พระผงพิมพ์หลวงพ่อโต กรรมฐาน 3 วัน (รวมมวลสารสังฆาฏิพระเกจิ) วัดท่าขนุน

พระผงพิมพ์หลวงพ่อโต กรรมฐาน 3 วัน (รวมมวลสารสังฆาฏิพระเกจิ) วัดท่าขนุน
พระผงพิมพ์หลวงพ่อโต กรรมฐาน 3 วัน (รวมมวลสารสังฆาฏิพระเกจิ) วัดท่าขนุนพระผงพิมพ์หลวงพ่อโต กรรมฐาน 3 วัน (รวมมวลสารสังฆาฏิพระเกจิ) วัดท่าขนุนพระผงพิมพ์หลวงพ่อโต กรรมฐาน 3 วัน (รวมมวลสารสังฆาฏิพระเกจิ) วัดท่าขนุนพระผงพิมพ์หลวงพ่อโต กรรมฐาน 3 วัน (รวมมวลสารสังฆาฏิพระเกจิ) วัดท่าขนุนพระผงพิมพ์หลวงพ่อโต กรรมฐาน 3 วัน (รวมมวลสารสังฆาฏิพระเกจิ) วัดท่าขนุนพระผงพิมพ์หลวงพ่อโต กรรมฐาน 3 วัน (รวมมวลสารสังฆาฏิพระเกจิ) วัดท่าขนุนพระผงพิมพ์หลวงพ่อโต กรรมฐาน 3 วัน (รวมมวลสารสังฆาฏิพระเกจิ) วัดท่าขนุนพระผงพิมพ์หลวงพ่อโต กรรมฐาน 3 วัน (รวมมวลสารสังฆาฏิพระเกจิ) วัดท่าขนุนพระผงพิมพ์หลวงพ่อโต กรรมฐาน 3 วัน (รวมมวลสารสังฆาฏิพระเกจิ) วัดท่าขนุนพระผงพิมพ์หลวงพ่อโต กรรมฐาน 3 วัน (รวมมวลสารสังฆาฏิพระเกจิ) วัดท่าขนุนพระผงพิมพ์หลวงพ่อโต กรรมฐาน 3 วัน (รวมมวลสารสังฆาฏิพระเกจิ) วัดท่าขนุนพระผงพิมพ์หลวงพ่อโต กรรมฐาน 3 วัน (รวมมวลสารสังฆาฏิพระเกจิ) วัดท่าขนุนพระผงพิมพ์หลวงพ่อโต กรรมฐาน 3 วัน (รวมมวลสารสังฆาฏิพระเกจิ) วัดท่าขนุนพระผงพิมพ์หลวงพ่อโต กรรมฐาน 3 วัน (รวมมวลสารสังฆาฏิพระเกจิ) วัดท่าขนุน
หมวดหมู่ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน
ราคา 790.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 13 พ.ย. 2564
อัพเดทล่าสุด 5 ต.ค. 2568
จำนวน
ชิ้น
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
สมเด็จองค์ปฐมพิมพ์พระหลวงพ่อโต กรุวัดชีประขาวหาย 
 
        พระคุณหลวงพ่อเล็ก พุทธาภิเษกเข้ากรรมฐาน ๓ วัน ณ วัดท่าขนุน 
รุ่นนี้ด้านหลังอุดผงวิเศษและผงสังฆาฏิพระสุปฏิปันโนไม่น้อยกว่า ๒๐ องค์ อาทิ 

