ช่วย น่าจะให้ของที่รู้จัก

ถ้าเป็นทองคำเราจะได้รู้ นี่เอาก้อนอะไรมาให้ก็ไม่รู้มาให้เรา เรายิ่งโง่ ๆ อยู่

จะนำไปซื้อขายก็ไม่ได้กลัวเขาไม่รู้จัก เมื่อไม่ได้สร้างก็ไม่ต้องสร้าง ตัดขันธ์ห้าดีกว่า

" จึงได้วางก้อนของไว้ข้างตัว พิจารณาขันธ์ห้าย้อนไปย้อนมา จับพุทโธบ้าง จับอานาปานุสสติบ้างนานพอสมควร

ทันใดก็ได้ยินเสียงข้างหูขวาว่า " ในห่อของนั้นมีค่ามหาศาล ทำไมไม่รีบจัดการขึ้น "

เสียงพูดนั้นดูหนักหน่วงเหมือนดุ ท่านคงจะเคืองข้าพเจ้าที่ต่อว่าท่านว่า น่าจะเป็นทองคำ ให้มาแล้วยังโง่มากนัก

ข้าพเจ้าตกใจลุกขึ้น เรียกแม่ชีเล็กเข้ามาหา บอกกับแม่ชีเล็กว่า

" แม่จะทดลองของดู แม่ชีช่วยไปตามโยมแช่มมาเดี๋ยวนี้ บอกว่ามีธุระด่วน "

แม่ชีจึงไปตามโยมแช่มมา ข้าพเจ้าจึงบอกโยมแช่มรีบไปหาตะกั่วมาให้ที ข้าพเจ้าทำพิธีตัดของก่อน

ก่อนตัดก็กราบขอขมาขอทดลองจึงตัดออกมาก้อนนิดหนึ่งพอสมควร ลองเอาตะกั่วเคี่ยวไฟก่อน

ปรากฎว่าตะกั่วละลายเร็ว เทไว้ต่างหากแล้วจึงนำของที่ได้มาต้มเคี่ยวใส่กระทะหลอมดู

สิ่งของนี้กว่าจะละลายนานมาก พอละลายออกยิ่งมีรัศมีแวววาวระยิบระยับหลายสี หลายแสง อย่างมหัศจรรย์ยิ่งนัก

เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว ข้าพเจ้าจึงน้อมจิตถึงท่านเจ้าของขึ้นว่า " ท่านจะให้ทำเป็นอะไรขอให้บอกมา "

ข้าพเจ้ามีความรู้สึกขึ้นทันทีว่า " ไปทำพระ " พอดีคุณสว่างมาจากจันทบุรี

จึงได้บอกคุณสว่างขับรถไปกรุงเทพฯ เมื่อถึงกรุงเทพฯ ให้หาร้านที่เขาพิมพ์พระ เมื่อติดต่อทำพิมพ์พระก็เข้าโรงรีดของ ในระหว่างที่รีดของอยู่นั้น แสงรัศมีเกิดวาววับแสงสีเกิดขึ้นหลายสี

เป็นสิ่งสะดุดใจแก่ผู้รีด ผู้รีดคนหนึ่งพูดกับเพื่อนว่า " เฮ้ย นี่ไม่ใช่ตะกั่วนี่หว่า .....เป็นอะไรวะ "

เพื่อนอีกคนตอบ " กูก็ไม่รู้เหมือนกัน "ข้าพเจ้ายืนดูอยู่ใกล้ๆเมื่อได้ยินเขาพูด

ข้าพเจ้าจึงนิ่งเสียหันหน้าไปทางอื่นเพื่อให้เรื่องจบ เมื่อรีดเสร็จแล้วจึงนำของไปเข้าเครื่องพิมพ์  ข้าพเจ้ากราบอาราธนา องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหมด พระอรหันต์ทั้งหมด

ครูบาอาจารย์ หลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน หลวงพ่อสมเด็จโตพรหมรังสี และครูบาอาจารย์ทั้งหมด

ท่านพ่อปู่พระอินทร์ ท่านแม่ย่า ท่านพ่อ ท่านแม่ศรี ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ มีท่านท้าวธตรฐและเทวดาทั้งหมด

ขอเชิญท่านมาร่วมในพิธีสร้างพระมหาวิหารโคตรเศรษฐีของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด

