" ตะกรุดมนต์พระกาฬ " รุ่น ๓ ปี ๒๕๖๔ ลพ.เล็ก วัดท่าขนุนร่วมเสก (องค์มหาเถรคันฉ่องพระเถราจารย์ชาวมอญได้มาร่วมในพิธี)

ตะกรุดพระกาฬ  รุ่นที่๓ (พิธีเดียวกับผาลไถ พ่อครูศริริพงษ์)

" ตะกรุดมนต์พระกาฬ " รุ่น ๓ ปี ๒๕๖๔

" ตะกรุดมนต์พระกาฬ " จัดสร้างสืบวิชาบูชาตำราของบูรพาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมแห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ถือคติสร้างเป็นเครื่องยึดกำลังใจให้ประกอบความดีโดยไม่ย่อท้อ
รุ่นที่๓ จัดสร้างทั้งหมด ๒ เนื้อ

๑.เนื้อดีบุก จัดสร้าง ๙ ดอก ขนาดกว้าง ๑ ซม. ยาว ๑๖ ซม.

๒.เนื้อทองแดง ผสมชนวนวิเศษ คลุกผงโอบผงวิเศษศักดิ์สิทธิ์ ผงตะไบโลหะพระสำคัญ ลงสีปิดทองคำเปลว ชนิดทองคำคัดพิเศษ (กิมซัว)

มีขนาดกว้าง ๑.๓ นิ้วยาว ๕ นิ้วม้วนแล้ว กว้าง ๑.๓ นิ้ว

***** พิธีกรรมต่าง ๆ *****

นำเข้าประจุมนต์ในวาระสำคัญๆ ที่ข้าพเจ้าได้ทำการประจุ ตั้งแต่วันเพ็ญเดือนสิบสองของปี พ.ศ. ๒๕๖๓ เรื่อยมา จนกระทั่งปี พ.ศ.๒๕๖๔ พอสรุปดังนี้

- นำเข้าพิธีพุทธาภิเษก พิธีตั้งบ้าน ตั้งเมือง ณ วัดบึงลาดสวาย อ.บางเลน จ.นครปฐม พิธีนี้ว่ากันว่า องค์มหาเถรคันฉ่องพระเถราจารย์ชาวมอญได้มาร่วมในพิธี เพราะคาถาที่เสกผมภาวนาบทคาถาพาหุงไม่ขาด ก็ได้รับบารมีอย่างเต็มเปี่ยม  โดยมีหลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน ร่วมเสก (นิมิตรตามท่านได้เล่าไว้)

- นำเข้าพิธีสวดภาวนาบูชาพระอิศวร ในวันศิวะราตรีอีก ๑ คืน และ ๑ วัน

- นำเข้ากราบขอบารมีองค์พระกาฬ ณ ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร

- นำเข้ากราบขอบารมี พระพุทธบาทที่สระบุรี ( ใครประสงค์ไม่ดี ต่อตัวเรา หากเราตั้งมั่นในความดี ขอให้แพ้อำนาจบารมีและสิ่งที่บุคคลใดกระทำมา ขอสิ่งนั้นจงแพ้และยุติอยู่ที่ใต้พระบาทของพระพุทธเจ้า)

- นำเข้ากราบขอบารมี ณ เจ้าพ่อศาลพระกาฬ หรือเจ้าพ่อศาลสูง อ.เมือง จ.ลพบุรี ด้วยเชื่อว่าพลังงานของท่านไม่ใช่พระกาฬธรรมดา....