ผงสังฆาฏิที่นำมาผสมจัดสร้างพระเครื่องชุดนี้ประกอบไปด้วย ผงสังฆาฏิของ
๑. พระเดชพระคุณ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
๒. หลวงพ่อพระราชพรหมญาณ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
๓. ครูบาพรหมจักโก (พระสุพรหมยานเถระ)วัดพระพุทธบาทตากผ้า
๔. ครูบาอินทจักโก (พระสุธรรมยานเถระ) วัดน้ำบ่อหลวง
๕. ครูบาคำแสน (หลวงปู่คำแสนใหญ่) วัดสวนดอก
๖. ครูบาคำแสน (หลวปู่ครูบาคำแสนเล็ก) วัดดอยมูล
๗. ครูบาทิม(ทืม) พรหมเสโน วัดจามเทวี
๘. ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย
๙. ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง
๑๐.หลวงปุ่หล้า ตาทิตย์ วัดป่าตึง
๑๑.ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
๑๒.ครูบาชัยยะวงศา วัดพระบาทห้วยต้ม
๑๓.หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข
๑๔.หลวงปู่สี ฉันทศิริ วัดถ้ำเขาบุนนาค
๑๕.หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง
๑๖.หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง
๑๗.หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่
๑๘.ท่านเจ้าคุณ นรฯ วัดเทพศิรินทราวาส
๑๙.หลวงพ่อแช่ม วัดตากล้อง
๒๐.หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ
๒๑.ครูบาเจ้าเกษม เขมโก สำนักสงฆ์สุสานไตรลักษณ์
๒๒ ท่านอาจารย์โกวิน วัดไผ่รื่นรมย์
 
