ลูกอมชาตรีมหาระงับ เลี่ยมกันน้ำ (ผสมเกศาครู) วัดบึงลาดสวาย ลพ.เล็กเสก พิธีมหาระงับ ไพรีพินาศ

ลูกอมแต่ละลูกมีสภาพแตกต่างกันไป  ปัจจุบันปี 66 ลูกอมมีรอยรานแตกร้าว เนื่องจากมวลสารเปลี่ยนสภาพ ร้านจึงนำไปเลี่ยมพลาสติกกันน้ำเพื่อคงสภาพ  ผิวเดิมๆ คลาสลิคไปอีกแบบค่ะ

ลูกอมชาตรีมหาระงับ ประกอบด้วย

---ประกอบด้วยผงมหาระงับหลายสำนักวิชา มีผงมหาระงับของหลวงปู่กี๋ วัดหูช้าง จ.นนทบุรี เป็นส่วนผสมหลักในปริมาณมาก ผงใบรู้นอน ๑๒ สิ่ง ตามตำราบังคับในการจัดสร้างมงคลวัตถุด้านมหาระงับ และผงมวลสารอื่นๆ ที่มีอิทธิคุณด้านมหาระงับกำจัดโรคโทษภัย นำไปกราบขอความเมตตาพระคุณหลวงพ่อพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. ( พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ ) อธิษฐานจิตเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ณ บ้านเติมบุญ

 

---ผงนี้ คุณข้าผู้น้อยฯ ได้นำใส่ทั้งในตะกรุดมหาระงับ ( ทั้งด้านในตะกรุด และโรยด้านนอกตะกรุด ) เทียนมหาระงับ ( ซัดใส่น้ำมนต์ นำกระดาษสาลงยันต์มหาระงับลงแช่ ก่อนนำไปควั่นเป็นไส้เทียน ) และได้จัดเตรียมบรรจุถุงไว้อีกจำนวนหนึ่ง เพื่อนำถวายแก่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ทุกรูปทุกท่านที่มาร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิตในพิธีมหาระงับ ระหว่างวันที่ ๒๘ มีนาคม ( เสาร์ ๕ ) - วันศุกร์ที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๓ ณ กุฎีเทพรักษา วัดบึงลาดสวาย อ.บางเลน จ.นครปฐม

 

“ พิธีมหาระงับโรคาพินาศ :

---ผงมวลสารมหาระงับ ที่เข้าพิธีมหาระงับโรคาพินาศนี้ ส่วนหนึ่งได้นำมาบรรจุขวดแก้ว สำหรับนำไปอาราธนาบูชาพกพาติดตัว ทำน้ำมนต์มหาระงับ ( ท่านว่ากลิ่นอาจจะแรงไปบ้าง เพราะมีผงใบรู้นอน ๑๒ สิ่ง ผสมรวมอยู่ด้วย ) หรือหากจะนำไปผสมทำเป็นมวลสารท่านก็ไม่ได้ห้าม แต่ให้พึงระวังถึงข้อห้ามสำหรับผู้ที่จะได้มงคลวัตถุที่มีผงนี้ผสมเป็นมวลสารไปบูชาด้วย เพราะตามที่ “ คุณพระพิชัยสงคราม “ ผู้รักษาวิชาท่านสั่งข้อห้ามไว้ หากไปละเมิดเข้า ท่านอาจจะได้รับความวิบัติทั้งตนเอง และครอบครัว อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

***ลูกอมชาตรีมหาระงับ***

ส่วนผสมมวลสาร

- ผงมหาระงับ

- ผงใบรู้นอน 12 สิ่ง

- ทรายแก้วมหาระงับ (ของอาจารย์ลึกลับ)

- ทรายเสก หลวงพ่อกวย

- ผงเกษรยอดบายศรี พิธีมหาระงับ โรคาพินาศ

- ผงบรรจุน้ำเต้า เฮงคูณเฮง

- ผงบรรจุขวานวิษณุกรรมประสิทธิ์

- ผงตะไบมหาชนวน

- ผงมหาราช 3 สำนัก

- ผงมหาราชใหญ่

- ผงเม็ดยาจินดามณี 3 สาย 5 สำนัก

- ผง 12 นักษัตร ลป.เทียน วัดโบสถ์

- ผง ลป.พลาย วัดมะขาม

- ผงดินสหัสคุณ

- ผงไม้ฟ้าผ่า

- ผงไม้กำจัดภัย

- ผงอาการ 32

- ผงจูซาอาญาสิทธิ์

- ผงข้าวพระปัจเจก (ผงล้มแล้วลุก ลุกแล้วลุย)

- เกศาครู และอื่น ๆ

ขณะอธิษฐาน ท่านให้ตั้งพานครู บูชาพระรัตนตรัยและครูบาอาจารย์เพื่อขอเมตตาท่านผู้ใหญ่ท่านสงเคราะห์ ซึ่งในพานครูท่านให้เชิญ ตะกรุดจักรพรรดิ์, ตะกรุดมหาระงับ, ตะกรุดมหาราชใหญ่, เม็ดยาวาสนา, ลูกอมเทียนมหาระงับน้อย, ผ้าขอดขาวแดง ฯ ลงในพานครู

