จระเข้โทน รุ่น 2 หลวงพ่อสนิท ปี 2516 เลี่ยมกรอบเงินลงยา (สั่งเกลี่ยมรอประมาณ ๑ สัปดาห์)

เครดิตภาพและข้อมูล คุณศักดิ์ตะวัน  ป้องไม้

จระเข้โทน รุ่น 2 โค๊ตหัวอุ (ไม่ตอก ทบ)
จระเข้รุ่นดังของหลวงปู่ที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านเป็นอย่างสูง คือ รุ่นนี้ครับ รุ่น 2 (ทบ) ตามประวัติสร้างเมื่อปี 2516-2519 คณะพ่อค้า ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ได้มาขอร้องให้หลวงปู่สร้างรุ่นที่ 2 ขึ้น โดยมีคณะกรรมการหลายฝ่าย ร่วมกันจัดหาทุนสร้างจระเข้รุ่นสองนี้ขึ้น จระเข้รุ่นสองนี้ได้สร้างขึ้นจำนวน 100,999 ตัว ทำการปลุกเสก 3 เดือน (ไตรมาส) นับว่าเป็นรุ่นที่พิเศษ เมื่อทำการปลุกเสกเสร็จ ทางคณะกรรมการได้แยกประเภทไว้ดังนี้
1.ได้ทำการแจกแก่ผู้ที่สั่งจองเอาไว้ก่อน จำนวน 3,500 ตัว
2.ได้จัดไว้ให้เช่าบูชาตัวละ 200 บาท จำนวน 5,000 ตัว
3.ถวายหลวงปู่ไว้แจกจ่ายแก่ลูกศิษย์ จำนวน 3,000 ตัว
ส่วนที่เหลือจึงได้บรรจุกรุไว้ ภายในอุโบสถของวัดเพื่อรอโอกาสที่จะเปิดกรุ หาทุนทรัพย์สร้างเจดีห์ ดังนั้นในปี พ.ศ.2525 ได้ทำการเปิดกรุออกมา มีจำนวนประมาณ 89,499 ตัว ทางคณะกรรมการได้แยกประเภทไว้ดังนี้
1.ถวายหลวงปู่แจกแก่ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร จำนวน 20,000 ตัว
2.ถวายหลวงปู่ในการกุศลเป็นเอกสิทธิ์หลวงปู่โดยตรง จำนวน 20,000 ตัว
3.ส่วนที่เหลือทางคณะกรรมการควบคุมโดยตรง จำนวน 49,499 ตัว

พระอาจารย์เล็กกล่าวว่า "เครื่องรางจระเข้บ้านเราที่ทำแล้ว คนให้ความศรัทธาเชื่อถือมากที่สุด ก็คือ "หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย" คาดว่าพวกเราคงไม่เคยได้ยินชื่อกันหรอก แต่สมัยนี้ที่ทำล่าสุดแล้ว ได้รับความเชื่อถือ เป็นของหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล  หลวงปู่สุภามรณภาพแล้วเหมือนกัน แต่จระเข้ที่จะลงให้บูชาในกระทู้ (เว็บวัดท่าขนุน) นี้ ยังทันท่านอยู่ จระเข้ของท่านทำไว้เฝ้าบ้าน เอาไว้รักษาทรัพย์ นึกถึงนิทานธรรมบทในพระไตรปิฎก ที่เศรษฐีขี้เหนียวเอาทรัพย์สมบัติ ไปฝังเอาไว้ที่ท่าน้ำ จิตมัวแต่ห่วงสมบัติอยู่ พอตายก็เลยต้องไปเป็นจระเข้เฝ้าทรัพย์ ก็มาจากนิทานธรรมบทนี่แหละ  แต่ว่าตอนหลังเศรษฐีขี้เหนียวเฝ้าทรัพย์ คงทนลำบากไม่ไหว จึงไปเข้าฝันบอกภรรยา ให้มาขุดไปทำบุญ จะได้ไปเกิดกับเขาบ้าง ไม่อย่างนั้น ก็ต้องเป็นจระเข้อยู่ตรงนั้น ไปไหนไกลไม่ได้ หาอาหารกินก็ไม่ค่อยจะอิ่ม เพราะว่าพื้นที่หากินแคบ จะไปไกลก็เป็นห่วงทรัพย์ ท้ายสุดภรรยาก็เลยไปขุดเอาสมบัติไปจัดทอดกฐิน ไม่รู้ไปทอดไกลแค่ไหน สามีที่เป็นจระเข้ว่ายน้ำไม่ไหว อาจจะเป็นเพราะแก่มากแล้ว หรือไม่ก็ประเภทหากินไม่พอ แรงจึงไม่ค่อยมี ก็เลยบอกภรรยาให้วาดรูปของตนไว้ในกองกฐิน กลายเป็นธงจระเข้ในกองกฐินมาจนทุกวันนี้ โบราณส่วนใหญ่ทำเครื่องรางของขลังขึ้นมา ก็มักจะอิงเรื่องในพระพุทธศาสนา