ข้อความส่วนหนึ่งได้มาจากเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนประจำวันที่ ๑ ตุลาคม
**วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ ว่างเว้นจากการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนไปหลายวัน เพราะว่าติดงานใหญ่ ท่านใดที่ติดตามทางเฟซบุ๊กที่มีญาติโยมทำให้ ก็จะเห็นว่าแต่ละวันกระผม/อาตมภาพทำงานอะไรบ้าง
สำหรับวันนี้ก่อนที่จะกลับมาก็ได้แวะไปหาพี่ณพ (พันตำรวจเอกอรรณพ กอวัฒนา) ซึ่งพี่ณพถวายพระมาจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นของเก่า คือพระพิมพ์ทรงไก่ ปลา เม่น หนุมาน ครุฑ นกกระจาบ ของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค จำนวน ๕๐๙ องค์ แล้วก็พระวัดคู้สลอด ที่หลวงปู่ปานเป็นผู้ปลุกเสกอีก ๑๐๙ องค์ เจตนาก็คือเพื่อประโยชน์กับทางวัดท่าขนุน แต่สั่งเอาไว้ว่า ถ้าใครต้องการก็คือจ่ายราคาท้องตลาดเท่านั้น ซึ่งพวกเราสู้ไม่ไหวแน่นอน
อีกส่วนหนึ่งก็คือ สมัยก่อนพี่ณพเคยติดตามหลวงพ่อวัดท่าซุง ไปกราบครูบาอาจารย์ที่เป็นพระสุปฏิปันโนจำนวนมากด้วยกัน ได้ไปขอผ้าสังฆาฏิของหลวงปู่หลวงพ่อเหล่านั้น โดยบอกอย่างชัดเจนว่าจะเอาไปทำวัตถุมงคล ก็ปรากฏว่าได้สร้างไปรุ่นหนึ่ง ก็คือรุ่นที่ออกที่โรงพักบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา เพราะว่าตอนนั้นพี่ณพเป็นสารวัตรใหญ่อยู่ที่นั่น ปัจจุบันนี้ตำแหน่งสารวัตรใหญ่ไม่มีแล้ว มีแต่ผู้กำกับสถานีตำรวจ
ในระหว่างที่เกษียณอายุ พี่ณพก็ว่างจนไม่มีอะไรจะทำ ก็เลยนำเอาผ้าสังฆาฏิพระสุปฏิปันโน ๒๐ กว่ารูป พร้อมกับบรรดาชนวนต่าง ๆ สร้างเป็นพระขึ้นมา ซึ่งต้องบอกว่า "ทำแก้กลุ้ม" แต่ในเมื่อทำแล้ว ก็ตั้งใจว่าจะไม่ให้คนปลอมได้ เพราะฉะนั้น..พระของพี่ณพจะมีทั้งจุดตำหนิ มีทั้งยิงเลเซอร์ มีทั้งโค้ดสารพัด ที่ท่านมอบให้มานั้น ก็จะมีพิมพ์หลวงพ่อโต วัดบางกระทิง ที่องค์เล็ก ๆ น่ารัก แล้วก็พิมพ์ขุนแผนเคลือบแบบวัดใหญ่ชัยมงคลที่องค์เท่ากับต้นแบบ
แต่ว่ารถที่กระผม/อาตมภาพนั่งอยู่ไม่พอที่จะขนมา พี่ณพก็เลยจะให้รถของคุณเล้ง (ศิริพร มงคลชัยดิษฐ) ขนมาให้วันที่ ๕ นี้ ก็ตั้งใจว่าจะได้เอาเข้าพิธีเพิ่มเติมตอนช่วงกรรมฐาน ๓ วัน ถ้าหากว่าไอ้ตัวเล็กสะดวก ก็จะให้เอาลงให้บูชาในกระทู้ แล้วก็มารับวัตถุมงคลตอนวันออกกรรมฐานกัน
ต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่พี่ณพตั้งใจทำ เพื่อเป็นพุทธบูชา ธัมมบูชา สังฆบูชา ทำแบบไว้ฝีมือ ทำแบบไม่ให้ปลอม และทำแบบใส่วัสดุชนวนชนิดที่ใครก็ทำไม่ได้เนื่องเพราะว่าสมัยนั้น เวลาพี่ณพไปกราบครูบาอาจารย์ก็จะบอกว่า "หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ให้ผมมาขอผ้าสังฆาฏิของหลวงปู่ ขอผ้าสังฆาฏิของหลวงพ่อ เพื่อไปสร้างวัตถุมงคล" ซึ่งหลวงปู่หลวงพ่อทุกรูปพอได้ยินว่าเป็นความประสงค์ของหลวงพ่อวัดท่าซุง ก็รีบมอบสังฆาฏิให้แต่โดยเร็ว
