หลวงพ่อเอเมตตาเล่าถึง พิธีปลุกเสกวัตถุมงคล วัดบ้านห้วยน้ำขาว จังหวัดกาญจนบุรี (๒๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๓)
วันที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๓ พระมหานันทวัฒน์ เขมธัมโม (พระอาจารย์เอ) ได้รับอาราธนานิมนต์จาก พระครูวิโรจน์กาญจนเขต,ดร. เจ้าอาวาสวัดบ้านห้วยน้ำขาว นั่งอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลของวัดบ้านห้วยน้ำขาว จังหวัดกาญจนบุรี ในงานนี้มีการจัดสร้างรูปเคารพท่านเเม่กวนอิม ๓ พักตร์ด้วย ท่านเจ้าอาวาสจึงได้ขอความเมตตาจากพระอาจารย์เอช่วยปลุกเสกเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งภายหลังจากพิธี แอดได้มีโอกาสฟังเรื่องเล่าจากพระอาจารย์ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในพิธี จึงขออนุญาตพระอาจารย์ ในการถอดเทปบทสนทนา เพื่อนำมาแบ่งปันให้ลูกเพจทุกคนได้อ่านกันครับ...
อาตมาไปพุทธาภิเษกที่วัดบ้านห้วยน้ำขาวครั้งนี้ตามคำสั่งของท่านแม่ เพราะวัตถุมงคลในงานนี้มีท่านแม่กวนอิม ๓ พักตร์อยู่ด้วย...(ปกติจะไม่รับเสกนอกสถานที่ เนื่องจากป่วย) ท่านสั่งว่า อีกไม่นานเขาจะมานิมนต์แกไปช่วยเสกรูปเหมือนฉัน ให้รับ ฉันจะไปเสกให้เอง เพราะที่นี่เจ้าอาวาสให้ความเคารพฉัน และวิงวอนฉัน ฉันจึงช่วยที่นี่มาตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ให้แกบอกเขาด้วยว่า ให้ผูกโยงสายสิญจน์จากรูปเคารพองค์ใหญ่ของฉันที่ศาลา ๘ เหลี่ยมมาที่กองวัตถุมงคลด้วย เป็นตามนั้นทุกประการ
ตามประวัติการสร้างท่านแม่กวนอิมปางนี้ ในแต่ละพักตร์จะมีความหมายมงคล แตกต่างกันไป
๑.พระพักตร์ด้านที่ถือพระคัมภีร์ หมายถึงการศึกษาปริยัติข้อธรรมต่างๆ
๒.พระพักตร์ด้านที่ถือประคำ นั่นหมายถึงการปฏิบัติ สวดมนต์เจริญภาวนา
๓.พระพักตร์ด้านที่ถือดอกบัวทองคำ หมายถึงความสำเร็จ รู้แจ้งแทงตลอดด้วยปัญญาคือปฏิเวธ...
ส่วนตัวอักษรหน้าตาแปลกๆ บริเวณซุ้มรัศมี เขียนด้วยภาษาธิเบต ว่า “โอม มณี ปัทเม หุม”อันเป็นหัวใจของพระโพธิสัตว์...
ในระหว่างการพุทธาภิเษกนั้น ท่านแม่กวนอิมได้เสด็จมาสงเคราะห์ตลอดพิธี ท่านมารอแต่แรก ท่านให้อาตมาเข้าสมาธิแค่ชั่วเทียนต้นเดียวคือครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งน่าอัศจรรย์นัก เพราะเมื่ออาตมาออกจากสมาธิ เทียนก็อยู่ขอบบาตรพอดีเป๊ะ ซึ่งตรงกับเวลาครึ่งชั่วโมงของท่านแม่พอดี...