วาระสุดท้าย วันเสาร์ที่ ๒๐ มีนาคม อัญเชิญขอบารมีจากองค์พระอิศวรมหากาลไภรวะ (องค์พระพิราพ) ขอบารมีให้ท่านเมตตาประสิทธิเพิ่มพลัง " ตะกรุดมนต์พระกาฬมหาสะท้อน " เป็นวาระพิเศษ ครบถ้วนบริบูรณ์ จากตำนานที่กล่าวถึงองค์มหาเทพผู้ทรงบารมีแห่งจักรวาล สู่ตะกรุดชุดนี้นับว่าเป็นบุญและวาสนาแก่ผู้ที่ได้ครอบครองตะกรุดมหามงคลนี้

***** ปฐมแห่งเหตุแห่งการจัดสร้าง *****

เหตุที่ทำเพราะ.....ทำเพื่อสงเคราะห์คน จิตใจของคนในปัจจุบัน มีความหยาบขึ้น อยากแท้หยั่งถึง รู้หน้าไม่รู้ใจ จิตใจร้ายขึ้นกว่าเดิม ในยุคของฅนดีที่ชอบโดนรังแก อันนี้ก็ต้องว่ากันไปตามผลของการกระทำ แต่สิ่งเหล่านี้ที่ผมสร้างยึดตามทำเนียมโบราณ เสมือนเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ " เมื่อทำดีเราก็ต้องได้ดี" หาใช่สร้างออกมาเพื่อสนองกิเลสตัวเองว่า....เรามีของดีจะเที่ยวรังแกข่มเหงผู้อื่นแบบนี้ไม่ดีแน่ เทพเทวดาท่านย่อมรับรู้ในสิ่งที่กระทำแน่นอน จากผลดีจะกลายเป็นแย่ ให้ท่านตั้งจิตบำเพ็ญความดีต่อไป

"วิชาพระกาฬ" อันนี้ต้องบอกเลยว่า ที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์มากที่สุดคือ วิชามนต์พระกาฬ ของหลวงพ่อกวย แห่งวัดโฆษิตาราม จังหวัดชัยนาท พระผู้วิเศษแห่งเมืองสรรคบุรี ด้วยอานุภาพความขลังของคาถานี้ ทำให้วัตถุมงคลของท่านมีอัตราการแลกเปลี่ยนเพื่อครอบครองที่สูงมาก ทำให้ผมเลยนึกขึ้นได้ว่าในสายวิชาผมที่เรียนมานั้นก็มีคาถาพระกาฬเช่นกัน จริงๆแล้วมนต์พระกาฬมีปรากฏตามสายวิชาของพระเกจิรูปอื่นก็มีครับ

ด้วยอานุภาพที่ว่ากันว่า " ใครคิดร้าย คิดไม่ดี สิ่งที่คิดจะสะท้อนย้อนกลับไปหาตัวผู้ที่คิดอาฆาตมาตร้ายนั่นเอง "

ก่อนอื่นเลยเราต้องทำความรู้จักกันก่อนว่า พระกาฬ ท่านคือใคร เรามาทำความรู้จักท่านไปพร้อมๆกันเลยครับ

" พระกาฬ "เมื่อสืบค้นข้อมูลในออนไลน์ก็จะพบการให้ความหมายของเทพองค์นี้ต่างกันไปดังนี้

๑.พระกาฬ หมายความถึง พระอิศวร ในภาคดุร้ายของพระอิศวรก็คือ องค์มหากาลไภารวะหรือองค์พระพิราพ นั่นเอง นอกจากนี้ยังให้ความหมายคำว่า กาฬ = ดำ นั่นเอง

๒.ตำแหน่งให้เทพผู้มีบุญและฤทธิ์มากองค์หนึ่งว่า "พระกาฬ" ผู้ทำหน้าที่ร่วมกับ"พระยม" เป็นตัวแทนแห่งความตาย อันนี้จะไปสอดคล้องกับ "พระกาฬไชยศรี" เทวดาผู้ดูแลรายชื่อคนเกิดคนตาย ในบ้านเมือง กับพระเสื้อเมืองพระทรงเมือง อันนี้ถ้าลองเปรียบเทียบกับเทพในฝั่งเจ้าจีนก็จะคล้ายๆกับองค์ปักเต้าแชกุน องค์นำเต้าแชกุน (อันนี้ในความคิดนะครับ เพราะหน้าที่ท่านคล้ายๆกัน)