เรื่องพวกนี้ ถ้าหากว่าพวกท่าน ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุสามเณร หรือฆราวาสอยู่ทันในยุคนั้น เป็นยุคที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่าท่านสบายใจที่สุด เพราะว่าพระสุปฏิปันโนทุกรูปถึงกันหมด ถึงกันอย่างชนิดที่ไม่ต้องบอก ไม่ต้องพูด ก็รู้ว่าจะให้ทำอะไร หรืออีกฝ่ายหนึ่งต้องการอะไร มีการเล่นสนุกกันอยู่เรื่อย ในเมื่อเป็นเช่นนั้น โอกาสที่เราจะได้ของดีแบบนี้ก็เป็นไปโดยยาก
อย่างหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ท่านมีครอบครัว ทำมาหากิน จนกระทั่งอายุ ๔๐ ปีแล้ว ก็ตั้งใจว่าจะบวชเพื่อตายในผ้าเหลือง ปรากฏว่าอยู่มาจนอายุ ๑๒๘ ปีถึงได้มรณภาพ ตอนที่หลวงปู่มรณภาพนี่ เศษอายุ ๒๘ ของท่านผมยังไม่ได้เลย
สังฆาฏิของหลวงปู่สี ท่านครองมาตั้งแต่บวชใหม่ ๆ ติดกันเป็นแผ่นชนิดที่ดึงคลี่ออกมาเสียงดังคว่าก..! ลองคิดดูว่าของแบบนั้น ถ้าไม่ใช่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเมตตาช่วยออกปาก แล้วใครจะให้ ?
เพราะว่าวัตถุมงคลนี้ พี่ณพได้ทุ่มเท ใส่ชนวนทุกอย่างลงไป มีใบบอกมาให้ ถึงเวลาจะให้ตัวเล็กสแกนแล้วก็ลงให้ดูว่ามีอะไรบ้าง พูดง่าย ๆ ว่าเป็น "ของดีนอก ดีใน" ดีในก็คือชนวนมวลสารทุกอย่างขลังโดยไม่ต้องเสกแล้ว ส่วนดีนอกก็คือตั้งใจทำแบบไว้ฝีมือ ไม่ให้คนปลอมได้
พี่ณพพูดขำ ๆ ว่า "ถ้าใครคิดจะปลอมพระของผมก็ต้องยอมเหนื่อยหน่อย" เพราะว่ามีทั้งตำหนิในแม่พิมพ์ที่ตั้งใจให้ช่างทำ มีโค้ด มียิงเลเซอร์ แล้วยังมีฝังวัสดุที่คนอื่นหาไม่ได้ พวกเราจะลองปลอมกันดูหน่อยไหม ? เผื่อว่าทำได้บ้าง
#ข้อความส่วนหนึ่งจากเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนประจำวันที่ ๑๘ ตุลาคม
**วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ พรุ่งนี้เช้ากระผม/อาตมภาพต้องไปเข้ากรรมฐานตั้งแต่ตอนเช้ามืดเป็นต้นไป งานหลัก ๆ เลยระหว่างเข้ากรรมฐานก็คือ รักษากำลังใจตามที่พระหรือครูบาอาจารย์ท่านกำหนดให้
ประการต่อไปก็คือ ปลุกเสกวัตถุมงคลที่เข้าพิธีอยู่ ซึ่งวัตถุมงคลหลักก็คือเหรียญสมเด็จองค์ปฐมยิ้มรับทรัพย์ทุกเนื้อ แม้กระทั่งเหรียญตัวอย่าง เหรียญลองพิมพ์ แล้วก็พระหลวงพ่อโตย้อนยุค เลียนแบบหลวงพ่อโตกรุวัดชีปะขาวหาย กับพระขุนแผนย้อนยุค เลียนแบบพระขุนแผนเคลือบ วัดใหญ่ชัยมงคล ที่พี่ณพ (พันตำรวจเอกอรรณพ กอวัฒนา) ทำเอาไว้ ซึ่งความจริงพระที่พี่ณพทำเอาไว้นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องเสก แต่ต้องบอกว่าทุกคนตั้งความหวังไว้ว่า "น่าจะได้อะไรเพิ่มสักนิดหนึ่ง" ก็เลยต้องเอาไปเข้าพิธีตอนกรรมฐาน ๓ วันด้วย