การพุทธาภิเษกในครั้งนี้ เพียงแค่หลับตาลง ลำแสงรัศมีสีขาวหลั่งไหลพรั่งพรูลงมาจากเบื้องบน เหมือนน้ำตกขนาดใหญ่ ไม่มีการขาดช่วง หนักหน่วงและรุนแรง เมื่อลำแสงนั้นพุ่งกระทบกับกองวัตถุมงคลที่อยู่ตรงหน้า ก็กระจายออกเป็นวงกว้างกลายเป็นกลีบดอกบัวใหญ่มหึมา แล้วหุ้มห่อกองวัตถุมงคลทั้งหมดจนมิดชิด ประกายแก้วแพรวพราวสว่างไปทั่วอาณาเขต มีสีชมพูเรื่อๆเป็นขอบที่สุดแห่งประกายแสงนั้น ไม่ผิดแล้ว นี่คือท่านแม่ อาตรับรู้ถึงพลังงานที่คุ้นเคยและประกายแสงลักษณะนี้ได้อย่างชัดเจน ท่านสั่งให้เข้าสมาธิลึกๆอย่าดู ในขณะที่ท่านเสก ดังนั้นจึงมีช่วงหนึ่งที่อาตมาต้องหายไปเลย เวลาผ่านไปแค่ไหนไม่ทราบ ท่านว่าใช้ได้แล้ว อาตมาจึงต้องลดกำลังใจลงเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตอนนี้ เห็นดอกบัวเพชรประกายชมพู ใสเหลือเกิน หุ้มห่อกองวัตถุมงคลทั้งหมด ไม่เพียงเท่านี้ วัดทั้งวัดถูกปกคลุมไปด้วยรัศมีของท่านแม่ ช่างงดงามและน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก เพิ่งมารู้ภายหลังว่า ท่านเจ้าอาวาสไม่เพียงแค่โยงสายสิญจน์จากท่านแม่องค์ใหญ่มาเท่านั้น ท่านกลับโยงจากท่านแม่องค์ใหญ่ที่ศาลา ๘ เหลี่ยม แล้วพาโยงไปทั่วทั้งวัดอีกต่างหาก มิน่าเล่า ท่านถึงได้เสกทั้งวัดกันเลยทีเดียว...
พอมองเข้าไปในกองวัตถุมงคลเหมือนทุกอย่างมีชีวิตแล้ว กระแสแห่งเมตตาและร่มเย็น กระจายออกจากวัตถุมงคลทุกชิ้น ท่านว่าเมตตานี่แหละดีที่สุด ท่านแม่จึงมักเน้นเรื่องเมตตานำมาก่อนเสมอ...
วันนี้พระวรกายของท่านแม่ขาวสว่างใสจริงๆ ขาวเป็นแก้วเลย..! และท่านก็เมตตาเสกให้องค์ขนาดบูชาสว่างขาวใสทุกองค์... ท่านแม่เน้นสงเคราะห์ด้านการเจริญพระกรรมฐานเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นบุคคลที่ได้บูชาท่านไป แล้วกลับไปสวดมนต์ภาวนา กรรมฐานจะเจริญก้าวหน้าดี หากท่านใดต้องการศึกษาพระธรรม ก็สามารถเรียนรู้ข้อธรรมต่างๆได้โดยง่าย บวกกับความสำเร็จที่ท่านพร้อมประทานให้ทุกเมื่อ ด้วยนิมิตแห่งดอกบัวทองคำ จึงนับเป็นวัตถุมงคลที่มีอานุภาพครบสมบูรณ์ทั้งเมตตา ปัญญา และความสำเร็จ ส่วนลาภผลนั้น ท่านแม่มีมากอยู่แล้วจงขอพรเอาเถิด