"เครื่องรางจระเข้ดังที่สุด ต้องหลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย"

ถ้าจิ้งจกดังที่สุดต้องหลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง ถ้าตุ๊กแกดังที่สุดต้องหลวงปู่ครื้น วัดสังโฆสิตาราม  ตุ๊กแกเป็นดินปั้นแท้ ๆ แต่ถ้าวันไหนร้องวันนั้นได้เงิน รับประกันได้เลย สายหลวงปู่ครื้นนี้มาตอนหลัง  ได้ยินว่าหลวงปู่หล่ำ วัดสามัคคีธรรม น่าจะสืบทอดวิชามา แต่ไม่ได้ข่าวว่าหลวงปู่หล่ำมรณภาพหรือยัง ? เพราะอายุกาลพรรษาก็ ๘๐-๙๐ ไปแล้ว"

 (เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี / ต้นเดือน มี.ค. ๕๘)

 จับเข่าคุย ‘ศักดิ์ตะวัน ปล้องไม้’ สายตรงหลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย | เดลินิวส์

„เปิดคัมภีร์คนรักพระ จับเข่าคุย ‘ศักดิ์ตะวัน ปล้องไม้’ สายตรงหลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย หนุ่มนาม ศักดิ์ตะวัน ปล้องไม้ ตอนนี้เนื้อหอมในบรรดาผู้ศรัทธาพระเครื่องสาย หลวงพ่อสนิท ยสินธโร วัดลำบัวลอย อ.ปากพลี จ.นครนายก เพราะรู้ลึกรู้จริงจากความศรัทธาด้วยความจริงใจ วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม 2557 เวลา 0:00 น. หนุ่มนาม ศักดิ์ตะวัน ปล้องไม้ ตอนนี้เนื้อหอมในบรรดาผู้ศรัทธาพระเครื่องสาย หลวงพ่อสนิท ยสินธโร วัดลำบัวลอย อ.ปากพลี จ.นครนายก เพราะรู้ลึกรู้จริงจากความศรัทธาด้วยความจริงใจ ศักดิ์ตะวัน เกิดที่ จ.นครนายก ไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่กรุงเทพฯ เรียบจบทำงานประมาณ ๑๐ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๔ อาศัยความศรัทธาในพระเครื่องสะสมและเรียนรู้จริงจัง จนกลายเป็นผู้ชำนาญพระหลวงพ่อสนิทตัวจริง “ที่บ้านผมทำไร่ทำสวนมะยงชิด ตอนนี้เหลือคุณพ่อคนเดียว คุณแม่เสียไป ๔-๕ ปีแล้ว เหลือน้องสาวเรียนอยู่ที่เชียงใหม่ ที่สนใจพระเครื่องเพราะคุณพ่อสะสมไว้ ผมเห็นตั้งแต่เด็ก ส่วนใหญ่พวกพระย่อย ๆ ตามบ้าน ผมสะสมพระเครื่องช่วงเรียนจบใหม่ ๆ เริ่มเก็บมาเรื่อย ๆ ทำงานมีรายได้ก็เช่า องค์แรกเลยคือ เหรียญเจ้าสัวรุ่น ๒ หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม บังเอิญไปรู้จักกับพี่ที่อยู่นครชัยศรี แกเป็นเถ้าแก่ร้านข้าวสาร แกบอกว่าดีนะ ก็เลยขอแบ่งมา ตอนนั้นเหรียญละ ๒,๐๐๐ บาท เนื้อทองแดงพร้อมกล่องเดิม ๆ เก็บไว้จนทุกวันนี้” ศักดิ์ตะวันเปิดฉากสนทนา  พร้อมเล่าต่อว่า แรก ๆ พระเกจิที่เช่าส่วนใหญ่จะเป็นสายวัดกลางบางแก้ว