โดยเฉพาะพระขุนแผนเคลือบที่เลียนแบบพระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ชัยมงคล พี่ณพระบุไว้ชัดว่าเป็นสมเด็จองค์ปฐม ซึ่งตรงจุดนี้เท่ากับเป็นการบังคับไปในตัว เพราะว่าถ้าหากว่าเป็นรูปของสมเด็จองค์ปฐม จะไม่มีพระพุทธเจ้าพระองค์ใดเป็นประธานในพิธีเสก จึงต้องเป็นพระองค์ท่านเท่านั้น
ซึ่งเรื่องแบบนี้ ผมเตือนนักเตือนหนาไปหลายทีแล้วว่า การที่จะสร้างรูปพระ โดยเฉพาะสมเด็จองค์ปฐม ให้ทำพิธีกรรมให้ถูกต้อง ก็คือต้องมีการบวงสรวงบอกกล่าวขออนุญาตก่อน จนกระทั่งท้ายสุดก็คือบวงสรวงขออนุญาตในการพุทธาภิเษก
เรื่องของการจำหน่ายแล้วมีรายได้เข้าวัดนั้น ไม่ต้องไปคิดเลย ดูอย่างที่พี่ณพทำก็เช่นกัน ท่านทำขึ้นมาก็ไม่ได้คิดที่จะจำหน่าย แต่ทำเพื่อ "ฝากผลงานไว้ในแผ่นดิน" ว่าวัตถุมงคลที่ประกอบไปด้วยชนวนมวลสารที่หายากขนาดนี้ ท่านสามารถทำได้ เป็นลักษณะของการทำเพื่อเอาชื่อเสียง
ใครนำวัตถุมงคลไปใช้มีประสบการณ์ กล่าวขวัญถึงเมื่อไร ก็ไม่ใช่วัตถุมงคลวัดท่าขนุน แต่ว่าเป็นวัตถุมงคลที่พี่ณพทำแล้วมอบให้กับวัดท่าขนุน เพราะท่านเห็นว่าผมทำงานใหญ่หลายงานพร้อม ๆ กัน โดยเฉพาะงานสงเคราะห์ที่เป็นสาธารณะ
ข้อความจากเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนประจำวันที่ ๘ ตุลาคม
**วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ จะว่าไปแล้วก็มีหลายเรื่อง เพียงแต่ว่าส่วนหนึ่งที่อยากจะบอกกับญาติโยมก็คือว่า วัตถุมงคลที่จองกันในกระทู้ต่าง ๆ ต้องการอะไรก็ให้รีบจอง เพราะว่าหลังจากการตัดยอดกลางเดือนแล้ว น่าจะมีการเก็บกลับเกือบหมด เนื่องจากกระทู้ต่าง ๆ หลายกระทู้สำเร็จเสร็จสิ้นลงตามความประสงค์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกฐินปลดหนี้ กฐินวัดท่าขนุน หรือแม้กระทั่งที่ใกล้จะสำเร็จลงอย่างการหล่อพระพุทธรูปทองคำ ใครที่เล็งอะไรไว้ก็ให้รีบด่วนด้วย
ส่วนวัตถุมงคลที่สร้างเลียนแบบพระกรุที่พี่ณพ (พ.ต.อ.อรรณพ กอวัฒนา) ทำมา ถ้าหากว่าต้องการก็รีบจองเพิ่ม เพราะว่าแม้แต่ตัวพี่ณพเองก็หวง กระผม/อาตมภาพเองก็ขอบอกว่า "วัตถุมงคลที่ดีนอกดีในแบบนี้หายากมาก แค่สังฆาฏิของพระสุปฏิปันโน ๒๐ กว่ารูปที่ผสมลงไป ชาตินี้ทั้งชาติหาไม่ได้อีกแล้ว..!"
ถ้าจะฟังคำจากหลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสุข ท่านบอกว่า "นอกจากมหาวีระแล้ว ไม่มีใครสามารถรวมพระสุปฏิปันโนระดับนี้ไว้ได้มากขนาดนี้อีก" เนื่องเพราะว่าพระชุดนั้นทั้งหมดเป็นพระปฏิสัมภิทาญาณ ทั้งที่เป็นพระอริยเจ้าและพระโพธิสัตว์ ทุกท่านทรงความเป็นปฏิสัมภิทาญาณอย่างชัดเจน และแสดงออกให้ลูกศิษย์เห็นบ่อยมาก