ข้าพเจ้ายืนคุมจนกระทั่งเขาทำเสร็จ ได้พระเครื่องจำนวน 285 องค์

ข้าพเจ้าตัดเอามาเพียงเล็กน้อย ไม่กล้าทำมาก เกรงว่าจะไม่มีใครศรัทธา เพราะเป็นเพียงแม่ชี หาคนศรัทธาน้อย

เมื่อทำเสร็จ ข้าพเจ้านำพระเครื่อง 285 องค์นี้ ไปหา พระเดชพระคุณหลวงพ่อ

( หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จังหวัด อุทัยธานี )

เมื่อทุกคนไปกันหมดแล้ว เหลือแต่คณะของข้าพเจ้า หลวงพ่อหันมาทางข้าพเจ้าถามว่า

" โยมชีมีอะไรจะคุยกับฉันหรือ "

ข้าพเจ้าตอบว่า " มีเจ้าค่ะหลวงพ่อ "

หลวงพ่อพูดขึ้นว่า " นั่นเอาอะไรมาด้วยล่ะ เอาผ้าคลุมไว้นั่นน่ะ "

เมื่อข้าพเจ้าได้ฟังพระเดชพระคุณหลวงพ่อจึงตอบว่า

" คือโยมเคยนำของที่ได้จากการปฏิบัติไปให้หลวงพ่อดูครั้งหนึ่งที่บ้านสายลมแล้วเจ้าค่ะ

ครั้นต่อมาหลังจากนั้น โยมได้จัดทำเป็นรูปพระขึ้น "

หลวงพ่อว่า " เออ..ว่ามา "

ข้าพเจ้ากราบเรียนให้ท่านทราบว่า

" พระของโยมทำขึ้นครั้งนี้ไม่เหมือนใคร ทำเป็นสองหน้า หน้าหนึ่งทำเป็นพระทุ่งเศรษฐี

อีกหน้าหนึ่งทำเป็นพระสีวลีค่ะหลวงพ่อ "

หลวงพ่อเมื่อฟังข้าพเจ้าพูดจบลง หลวงพ่อได้เอ่ยขึ้นว่า

" ไหนว่าไม่เหมือนของใคร ยกพานมาให้ฉันดูหน่อยซิ "

ข้าพเจ้ากราบเรียนให้ท่านทราบว่า " โยมทำครั้งนี้ 285 องค์เจ้าค่ะหลวงพ่อ "

เมื่อ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ รับพานพระแล้ว หลวงพ่อได้หยิบพระดู

ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และได้กล่าวขึ้นว่า

" เออ..เข้าใจ..เข้าใจ ข้างหนี่งเป็นทุ่งเศรษฐี ข้างหนึ่งพระสีวลี เข้าใจจริงๆ เข้าใจจริง ๆ โยมนี่ "

" นี่นะโยม พระของโยมนี่ ถ้าผู้ใดได้ไปบูชา จะเป็นเศรษฐี โคตรเศรษฐี จนไม่เป็นดีมากนะ โยมนี่เป็นคนมีปัญญา เอาล่ะนะฉันจะบอกให้ พระของโยมที่ทำมาทั้งหมดนี้ ถึงแม้จะไม่มีรูปพระเลย ของๆโยมก็ขลัง เขาสำเร็จอยู่ในตัวเขาแล้ว ให้ใครเอาไปทำอะไรๆ ให้ยิ่งกว่าทำ คำว่าเสื่อมไม่มี ของๆโยมนี้ใช้ได้ทุกอย่างเลยครบหมด เนื้อเกลี้ยงๆก็ขลัง "

พระเดชพระคุณหลวงพ่อถามต่อขึ้นว่า " เมื่อขณะที่ทำพระใครคุมอยู่ "

ข้าพเจ้ากราบเรียนพระเดชพระคุณหลวงพ่อขึ้นว่า " โยมขออาราธนาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหมดทุกๆพระองค์ ครูบาอาจารย์ทั้งหมด เทวดาทั้งหมด โยมคุมอยู่ด้วยเจ้าค่ะหลวงพ่อ "

พระเดชพระคุณได้กล่าวขึ้น " เออ มันฉลาดอย่างนี้ เอาล่ะนะ ฉันจะถามโยมว่า ก่อนที่โยมจะได้ของสิ่งนี้มา โยมทำอย่างไรถึงได้ของ "