๓.คืออสูรตนหนึ่งนามว่า "กาละอสูร"(เวลา) ผู้ที่กลืนกินเวลา กลางวันและกลางคืน ขอสรรพสิ่งต่างๆ ดวงตาข้างหนึ่งเป็นพระอาทิตย์ อีกข้างเป็นพระจันทร์ วรกายสีดำ หน้าตาน่ากลัว อันนี้คงไปพ้องเสียงกับคำว่า กาล นั่นเอง

แต่ท้ายที่สุดแล้วก็หมายถึงเทพเจ้าองค์หนึ่งที่ให้ความเป็นและความตายต่อผู้บูชาได้เช่นกันแต่ถ้าบูชาให้ดีท่านก็อำนวยอวยพรให้เช่นกัน

ผมได้นึกถึงคาถาบทหนึ่งที่คุ้นตาว่า " คาถาพระกาฬ " โดยคาถามีทั้งหมด ๑๖ คำเดินสลับกลบทท้ายของคาถาระบุอานุภาพของคาถาบทนี้ว่า ภาวนาไว้ไม่ตกนรก สารพัดศัตรูคิดร้าย บรรลัยไปเอง (แพ้ภัยไปเอง) จะเห็นได้ว่าอานุภาพของคาถาก็ค่อนข้างที่จะมีผลในทางให้คนที่คิดไม่ดีต่อเรานั้นได้รับผลนั่นเอง ตำรานี้เป็นตำราวิชาครูบาอาจารย์ผมของสายอยุธยาเมืองราชธานีแห่งประวัติศาสตร์และสรรพวิชาสำคัญของไทย

แต่ทั้งนี้ตัวท่านเองต้องตั้งไปด้วยชอบประกอบไปด้วยธรรมด้วยหละ ซึ่งตัวผมเองเคยได้สอบถามเกี่ยวกับคาถาบทนี้กับอาจารย์ผมมานานแล้ว ท่านบอกว่าคาถานี้จะให้ได้ผลชัดขึ้นต้องใช้คู่กับคาถาบทหนึ่งซึ่งก็คือ " คาถาเพชรกลับมาปมาร " เนื้อหาคาถาบ่งบอกถึงสิ่งที่ผู้ที่ประสงค์ร้ายต่อตัวเรา ไม่ว่าเค้าทำอะไรมา จากมนุษย์ อมนุษย์และสิ่งที่มองไม่เห็น จะสะท้อนย้อนกลับไปหาผู้นั้นและเร่งผลของการกระทำของผู้ประสงค์ร้ายนั้นให้เห็นผลชัดขึ้นเรียกว่า ใครทำคนนั้นก็รับจบไป...

ตัวผมเองได้สอบถามจากอาจารย์ผมว่าถ้าหากนำคาถาทั้งสองบทนี้มาเสกคู่กัน ทำของขลังคู่กันไปจะสมควรหรือไม่ ? ท่านตอบมาว่า .. " ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ " แต่ต้องพิจารณาให้คนไปตามเหมาะสมและทำให้ดี อันนี้ท่านกล่าวปิดท้าย

ผมเลยลองวิเคราะห์ดูในส่วนที่เราทำ ทำเพราะเราทำเพื่อสงเคราะห์คน จิตใจของคนในปัจจุบัน มีความหยาบขึ้น อยากแท้หยั่งถึง รู้หน้าไม่รู้ใจ ใจร้ายขึ้นกว่าเดิม ในยุคของฅนดีโดนรังแก อันนี้ก็ต้องว่ากันไปตามผลของการกระทำ แต่สิ่งเหล่านี้ที่ผมสร้างยึดตามทำเนียมโบราณ เสมือนเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เมื่อทำดีเราก็ต้องได้ดี จริงมั้ยครับ