อย่างหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุนนาค ที่อายุยืนถึง ๑๒๘ ปี หลวงพ่อวัดท่าซุงให้การยกย่องว่า "ถ้าในระดับปฏิสัมภิทาญาณด้วยกัน หลวงปู่สีอยู่ในระดับ แคสเซียส เคลย์ ของรุ่นเฮฟวี่เวท" ก็แปลว่าเป็นสุดยอดของสุดยอดทีเดียว
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งของที่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นได้ใช้ ไม่ว่าจะของอะไรก็ตาม จะมีพลังงานหลงเหลืออยู่ หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงท่านเล่าว่า เตียงที่พระนาคเสนบรรลุมรรคผล เตียงที่ว่าก็น่าจะเป็นอาสนะที่ท่านนั่ง แต่ว่าเป็นลักษณะของเตียงไม้หรือตั่งไม้ ท่านบอกว่ามีคนไปนั่งปฏิบัติธรรมแล้วบรรลุต่อมาอีกเป็นพันองค์เลย เพราะว่ากระแสพลังที่หลงเหลืออยู่ ช่วยประคองใจไม่ให้คิดชั่ว ทำชั่ว พูดชั่ว กำลังใจสะอาดใกล้เคียงความเป็นพระอรหันต์เลย
กระแสของบุคคลที่กำลังสูงกว่า โดยเฉพาะพระอริยเจ้า จะจูงใจของเราให้ไปในด้านที่ดีมากกว่า ถ้าหากว่าท่านใช้กำลังเต็มที่จริง ๆ เอาแค่พระโสดาบัน ต่อให้คนคิดร้ายอยู่ ก็ทำร้ายไม่ได้ เพราะว่ากำลังความดีของท่านเหมือนกับลบความจำด้านชั่วของเราออกไปชั่วคราว ในส่วนนี้ก็เลยทำให้บรรดาวัตถุธาตุต่าง ๆ ที่รับกระแสพลังจากตัวเจ้าของ จึงกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปโดยอัตโนมัติ
ดังนั้น..เราจะเห็นว่ามีการสร้างบริโภคเจดีย์ บรรจุผ้าไตร บรรจุไม้เท้า หม้อกรองน้ำ หรือว่าบาตรของพระพุทธเจ้า หรือพระอรหันต์ตั้งแต่ยุคอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ก็เพราะว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ นอกจากเป็นเจดีย์ คือเครื่องระลึกถึงคุณความดีของครูบาอาจารย์แล้ว ยังมีกระแสพลังที่จะช่วยผู้ปฏิบัติที่มุ่งไปในทางเดียวกัน ให้เข้าถึงที่สุดของทางได้ง่ายกว่าทำเองเป็นอย่างมากในเมื่อเป็นเช่นนั้น พระเครื่องชุดนี้ ส่วนที่อยากจะแนะนำก็คือว่าท่านใดได้ไป เวลาภาวนา พนมมือขออนุญาตท่านแล้วก็ติดตัวไว้ ขอกระแสพลังของบรรดาพระสุปฏิปันโนทั้งหลาย เจ้าของสังฆาฎิหรือว่าเจ้าของผงวิเศษเหล่านั้น ช่วยสงเคราะห์กำลังใจของเรา ให้ทรงอยู่ในด้านความดี ไม่มีนิวรณ์ ๕ มากินใจชั่วคราวจะเป็นการทุ่นแรงในการปฏิบัติได้เป็นอย่างมาก
บรรดาพระเครื่องที่ช่วยในการปฏิบัติธรรม กระผม/อาตมภาพเองก็เจอมาหลายอย่างด้วยกัน อย่างเช่นว่าพระของหลวงปู่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังโฆสิตาราม พระของหลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสุข เนื่องจากว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้มุ่งแต่เอามรรคเอาผลอย่างเดียว เมื่อกระแสพลังที่ท่านประจุไว้ หรือว่าเสกไว้ อธิษฐานไว้ ก็จะพามุ่งไปในด้านที่ท่านตั้งความปรารถนาไว้เช่นกัน
--------------------------------------------------