ข้าพเจ้ากราบเรียนพระเดชพระคุณหลวงพ่อขึ้นด้วยความเคารพยิ่งขึ้นว่า " พระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นครูบาอาจารย์ของโยม โยมมีความเคารพเป็นที่สุด โยมขอกราบเรียนด้วยความจริงทุกประการด้วยเคารพเจ้าค่ะ หลังจากออกพรรษาในปี 2530 โยมได้มากราบเรียนพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เรื่องคุณวิรัช มั่งเรืองสกุล ได้ถวายที่ดินให้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมในปีนั้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้อนุญาตให้โยมรับที่ดินไว้ จึงได้จัดการก่อสร้าง มีกุฏิ 4 หลัง ไว้เป็นที่พักสำหรับแม่ชีที่อยู่ประจำ มีห้องน้ำห้องส้วมเสร็จ ได้ต่อศาลาไว้ปฏิบัติธรรม ทำวัตรเช้า-เย็น 1 หลัง ห้องน้ำห้องส้วม โรงอาหาร ต้องใช้ไม่ป่า ต้นกระถินณรงค์เป็นเสา ต่อมาปลวกกินจนเสาขาด หลังคาทั้งหมดมุงด้วยหญ้าคาผุ เวลาฝนตกรั่วต้องเอาผ้าพลาสติกคอยกันกั้นไว้ ฝาศาลาสวดมนต์ใช้ผ้าเหลืองจีวรพระที่ท่านไม่ใช้ ขอมากั้นบังฝน พอลมตีมาลำบากมากทุลักทุเล พระพุทธรูปมี 28 พระองค์ มีโยมกรุงเทพฯเขามาถวายไว้บูชาอีก 1 องค์ รูปเหมือนหลวงปู่ปานอีก 1 องค์ รูปเหมือนพระเดชพระคุณหลวงพ่ออีก 1 องค์ รวมทั้งหมด 31 องค์ค่ะ "

โยมเห็นพระพุทธรูปเปียกฝน โยมเกิดสังเวชใจมากที่สุด โยมคิดขึ้นในตอนนั้นว่า จะต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้น ตั้งแต่ปฏิบัติมายังไม่เคยจะลองทำประโยชน์อะไรให้กับพระศาสนาเด่นชัดขึ้นมาเลย

ในคืนนั้นเอง โยมตั้งใจเต็มกำลัง การปฏิบัติจะได้ขั้นไหนตอนไหนก็ตาม จะไม่คำนึงถึง ตั้งใจมั่นคงเด็ดเดี่ยว เข้านั่งสมาธิแล้วเจริญเมตตาไปในทิศทั้งปวง ทั่วโลกธาตุ ถึงหมู่สัตว์ทั้งหลายไม่มีที่ประมาณ จงถึงความสุขด้วยพระพุทธานุภาพ จงถึงความสุขด้วยพระธรรมานุภาพ จงถึงความสุขด้วยพระสังฆานุภาพ ด้วยบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแต่อดีดถึงปัจจุบัน ขอท่านทั้งหลายจงโมทนาโดยทั่วกัน

ตั้งจิตระลึกนึกน้อมถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหมด พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหมด พระธรรมคำสอนของพระองค์ที่ข้าพระพุทธเจ้าปฏิบัติตามอยู่ขณะนี้ นึกถึงพระอริยสงฆ์ทั้งหมด ครูบาอาจารย์ทั้งหมด มีหลวงปู่ปาน หลวงพ่อด้วย และสมเด็จโตพรหมรังสี และเทวดาทั้งหมด มีปู่พระอินทร์ ท่านย่า ท่านแม่ ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่พระองค์ มีท่านท้าวธตรฐ

คือ ท่านท้าวธตรฐองค์นี้ เมื่อสมัย พ.ศ. 2514

ท่านมาปรากฏให้โยมเห็นค่ะหลวงพ่อ ท่านบอกชื่อท่านให้โยมรู้จัก ท่านชื่อว่า ท่านท้าวธตรฐ ถ้าโยมมีอะไรจะให้ท่านช่วยเหลือ ท่านให้โยมนึกถึงชื่อท่าน

