พระอาจารย์กล่าวว่า "กุมารทองหลวงพ่อกวยมีแค่ตัวหนึ่งก็พอแล้ว ขนาดกุมารรุ่นหลังที่เลี่ยมสีเหลือง แดง ๆ เขียว ส้ม อะไรนั่น วันก่อนอาตมาตั้งใจจะให้เขา ดันโดดเข้าไปอยู่ในพวงกุญแจ เป็นไปได้อย่างไร ? จะต้องถ่างห่วงออกถึงใส่จึงจะได้ อันนี้ไปห้อยต่องแต่งอยู่เองแล้ว ประมาณว่า "กูไม่ไป" ไม่ไปก็ไม่ไป เก็บไว้เองก็แล้วกัน เป็นอะไรที่ตลก ๆ ขำ ๆ ดี แต่ว่ารุ่นโรงงานทำนั่นดีตรงที่ว่ามีเยอะหน่อย ราคาเลยไม่แพง ถ้าเป็นรุ่นหล่อเองเนื้อชินนี่ ราคาหูดับเลยนะ
ที่ขำกว่านั้นก็คือ ไปงานพุทธาภิเษกเดือนที่แล้ว เป็นงานโชว์วัตถุมงคลหลวงพ่อกวยชัด ๆ โอ้โฮ...แต่ละคนมา ใส่มาเต็มที่เลย "กูลูกศิษย์หลวงพ่อกวยแน่นอน" คนโน้นก็เหรียญอาร์มหลังหนุมาน คนนี้ก็เหรียญกลมหลังยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า ฯลฯ ยุ่งไปหมด ยังดีที่ไม่เปิดเอวให้ดู คาดตะกรุดมาคนละกี่สายก็ไม่รู้ ?
พ่อเจ้าประคุณเถอะ...แถวนั้นถ้าแปลกหน้าไปละเป็นโดน เขาลองของกันซึ่ง ๆ หน้าทั้งนั้น พวกเล่นไสยศาสตร์ส่วนใหญ่จะร้อนวิชา ยังโชคดีว่าหลวงพ่อกวยท่านเล่นมาหนักขนาดนั้น แต่ท่านมั่นคงในเรื่องของศีลพระมาก ท่านไม่ทำอะไรใครแต่ว่าเรียนไว้กันตัวเอง ท่านก็เลยใช้คาถามนต์พระกาฬ
คาถามนต์พระกาฬนี่น่ากลัวมาก อาตมาไม่กล้าใช้เลย คือโดยพื้นดวงของอาตมานั้น อริเป็นมรณะอยู่แล้ว ขืนไปใช้ก็บรรลัยหมด สมัยหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ท่านเรียกว่ายันต์มหากาฬ ก็คือท่านจะลงกระหม่อมให้ ปรากฏว่าลูกศิษย์หลวงปู่ปาน วัดบางนมโคไปหา ท่านบอกว่า “ของที่รับไว้ก็ดีแล้ว ไม่ต้องลงอีก” คราวนี้พอลูกศิษย์หลวงพ่อเดิมจะไปรับยันต์เกราะเพชร หลวงปู่ปานท่านก็บอกว่า “ของที่ได้มาก็เหลือเฟือที่จะคุ้มตัวแล้ว ไม่ต้องรับใหม่” ตกลงว่า ๒ อาจารย์ท่านบอกว่า "ความรู้ยันกัน" ท่านหนึ่งใช้คาถายันต์มหากาฬ หรือมนต์พระกาฬ อีกท่านก็ดังทางยันต์เกราะเพชร"
"จริง ๆ แล้วก็กันไสยศาสตร์ได้เหมือนกัน ประเภทของหลวงพ่อกวยท่านกันกลางวัน กันกลางคืน กันทุกเวลา เรียกว่ายันต์มหากาฬหรือคาถามนต์พระกาฬ แต่ว่าจำกัดอยู่ที่ว่าถ้าไปเจอข้อห้าม หรือที่ต่ำเข้าก็จะเสื่อม แต่ถ้ายันต์เกราะเพชรเป็นพุทธานุภาพ...ไม่เสื่อมแต่รักษายากกว่า ผิดศีลก็หายไปเลย"
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
(หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน)
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมกราคม ๒๕๖๑