นอกจากคาถาทำนองนี้ทำให้นึกถึง " ยันต์มหาสะท้อน " อันเป็นยันต์ที่สืบทอดกันมาในฝั่งวิทยาคมลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา เราๆเรียกกันว่าวิชาฝั่งภาคกลาง ยันต์มหาสะท้อนนี้ นอกจากจะให้ผลตามชื่อยันต์แล้ว ยังส่งผลทางปกป้องคุ้มครองป้องกันกันภัยอีกด้วย ยันต์นี้ที่ผมได้เรียนมา มีเกร็ดวิชา เคล็ดตอนลง ตอนเสกอีกยิบย่อยแต่ถ้าทำตามสูตรยันต์นี้จะทรงอานุภาพมากตามตำรา ซึ่งตีค่าวิชาไว้ " พันตำลึงทอง " ตำลึง คือมาตรหน่วยค่าเงินมีค่าในสมัยโบราณ ไม่ใช่ตำลึงพันเถาไม้เลื้อยนะจ๊ะ ถ้าตำลึงแบบนั้นผัดน้ำมันจิ้มน้ำพริกกะปิจะเหมากว่า ว่าแล้วขอข้าวร้อนๆกับปลาทูทอดสักจาน (ในส่วนของรายละเอียดการประกอบยันต์ชุดนี้ผมขออนุญาตยกข้ามไปนะครับ เพราะเป็นเรื่องของสายวิชาไม่ใช่เรื่องสาธารณะที่จะมาเปิดเผยการ อาหารรสชาตดีจึงต้องมีสูตรลับ)

***** ขั้นตอนการจัดสร้างและพิธีกรรม ******

ในพรรษาหลายๆปีที่ผ่านมา ผมได้เตรียมชนวนโลหะสำคัญๆ ที่สะสมไว้ นำไปจ้างโรงหล่อโลหะเอามารีดแผ่นลงจารยันต์ต่างๆลงไป ผมได้ลงถมด้วยวิชาคุณพระสะส่วนมาก ผมลงถมแล้วหลอมรีดต่างๆมาทำชนวน ในพรรษาหรือไตรมาสผมถือว่าเป็นช่วงเวลาที่บรรดาเหล่านักเวทย์ ต่างๆย่อมอาศัยช่วงเวลาสำคัญนี้ ประจุอาคม ปลุกเสก สาทะยายมนต์ต่างๆ ลงในวัตถุมงคลต่างๆ ผมยังเขียนแผ่นชนวนดังกล่าวคาถาพระกาฬ,คาถาเพชรกลับสาปมาร,คาถามหาสะท้อน,ยันต์มหาสะท้อนบทเต็มละบทย่อ,คาถาพระเจ้าพิชิตไพรีพ่าย และคาถาบทอื่นๆเป็นต้นแผ่นชนวนที่ท่านเห็นนี้ผมเพียรบริกรรมเสกในไตรมาส ตลอดระยะเวลา ถ้าถามว่าเสกกี่จบผมกล้าตอบได้ว่า เป็นพันๆจบ ที่บริกรรมไปเพราะว่างเมื่อไหร่ สะดวกเมื่อไหร่ผมก็จะนำแผ่นมาบริกรรมเสกลงทุกครั้งไป

*****ความพิเศษของฤกษ์ที่ใช้ตอนรีดแผ่น*****

ในการรีดแผ่นจากโรงงานหลอม ผมใช้ฤกษ์ "เพชฌฆาตฤกษ์" เป็นฤกษ์ดีหมาะสำหรับ การฟันผ่าอันตรายและอุปสรรค ต่อสู้เสี่ยงภัยต่างๆ อาสางานใหญ่ ทำกิจปราบปรามศัตรู ตัดสินคดีความ งานที่ใช้การตัดสินใจอย่างเด็ดขาดซึ่งฤกษ์นี้มีความเด็ดขาดมาก อีกอย่างที่ใช้ฤกษ์นี้ ไปพ้อวเสียงกับคำว่า "เพชฌฆาต" ที่หมายถึงผู้ประหารนักโทษ เช่นเดียวกันครับใช้เคล็ดนี้เป็นการตัดไม้ข่มนามเพราะหมายให้สิ่งที่ไม่ดี ไม่งามทั้งหลายทั้งปวงที่จะเกิดขึ้นจากผู้ที่คิดร้าย คิดไม่ดี ให้สิ่งที่เค้าคิดกระทำ มันฝ่อและไม่เกิดผล