ตอนก่อนโยมไม่เชื่อเท่าไรนัก ครั้นโยมได้มาพบหลวงพ่อ ได้ฟังเทปสมาทานหลวงพ่อ และได้ฟังคำสอนของหลวงพ่อ โยมจึงได้เข้าใจ

โยมจึงนึกถึงท่าน ให้ท่านมาช่วยในกิจของพระศาสนา  โยมเอาจิตน้อมถึง  · ทานบารมี นึกถึงทานที่ให้แล้ว · ศีลบารมี นึกถึงศีลที่ได้ สมาทานจะรักษาไว้ให้ดี ไม่ทำลายศีลจนตลอดชีวิต

· ปัญญาบารมี จะทำให้เกิดปัญญารู้แจ้งแห่งขันธ์ห้า ให้เข้าสู่พระนิพพานในชาตินี้ · เนกขัมบารมี การถือบวชของข้าพเจ้าบวชครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย คำว่าสึกจะไม่มี จะช่วยกิจของพระศาสนาตลอดชีวิต

· วิริยะบารมี จะขยันทำจิตให้เข้าถึงพระนิพพาน · สัจจะบารมี ข้าพเจ้าขอตั้งจิตจะพูดอย่างไหนทำอย่างนั้นตลอดชีวิต

· อธิษฐานบารมี คำอธิษฐานของข้าพเจ้าที่ตั้งใจมั่นคงครั้งนี้ ข้าพเจ้าจะไม่ถอยออกจนตลอดชีวิต

· ขันติบารมี ข้าพเจ้าจะอดทนในสิ่งจะเกิดขึ้นกับข้าพเจ้าทุกประการ

· เมตตาบารมี ข้าพเจ้าขอทรงเมตตาตลอดทั่วโลกธาตุ แม้แต่ผู้นั้นจะคิดทำร้ายข้าพเจ้าก็ตาม

· อุเบกขาบารมี ข้าพเจ้าจะวางเฉยด้วยประการทั้งปวง จะทำสติให้รู้เท่าทันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะดีหรือร้ายก็ตามจะไม่หวั่นไหวกับสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น จะทำสติให้รู้ว่านั่นคืออนิจจัง นั่นคืออนัตตา จะทรงกำหนดจิตไม่คลอนแคลนไว้ด้วยความเคารพตลอดชีวิต บารมี 10 ทั้งหมดที่บำเพ็ญมาเพื่อความหลุดพ้นไม่ต้องกลับมาเกิด

จงมาช่วยข้าพเจ้าด้วย เวลานี้ข้าพเจ้ามีทุกข์เดือดร้อน  แต่ทุกข์ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ ไม่เหมือนทุกข์ของผู้ครองเรือน

ขณะนี้ข้าพเจ้ากำลังได้รับความทุกข์ เพราะศาลาที่ประดิษฐานองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และที่ปฏิบัติธรรมของข้าพเจ้าชำรุดทรุดโทรม ลมมาก็ต้องหาไม้มาค้ำไว้

ถ้าการขอครั้งนี้เห็นว่า ข้าพเจ้ายังไม่หมดตัณหา และเป็นเรื่องประโยชน์ส่วนตัวของข้าพเจ้า ท่านทั้งหลายไม่ต้องช่วย ถ้าการขอของข้าพเจ้าในครั้งนี้ ถ้าท่านทั้งหลายเห็นว่าข้าพเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ สะอาดจริงแล้ว ขอท่านทั้งหลายและท้าวธตรฐ จงช่วยข้าพเจ้าโดยด่วนด้วยเจ้าค่ะ  ครั้นต่อมาโยมเข้านั่งสมาธิและเข้าฌานเต็มกำลัง จากฌานที่ 1 ขึ้นไปถึงฌานที่ 4 ถอยรองลงมาจนถึงฌานที่ 1 หยุดอยู่แค่อุปจารสมาธิ แล้วขอดังเช่นเดิม เข้าฌานต่อไปจนถึงที่สุด แล้วถอยลงมาแค่อุปจารสมาธิ แล้วขออีก ทำอยู่อย่างนี้ประมาณ 10 หรือ 20 วัน โยมไม่ได้นับ ถือว่าท่านให้ก็เอา ท่านไม่ให้ก็แสดงว่าโยมยังดีไม่พอ  หลวงพ่อ เมื่อได้ฟังข้าพเจ้าเล่าเรื่องให่ท่านฟังจบลง ท่านจึงได้เอ่ยขึ้นว่า