แล้วขยับเป็นหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง เช่าไปเช่ามาได้เหรียญหลวงพ่อสนิทมา ๑ องค์ คนขายบอกว่าเป็นพระนครนายก ครั้งแรกไม่รู้จักเลย เป็นเหรียญพัดยศ กะไหล่เงิน หรือเหรียญเลื่อน ลอก ๆ ด้วย ตอนหลังไปถามเซียนพระเลยรู้ว่า ท่านมีจระเข้ด้วย ชักอยากได้ลองไปเปิดอินเทอร์เน็ตค้นข้อมูลจนรู้ว่าที่วัดยังมีเหลืออยู่ กลับไปนครนายกก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปวัดลำบัวลอย ตามจีพีเอสไม่รู้ด้วยว่าวัดอยู่ไหน รู้แค่ว่าอยู่ อ.ปากพลี ไปแบบอ้อมโลก เจออาจารย์ประดิษฐ์รองเจ้าอาวาสครั้งแรก ขอเช่าจระเข้รุ่น ทบ.๒ และไข่พญากาเผือก สมัยนั้นจระเข้ตัวละ ๓๐๐ บาท เช่ามา ๒ ตัว ไข่พญากาเผือกอีก ๒ ใบ อาจารย์แนะนำให้เอาไข่ใส่น้ำมันจันทน์บูชาก่อน “เหลือเชื่อบูชาแล้วชีวิตดีขึ้น ทำงานคล่องไม่มีอุปสรรค มีเงินใช้ตลอด เมื่อก่อนหนี้เยอะพวกบัตรเครดิต เดี๋ยวนี้ปลดหนี้หมด เลยเปลี่ยนสายจากนครปฐมมาเล่นหลวงพ่อสนิทเต็มตัว สะสมมา ๔ ปี เริ่มเก็บชุดย่อย ๆ ก่อน ชิ้นแรกคือ จระเข้จันทร์เพ็ญตัวเล็ก เช่ามา ๒,๗๐๐ บาท ตอนนั้นเงินเดือนยังไม่เยอะ เค้าเลี่ยมมาด้วย ลองใช้แล้วดี ประสบการณ์แคล้วคลาด เรื่องเงินทองไม่ขาดมือ ทุกวันนี้เจอหลวงพ่อสนิทก็เก็บเรื่อย ๆ เวลาไปบ้านก็แวะไปไหว้รูปเหมือนหลวงปู่และไปช่วยงานวัดจนคุ้นเคยกับอาจารย์ประดิษฐ์”  “พรรคพวกรู้ว่าเราเก็บหลวงพ่อสนิท ก็จะเอามาให้บ้าง ปล่อยให้บ้าง จระเข้รุ่นแรกก็ได้มา แวะไปหาอาจารย์ประดิษฐ์ท่านมีของแปลก ๆ มาให้เราดูก็บูชาเก็บไว้ ตอนนี้ทำเฟซบุ๊กเผยแพร่วัตถุมงคล เน้นให้ความรู้ให้ข้อมูลทุกรุ่น เพื่อให้คนที่สนใจรู้ว่าสร้างเมื่อไหร่ จำนวนเท่าใด พุทธคุณด้านไหน เป็นการเผยแพร่บารมีหลวงพ่อ บางคนชอบแบ่งบูชาไปบ้าง เป็นการช่วยเหลือวัดอีกทางหนึ่ง” ก่อนอำลา ศักดิ์ตะวัน แนะนำนักเล่นพระยุคใหม่ว่า ต้องมีความศรัทธาก่อน ไม่ใช่เห่อตามกระแส การบูชาจะเห็นผลต้องพกติดตัว พระหลวงพ่อสนิทเราใช้มีประสบการณ์ รู้ว่าวัตถุมงคลชิ้นไหนใช้ด้านไหน ดวงไม่ดีก็ใช้พระกริ่ง เดินทางแคล้วคลาดก็ใช้จระเข้หรือเต่าเลือน อยากค้าขายก็ใช้เต่าหรือสาลิกา อยากให้คนรักก็พกสาลิกาไว้ แต่จะต้องเน้นที่ศรัทธา หมั่นศึกษาว่าของแท้-เก๊เป็นอย่างไร ตอนนี้พระหลวงพ่อสนิทมีปลอมเยอะ อยากให้ศึกษากันหลาย ๆ ทาง ไม่ไช่เชื่อทางเดียว ควรมีที่ปรึกษาที่ดี หาข้อมูลให้ชัดว่าหลวงพ่อท่านทำอะไรไว้บ้าง มีกี่รุ่นกี่แบบ ราคาเท่าไหร่ ค่านิยมดีไหมแล้วค่อย ๆ สะสมอย่างนี้ดีกว่าครับ.“