ชนวนมีความหนืดและข้นมาก ผมจึงต้องเติมทองแดงเพิ่มเพื่อให้นิ่มและอยู่ทรงง่ายก็เปลืองงบไปอีกด้วยนิสัยผมถ้าทำทั้งทีต้องทำให้ดี ดีนอก ดีใน แผ่นเอย ชนวนเอย จะลงแต่ละครั้งก็ประสระแผ่นตามที่ได้ร่ำเรียนมา งานนี้ผมสั่งโรงรีดแผ่นว่า อันนี้ผมทำๆทั้งทีต้องถึงเครื่องตามนิสัยผม แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการจ้างหลอม รีดแผ่นออกมาแต่ละครั้งจะสูงเพียงใด ผมก็ยินดีที่จะทำเพราะรักในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ ทั้งนี้ครูบาอาจารย์ผมเองได้แนะนำเพิ่มเติมให้เพิ่มคาถาต่างๆและเคล็ดลงไปอีก ซึ่งนับเป็นความเมตตาจากครูอาจารย์ของผมในสายวิชาผม

ในแผ่นยันต์ลงอักขระหลักๆดังนี้ครับ

๑.คาถาพระกาฬฉบับเต็มสูตร

๒.หัวใจพระกาฬ ตัวเต็มและตัวย่อ

๓.ยันต์มหาสะท้อนเป็นต้น

เมื่อลงอักขระเรียกสูตรเรียกนามบริกรรมปลุกแล้วจึงม้วนกรึงด้วยคาถาตรึงพระธรณี คาถากันคัด ถอน อาคมออกจากตะกรุด แล้วจึงปลุกฤทธิ์ยันต์และบริกรรมบทอื่นๆอีก เช่นคาถาเพชรกลับสาปมาร

ตะกรุดมนต์พระกาฬนี้ ถือว่าเป็นรุ่น ๓ ที่ผมจัดสร้าง เพราะรุ่นแรกสร้างปี ๒๕๕๖ จำนวน ๑๖ ดอก ขนาด ๑ นิ้วเนื้อเงินถวายให้ครูบาอาจารย์ ๙ ดอกที่เหลือขอมาแจกแต่พิจารณารายคนไป ก็มีประสบการณ์มาเล่าให้ฟังก็มากมาย

รุ่นที่ รุ่น๒ เต็มสูตรมาก สร้างเพียง ๓๒ ดอกเท่านั้นไม่ได้สร้างเยอะมากมายเพราะทำขึ้น เพื่อสืบวิชาในสายวิชาของผมเองและไม่ได้อุปโลกนั่งเทียนเขียนนิยายขายฝันนั่นเอง " ครูพาสร้างแบบไหนก็ทำตามครู "

"ตะกรุดมนต์พระกาฬ" เนื้อทองแดง ผสมชนวนวิเศษ กว้าง๑.๓นิ้ว คลุกผงโอบผงวิเศษศักดิ์สิทธิ์ ผงตะไบโลหะพระสำคัญ ลงสีปิดทองคำเปลว ชนิดทองคำคัดพิเศษ (กิมซัว)  

" ตะกรุดมนต์พระกาฬ " ทุกดอกจะมีใบฝอยคาถาการบูชาให้อย่างละเอียด ประมาณกระดาษสี่และห้ามมิให้เผยแพร่คาถานี้ให้กับใคร

เว้นเสียแต่ลูกหรือทายาทในสายเลือดสืบทอดเท่านั้น!!!!! มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดข้อห้ามของครูบาอาจารย์

ทั้งนี้ท่านที่ได้ครอบครองก็ตั้งตนในศีลธรรม ไม่ประมาทไม่ข่มแหงรังแกผู้น้อยมีเมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขาและก็ไม่ได้หวังว่าจะมีคนมาเช่าบูชาเยอะ เพราะอย่างที่บอกสร้างเพื่อสืบวิชาและสงเคราะห์คนที่ทำดีแต่โดนรังแก

เงินจากการบูชาจะทำบุญบูช