พระที่แจกไปให้นั้นสำคัญมาก เพราะว่าด้านหลังบรรจุผงสังฆาฏิพระสุปฏิปันโนชั้นยอด ๒๒ รูปด้วยกัน มีหลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข จังหวัดสิงห์บุรี หลวงพ่ออุตตมะ (พระราชอุดมมงคล วิ.) วัดวังก์วิเวการาม จังหวัดกาญจนบุรี เป็นต้น หลายต่อหลายท่านเก่งกาจสามารถ ระดับที่สั่งอะไรคิดอะไรก็เป็นไปตามนั้น แต่ว่ารุ่นหลัง ๆ ไม่รู้จักกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็น
 
หลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย จังหวัดลำพูน
 
หลวงปู่ครูบาพรหมจักรสังวร (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก) - พระสุพรหมยานเถร วิ. วัดพระพุทธบาทตากผ้า จังหวัดลำพูน
 
หลวงปู่ครูบาอินทจักรรักษา (อินถา อินฺทจกฺโก) - พระสุธรรมยานเถร วัดน้ำบ่อหลวง จังหวัดเชียงใหม่
 
หลวงปู่คำแสน คุณาลงฺกาโร วัดดอนมูล จังหวัดเชียงใหม่
 
หลวงปู่คำแสน อินฺทจกฺโก (พระครูสุคันธศีล) วัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่
 
หลวงปู่ครูบาธรรมชัย ธมฺมชโย (พระครูวรเวทย์วิสิฐ) วัดทุ่งหลวงจังหวัดเชียงใหม่
 
หลวงปู่ครูบาไชยวงศ์ จนฺทวํโส (พระครูพัฒนกิจจานุรักษ์) วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จังหวัดลำพูน
 
หลวงปู่สี ฉนฺทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค จังหวัดนครสวรรค์ เหล่านี้เป็นต้น
 
ต้องบอกว่าเกิดไม่ทัน แต่ประวัติท่านทั้งหลายเหล่านี้พอที่จะหาได้ เราก็ไปเสิร์ชในกูเกิ้ลเอา แต่ว่าส่วนใหญ่ความบริสุทธิ์ของใจท่านเขาไม่กล่าวถึง เขามักจะกล่าวถึงแต่อานุภาพวัตถุมงคลบ้าง อิทธิปาฏิหาริย์ของท่านบ้าง แล้วพระทั้งหลายเหล่านี้ท่านก็ไม่ได้ยืนยันให้อีกด้วย
 
อย่างหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่ ทหารอากาศขับเครื่องบินไป เห็นท่านนั่งอยู่บนก้อนเมฆ ลงไปเที่ยวถามหาว่าพระลักษณะแบบนั้น รูปร่างแบบนั้นอยู่ที่ไหน พอไปเจอหลวงปู่แหวน มั่นใจว่าใช่ ก็ไปกราบถามท่านว่า "วันนั้นหลวงปู่ไปนั่งสมาธิบนก้อนเมฆหรือครับ ?" ท่านตอบแค่ว่า "เฮาบ่ไจ้นก" ก็คือกูไม่ใช่นก จะขึ้นไปทำอะไรบนโน้น ?!
 
หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง ท่านเข้าสมาธิอยู่กลางแจ้งเป็นเวลาหลาย ๆ เดือน จนเนื้อหนังโดนแดดเผา ลอกเป็นแผ่น ๆ ลักษณะแบบนั้น ถ้าหากว่าทรงสมาบัติ ๘ ไม่ได้ โดยเฉพาะเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน จะไม่สามารถทำแบบนั้นได้
 
หลวงปู่ครูบาชุ่ม วัดวังมุย ท่านเข้านิโรธสมาบัติในอิริยาบถทั้ง ๔ ก็คือ ยืน เดิน นั่ง นอน หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกว่า ยังไม่เคยได้ยินว่าใครทำได้แบบนี้ เนื่องเพราะว่านิโรธสมาบัติเป็นการทิ้งร่างกายไปเลย ส่วนใหญ่เขาเข้าในลักษณะนั่งหรือว่านอน 
 
บางทีก็ยืนแบบหลวงปู่คำคะนิง จุลมณี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จังหวัดอุบลธานี ท่านยืนอยู่ ๓ ปี กระผม/อาตมภาพพยายามหาคำตอบ ท้ายที่สุดก็เดาว่า ท่านอาศัยอำนาจอภิญญาสมาบัติ อธิษฐานจิตบังคับให้ร่างกายทำงานตามเวลาที่กำหนด อยู่ในลักษณะของวสี ก็คือความชำนาญในการกำหนดสมาธิ พอถึงเวลาร่างกายก็ทำหน้าที่ไปตามที่จิตสั่งเอาไว้ เหมือนกับตั้งโปรแกรมให้หุ่นยนต์ ส่วนจิตของท่านก็ไปสบายอยู่ข้างบน ไม่รบกวนอยู่กับร่างกาย
 