นอกจากนี้ ภายในพิธียังได้รับความเมตตาจาก ท่านพ่อท้าวมหาราชทั้งสี่ ได้มาสงเคราะห์อนุเคราะห์คุมพิธีให้อีกด้วย ท่านว่า วันนี้ไม่มีใครเชิญฉัน ทั้งที่พิธีใหญ่และต้องการความรัดกุมขนาดนี้ ในฐานะที่เธอรู้จักฉัน ให้ความรักเคารพกัน ฉันจึงมาให้ นี่เป็นคำพูดของท่านพ่อเวสสุวรรณ องค์อื่นท่านไม่พูด อาตมาจึงขออาราธนาเชิญท่านทุกองค์เมตตาสงเคราะห์กองวัตถุมงคลให้ด้วย ยังไม่ทันกำหนดใจจบ เห็นกระบองของท่านพ่อเวสสุวรรณขยับเพียงนิดเดียว แสงแปลบปลาบก็พุ่งออกมา วิ่งเข้าสู่กองวัตถุมงคลเหมือนระเบิดสายฟ้า ที่มีกำลังทำลายล้างมหาศาล ช่างเต็มไปด้วยมหาอำนาจน่าเกรงกร่ิงยิ่งนัก กระบองท่านเป็นเพชรทั้งหมด ท่านว่าต้องจัดการ....เสียก่อน ปล่อยไว้ไม่ได้ ในขณะที่องค์อื่นก็ถืออาวุธครบ ยืนสง่างาม องอาจ ช่วยคุมงานไม่ให้ใครมาทำอันตรายพิธีได้ อาตมาต้องกราบขอบพระคุณและถวายกุศลทุกพระองค์ในความเมตตาที่มีให้
ดังนั้น ท่านแม่จึงรับหน้าที่เสกของในกองวัตถุมงคลด้านเมตตา และลาภ ส่วนด้านมหาอำนาจ หรือ การป้องกัน ในฝ่ายปราบ จะเป็นหน้าที่ของท่านพ่อท้าวมหาราชทั้งสี่ ส่วนพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง เห็นท่านมาพักเดียว ท่านโบกมือลา จึงรีบเข้ากราบท่าน ๆ ว่า แม่เขาจัดการแล้ว ฉันไม่ต้องทำอะไรแล้ว แต่องค์ที่อาตมาเห็นว่าท่านมาเสกเป็นจริงเป็นจัง คือ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่านั่นเอง อาตมาไม่ทราบได้ว่า ท่านมาทำไม..? ได้มีเล่าให้ท่านเจ้าอาวาสฟังหลังพิธี ท่านทำตาโตร้องบอกว่า ก็ยันต์ นะ ฤๅ ชา เป็นยันต์ของหลวงปู่ท่าน และมีอีกหลายอย่างที่เกี่ยวกับท่าน ๆ จึงมาสงเคราะห์มั้งครับ...แม้กระทั่ง ฤๅษีทั้ง ๑๐๘ ท่านมาหมดมาช่วยกันเสก ได้ถามท่านว่า มาได้อย่างไรครับ ท่านว่า ที่นี่แต่เดิมเคยเป็นที่ที่ฤาษีมาบำเพ็ญตบะ และที่มาได้เพราะพระอาจารย์บ๊ะด้วย ตั้งแต่รอบที่ท่านเพิ่งเสกไป ท่านว่างานของพวกท่านยังไม่เสร็จ อาตมาก็ไม่ได้ถามเซ้าซี้อะไร เท่ากับว่า งานนี้ครูบาอาจารย์ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตช่วยกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้งานพระศาสนาเดินหน้าต่อไป ในขณะที่ทุกพระองค์ต่างช่วยกันเมตตาเสกของให้ อาตมาได้แต่นั่งดู ท่านสั่งให้เข้าสมาธินิ่งๆ ทำตัวเป็นเครื่องส่งผ่านพลังงานทั้งหมด ก่อนที่ท่านทั้งหลายจะเสกเสร็จ อาตมาได้ย้ำอธิษฐานลงไปว่า ขอให้วัตถุมงคลทั้งหมดช่วยสงเคราะห์ผู้ที่บูชาไปให้เห็นผลไว ๆ ตามอานิสงส์แห่งวัตถุมงคลชิ้นนั้นๆ ขอให้จำหน่ายหมด ให้วัดคล่องตัว ให้โยมคล่องตัวด้วยเช่นกัน ให้งานพระศาสนาดำเนินไปได้อย่างดี ให้วัตถุเหล่านี้กลายเป็นวัตถุมงคลสมแก่ฐานะเถิด เอวํ.....