 

“ เสกปิดในวันพฤหัสบดี “

 

ด้วยการเขียนผงชาตรีใหญ่ เสกอาพัตเหล้าแล้วจึงว่าปะสะและพมลงบนลูกอมฯ แล้วจึงโรยผงชาตรีใหญ่ลงบนลูกอมฯและคลุกเคล้าพร้อมกันเสกประสานเนื้อและบทชาตรีฯ

 

**บทอาราธนา ลูกอมชาตรีมหาระงับ ว่า

 

" อิทธิฤทธิ อิทธิสิทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะอะอุ นี้ด้วยเถิด "

 

" กะระมะถะ กิริมิถิ กุรุมุถุ เกเรเมเถ "

 

***ให้แล้วช่วยเอาไปภาวนากันด้วยนะจ๊ะ เพื่อรักษาตน

 

+++++++++++++++++++++++++

วันพุธที่ ๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๓ อาตมาทำพิธีบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย ขออนุญาตใช้วิชามหาระงับโรคาพินาศ ถ้าถามว่าวิชานี้มาจากไหน ? ก็มาจากวิชามหาระงับตามสายหลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม

สายวิชาแม่กลองนี้ มีการศึกษานำวิชากลับไปกลับมา และพัฒนาขึ้นมาเรื่อย ตั้งแต่หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ไปศึกษาจากหลวงปู่พ่วง วัดลิงโจน (วัดปากสมุทรสุดคงคา) หลวงปู่ทิม วัดบางลี่น้อย (วัดบางนางลี่กุฎีทอง)

แล้วหลวงปู่คง วัดบางกะพ้อม หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ มาศึกษานำวิชากลับไปปลายน้ำแม่กลอง จากนั้นหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน ก็ไปศึกษาวิชานี้จากหลวงปู่เนื่อง วัดจุฬามณี นำเอาวิชากลับคืนมาต้นแม่น้ำแม่กลองอีกครั้ง

เมื่อทำบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัยแล้ว เข้าที่ภาวนาก็หลับฝันเห็น แนวธงของบรรดา "เจ้าหน้าที่โรคระบาด" ปักแนวไว้รอบโลก..!

ท่านลองนำแผนที่โลกมาวาง แล้วขีดเส้นหนาระหว่างเส้นรุ้งที่ ๔๐ และเส้นรุ้งที่ ๔๒ จากนั้นลองไล่ดูว่า มีประเทศอะไรอยู่ในแนวนั้นบ้าง ?

ในฝันได้ถาม "เจ้าหน้าที่โรคระบาด" ว่า พื้นที่กว้างขนาดนี้เชียวหรือ ? แล้วหลายประเทศนอกเขตทำไมถึงติดเชื้อด้วย ? ท่านบอกว่าในแนวธงนั้น คือประเทศหลักที่สร้างกรรมไว้ในอดีต จะต้องมีคนตายกันมาก พวกนอกเขตที่ติดเชื้อ เป็นฝ่ายสนับสนุน จึงโดนลูกหลงไปด้วย..!

ขออนุญาตท่านว่า จะไม่ล่วงหน้าที่ของท่านทั้งหลาย แต่ช่วยถอนธงแนวประเทศไทยสักครู่หนึ่งได้หรือไม่ ? ท่านถามว่าถอนไปเพื่ออะไร ?

บอกกับท่านทั้งหลายเหล่านั้นว่า ประเทศไทยของเรา ซึ่งอยู่ใต้บารมีองค์สมเด็จพระธรรมิกราช แม้ว่าพสกนิกรจะค่อนข้างไม่เอาไหน แต่ถ้าเปิดเทอมแล้วเด็ก ๆ ไปเรียนไม่ได้ การศึกษาที่รั้งท้ายอาเซียนอยู่ ก็จะยิ่งโดนทิ้งห่างไกลไปอีก อาตมาเห็นแล้วทำใจไม่ได้

ประการที่สอง ประชากรส่วนใหญ่ ซึ่งองค์สมเด็จพระธรรมิกราช พยายามช่วยเหลือเพื่อให้พออยู่พอกิน เมื่อส่วนมากตกงาน ถ้าเงินเก็บหมดเสียก่อนโรคระบาดจะหาย สิ่งที่องค์สมเด็จพระธรรมิกราชได้กระทำไว้ ก็จะสูญเปล่าโดยสิ้นเชิง

"เจ้าหน้าที่โรคระบาด" บอกว่า "ถ้ายังไม่หมดวาระ ก็ยังถอนธงไม่ได้ แต่ท่านประกอบพิธีได้ถูกต้อง อ้างบารมีคุณพระศรีรัตนตรัย พวกเราจะยอมถอนให้ชั่วคราว เพื่อให้ท่านทั้งหลายมีเวลาจัดการภายในเดือนนี้ แต่ถ้าหลังจากนี้แล้ว ต้องปักธงกลับลงไปอีก ถึงเวลานั้นพวกท่านจัดการไปได้เท่าไร กลับมากำเริบอีกเท่าไร ต้องปล่อยไปตามกรรม ห้ามมาขอร้องกันอีก"