หรือว่าหลวงปู่ครูบาพรหมจักรสังวร วัดพระบาทตากผ้า ท้ายทางเดินจงกรมของท่านที่เป็นศิลาแลง มีรอยเท้ามนุษย์ประทับอยู่ ลูกศิษย์ถามท่านว่า "รอยเท้าใครครับหลวงปู่ ?" ท่านก็ไปเดินเหยียบให้ดู บอก "เท่ากันพอดีเลยเนาะ" ท่านก็ไม่ได้บอกอะไร นอกจากพูดแค่นั้น
 
หลวงปู่ครูบาไชยวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เกรงว่าจะน้อยไป ท่านก็เลยเหยียบเสียสองรอย แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าลูกศิษย์ไม่รู้คุณค่า เห็นว่าหลวงปู่เหยียบก้อนหินแล้วเป็นรอยตื้นเกินไป ก็เลยไปช่วยกันแกะสลักเสียจนลึก ทำให้เสียความเป็นธรรมชาติไปหมด..!
 
อาตมภาพไปพม่าอยู่หลายปี ไปนั่งถกกับพระพม่าว่า "พระพม่ากับพระไทย ใครจะเก่งกว่ากัน ?" พระพม่าฟันธงว่าพระกะเหรี่ยงเก่งกว่า สามารถเหยียบหินให้เป็นรอยได้ กระผม/อาตมภาพก็นั่งเถียงว่าพระไทยก็ทำได้ ท้ายที่สุดเถียงกันแทบตาย ลงท้ายก็คือหลวงปู่ครูบาไชยวงศ์นั่นเอง เพราะว่าหลวงปู่ครูบาไชยวงศ์ท่านอยู่กับกะเหรี่ยงที่บ้านก้อ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ก็เลยทำให้พระพม่าเข้าใจว่าหลวงปู่ครูบาไชยวงศ์เป็นพระกะเหรี่ยง ส่วนอาตมภาพก็ไปเหมาโหลว่าหลวงปู่ครูบาไชยวงศ์เป็นพระไทย ก็เลยไปนั่งงัดข้อกันอยู่ครึ่งค่อนวัน เป็นอะไรที่ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ "วิวาทะ" กันได้โดยง่าย
 
หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค ชานหมากของท่านคายออกมาเมื่อไร ก็สามารถที่จะลองได้เลย ก็คือมีปืนก็ยิงไปเถอะ..ไม่ออกหรอก..! แต่มีอยู่วันหนึ่งหลวงปู่ท่านบ่นว่า "มันลองกันเยอะ..จนข้าเจ็บปากไปหมดแล้ว..!"
 
เก็บตกงานบวงสรวงไหว้ครู และเป่ายันต์เกราะเพชร (รอบเช้า) วันเสาร์ที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๘
 
https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=11248
 
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com
 
#ชุมชนคุณธรรม #วัดท่าขนุน #watthakhanun 
#ig: wat.thakhanun #tiktok: @watthakhanun
#ชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน 
#ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนด้วยพลังบวร
#พระพุทธศาสนาช่วยโลก #พระสงฆ์ช่วยสังคม
#พระครูวิลาศกาญจนธรรมดร #พระครูวิลาศกาญจนธรรม #พระอาจารย์เล็ก #หลวงพ่อเล็กวัดท่าขนุน


 

วิธีการชำระเงิน

บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ออมทรัพย์
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขากองบัญชาการกองทัพบก ออมทรัพย์
  • ค่าธรรมเนียม 3.9% + 11 THB
  • การชำระผ่าน PayPal คุณไม่จำเป็นต้องแจ้งชำระเงิน เนื่องจากระบบจะจัดการให้คุณทันที ที่คุณชำระเงินเสร็จสมบูรณ์

CATEGORY

       เพิ่มร้านณัชชาเป็นเพื่อน    
       ด้วย QR Code
ด้านล่างนี้  

       บัญชีร้านณัชชา      

CONTACT US

0851242951

STATISTICS

หน้าที่เข้าชม2,015,655 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด1,282,770 ครั้ง
เปิดร้าน12 ก.ค. 2558
ร้านค้าอัพเดท23 ต.ค. 2568

MEMBER

พูดคุย-สอบถาม