**************************
มีพระท่านไปกราบพระอาจารย์ที่อินทร์บุรีมาเล่าให้ฟังว่า
ได้สนทนากับท่านเรื่องตะกรุด ท่านบอกว่า ตะกรุดที่ทำยากสุด ๆ มีอยู่ 3-4 อย่าง
เช่น
1.ตะกรุดมหาจักรพรรดิ
2.ตะกรุดมหาโสฬสมงคล
3.ตะกรุดมหาระงับ
ถามถึง ตะกรุดมหาโสฬสมงคลชินบัญชรเงินล้าน ของวัดห้วยน้ำขาว ที่ท่านไปเสก ท่านบอกว่า ตะกรุดนี้โคตรดีเลย อานุภาพครอบคลุมทุกอย่างแล้ว ตะกรุดบางอย่างก็มีเฉพาะเมตตา,มหาอุด หรืออานุภาพเฉพาะด้านไป แต่อันนี้ครบทุกอย่าง เพราะตัวยันต์โสฬสไส้ในสุดจะเป็นกลตัวเลข ที่บวกกันรวมออกมาได้ 15 คือกำลังพระจันทร์ อานุภาพเมตตา ความอุดมสมบูรณ์ ส่วนเรื่องป้องกันก็มี ยันต์รอบนอกที่เป็น บารมี 10 แล้วยังมีอาวุธ 4 คลุมอยู่อีกชั้น และยังมียันต์ไตรสรณคมน์อีกด้วย เพราะฉนั้นครอบคลุมมาก ถามท่านว่า แล้วต้องอาราธนายังไง ท่านบอกว่า ไม่ต้อง...แค่นึกถึงก็ใช้ได้แล้ว เปิดออโต้ไว้ให้เลย ขออะไรก็ขอ เดี๋ยวไม่ทันทำมาหาแดก
ส่วนตะกรุดมหาจักรพรรดิถามท่านว่า มีพระอาจารย์วัดปากน้ำท่านบอกว่า พระอาจารย์เชิญฤาษี 108 ไปทำพิธีด้วย อันนี้เพราะตะกรุดจักรพรรดิใช่ไหม ท่านมองหน้ายิ้ม ๆ แล้วตอบว่า ใช่ เพราะตะกรุดจักรพรรดิ ทำยาก พิธีจริง ๆ แล้วต้องใช้พระ 108 รูป แล้วก็บ่นว่าทำโคตรยากเลย ถามถึงอานุภาพ ท่านบอกว่า ยันต์โสฬสเป็นกลตัวเลข ส่วนจักรพรรดิเป็นกลอิติปิโส 108 เดินตามตารางพิชัยสงคราม อานุภาพครอบคลุมทุกอย่างเหมือนกัน
มีพระถามถึงวัวธนูและควายเผือกว่าต้องเลี้ยง ต้องบูชาอย่างไร ท่านบอกว่า ท่านไม่เสกให้เป็นภาระชาวบ้านหรอก จะเลี้ยงก็ได้ไม่เลี้ยงก็ได้ แค่นึกถึงให้ป้องกันคุ้มครอง หรือจะขออะไรก็ขอ เพราะท่านเสกเป็นทนสิทธิ์หมดแล้ว ไม่ต้องเลี้ยงก็ได้ ถามท่านว่า คล้าย ๆ ผ้ายันต์เสือของท่านใช่ไหม ท่านตอบว่าใช่
*******************
ตะกรุดมหาโสฬสมงคลชินบัญชรเงินล้าน
ประกอบด้วยยันต์มหาโสฬสมงคล ล้อมด้วยพระคาถาเงินล้าน กรึงสี่มุมด้วยยันต์อิสวาสุ
และยันต์สุกิตติมา (มหาละลวย) ล้อมด้วยพระคาถาชินบัญชร
จัดว่าเป็นตะกรุดที่มีอานุภาพครบถ้วนบริบูรณ์ทุกด้าน ทั้งด้วยตัวยันต์ (ทั้งกันและแก้ในตัว ทั้งป้องกัน เรียกทรัพย์ เมตตา มหาลาภ หนุนดวง) และพุทธานุภาพที่ครูบาอาจารย์ท่านสงเคราะห์ให้เต็มที่
******************************
ครูบาอาจารย์ที่เมตตา
มาพุทธาภิเษกในวันที่ ๒๔-๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๓
๑.พระครูสมุทรพิทยาคม (หลวงพ่อใจ) วัดพระยาญาติ
๒.พระครูวิลาศกาญจนธรรม,ดร. (หลวงพ่อเล็ก) วัดท่าขนุน
๓.พระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ เจ้าอาวาสวัดท่าซุง
๔.พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม (พระอาจารย์บ๊ะ) วัดโพธิ์ลังกา
๕.พระมหานันทวัฒน์ เขมธมฺโม (พระอาจารย์เอ) วัดปากน้ำภาษีเจริญ
๖.พระปลัดเอกลักษณ์ ปญฺญาคโม วัดพุทธพรหมยาน