" โยมรู้ไหมว่า ของที่โยมได้มานั้นเป็นของใคร  ฉันจะบอกให้นะโยม ของที่โยมได้มานั้นเป็นของ ๆ ท่านผู้สำเร็จท่านทำไว้แล้ว ท่านก็ฝากกับเทวดา เมื่อท่านฝากกับเทวดา ท่านสั่งกับเทวดาไว้ว่า ถ้าผู้ใดมีบุญบารมีเห็นสมควรให้ ก็ขอเทวดาจงให้ของสิ่งนี้เถิด นี่โยมจึงได้มายังไงล่ะโยม "

ข้าพเจ้ากราบเรียนพระเดชพระคุณหลวงพ่อ " ช่วยเมตตาปลุกเสกพระเครื่องของโยม เพื่อเป็นศิริมงคลด้วยเถิดเจ้าค่ะ "

พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้พูดขึ้นว่า "เสกทำไมอีกเล่าโยม ของเขาดีอยู่แล้ว ถ้าโยมจะให้ฉันปลุกเสกละก็ เอาอย่างนี้ดีกว่า โยมนั่นแหละไปทำขึ้น เพราะอะไรๆโยมก็ทำได้หมดแล้ว จะเอาอะไรอีกเล่า" ข้าพเจ้ากราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ขึ้นว่า " จะต้องใช้มนต์บทไหนสวดเล่าค่ะหลวงพ่อ "  หลวงพ่อพูดแกมดุขึ้นว่า " ก็อีตอนได้ของมานั่นแหละสวดบทไหนเล่า "

ข้าพเจ้ากราบขอขมาหลวงพ่อ จึงได้เข้าใจว่าใช้พลังจิตนี่เอง ไม่โดนดุเอาความโง่ออกไป ปัญญาไม่เกิด

หมดเวลาหลวงพ่อกลับเข้าที่พัก ท่านโอเดินย้อนกลับมาหาข้าพเจ้า ท่านพูดกับข้าพเจ้าขึ้นว่า " โยมชี เอาพระของโยมเก็บไว้ให้อาตมาสัก 10 องค์นะ  "ข้าพเจ้าตอบ " ได้ค่ะ แต่พระของโยมไม่ใช่ราคาเดียวกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อนะ เพราะโยมต้องการสร้างพระมหาวิหาร ต้องให้บูชาองค์ละ 10,000 บาทนะคะท่าน " เมื่อท่านโอได้ฟังข้าพเจ้าบอกราคา ท่านโอจึงได้พูดขึ้นว่า " งั้นฉันจอง 2 องค์นะ " เวลานี้ท่านโอยังมีชีวิตอยู่ที่วิหาร 100 เมตร   ข้าพเจ้าขอย้อนรำลึกนึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อของเราทั้งหลาย หลวงพ่อรู้หมด หลวงพ่อรู้แจ้ง บริสุทธิ์โดยไม่ต้องสงสัย พระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นพระที่ควรกราบไหว้บูชา

พระเดชพระคุณหลวงพ่อ เป็นเนื้อนาบุญของโลก

 

จาก Link       http://forums.apinya.com/showthread.php?t=391

วิธีการชำระเงิน

บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ออมทรัพย์
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขากองบัญชาการกองทัพบก ออมทรัพย์
  • ค่าธรรมเนียม 3.9% + 11 THB
  • การชำระผ่าน PayPal คุณไม่จำเป็นต้องแจ้งชำระเงิน เนื่องจากระบบจะจัดการให้คุณทันที ที่คุณชำระเงินเสร็จสมบูรณ์

CATEGORY

       เพิ่มร้านณัชชาเป็นเพื่อน    
       ด้วย QR Code
ด้านล่างนี้  

       บัญชีร้านณัชชา      

CONTACT US

0851242951

STATISTICS

หน้าที่เข้าชม2,003,719 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด1,270,834 ครั้ง
เปิดร้าน12 ก.ค. 2558
ร้านค้าอัพเดท23 ก.ย. 2568

MEMBER

พูดคุย-สอบถาม