ยังไม่ทันจะคุยอะไรต่อ อาตมาก็สะดุ้งตื่นเสียก่อน จึงมาทำน้ำมนต์ พรมวัตถุมงคลในพิธี และโปรยดอกไม้เป็นพุทธบูชา ช่วงที่ทำน้ำมนต์นั้น ก็มีปรากฏการณ์คล้ายกับพิธีพลิกชีวิต แต่ไม่ดุเดือดรุนแรงเท่า

ส่วนที่ขำก็คือ พระลูกศิษย์จำนวนหนึ่ง พยายามลองทำน้ำมนต์ตามแบบที่เห็น โดยเอียงเทียนน้ำมนต์ให้ได้องศาเดียวกัน เพื่อที่จะลองดูว่ามีเปลวไฟไหลลงไปแล้วระเบิดกลับขึ้นมาหรือไม่ ? ปรากฏว่าดับเงียบเรียบร้อยทุกราย..!

มีเพียงบางท่านซึ่งมีความฉลาด นำเอาสมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิตใส่ไว้ในน้ำมนต์ อาราธนาแล้วแต่พระท่านจะสงเคราะห์ ก็มีปรากฏการณ์ขึ้นให้เห็นได้เช่นกัน

สรุปว่าพิธีการตามวิชามหาระงับ ซึ่งพระท่านอนุญาตให้ต่อด้วยคำว่า โรคาพินาศ ถ้าเป็นไปตามความฝัน ภายในสิ้นเดือนนี้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-๑๙ ในประเทศไทยเราก็คงจะเบาบางลง ส่วนจะกลับแพร่ระบาดใหม่เมื่อไรไม่สามารถที่จะบอกได้ ด้วยความต่างกันของระยะเวลาก็คือ ๑ วันของเขาเท่ากับ ๕๐ ปีของเรา ได้แต่หวังว่าท่านจะไม่ปักธงเอาไว้นานนัก

ในฐานะพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นหนี้บุญคุณที่ญาติโยมทั้งหลายได้ให้การอุปถัมภ์ค้ำชูมา อาตมาได้พยายามทำเต็มความสามารถแล้ว ผลที่เกิดขึ้นจะได้มากน้อยเท่าไร ก็ขึ้นกับผลกรรมที่ท่านทั้งหลายได้กระทำเอาไว้ สมกับพระบาลีที่ว่า กมฺมํ สตฺเต วิภชฺชติ กรรมย่อมเป็นเครื่องจำแนกสัตว์ ด้วยประการฉะนี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนเมษายน ๒๕๖๓

ที่มา : www.watthakhanun.com

 

ควันหลงจากพิธัมหาระงับ_โรคาพินาศ

  " ขอให้คุณจงนำน้ำตาเทียนและเทียนน้ำมนต์ที่เหลือจากพิธีผสมผงมหาระงับแล้วมาหุงด้วยไฟทั้ง 3 พร้อมกับลงถมด้วยยันต์นครฐาน, ยันต์พระเจ้าโปรดโลกนอกใน, ยันต์พยนต์, นะพิชัยสงคราม, นะทรงแผ่นดิน, นะควบคุมพล, นะคุ้มเมือง, นะเคหะสถาน, นะจอมเทวา,  นะวิรุนจำบัง, นะอุปถัม, นะพระกาฬ, นะดับ, เฑ๊าะบรมครู ฯ สำเร็จแล้วจึงนำมาปั้นเป็นลูกอมให้เสร็จในวันจักรี ได้แค่ไหนก็แค่นั้น วันรุ่งขึ้นจงนำไปอธิษฐานในที่ 3 แห่ง อันมี โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์ ท่านสมภพ1 เบื่องหน้าหลวงพ่อมงคลบพิธน้อย ณ วัดสิงห์ เมืองนน1 และกุฎีคุณ1 ตามลำดับนี้แล้วก็เป็นอันสำเร็จ)"

" ลูกอมชุดนี้เราให้นามว่า "ลูกอมมหาระงับน้อย" ด้วยว่าถึงจะไม่อาจเทียบเท่ากับตะกรุดมหาระงับได้ แต่ก็ยังพอมีคุณของมหาระงับให้คุ้มตัวกันได้"

ผู้ใดได้รับจงอธิษฐานใช้ดังตะกรุดมหาระงับนั้น"

เราเจ้าพยาพิชัยสงครามฯ ขอประกาศสัจจะต่อหน้าคุณพระศรีรัตนตรัย คุณบิดามารดา คุณครูอาจารย์โดยมีพระครูขรัวเฒ่ามหาเถรคันฉ่องเป็นประธาน คุณสัพพเทวาทังหลายฯ เราขอกล่าวเป็นคำตายว่า 

"มันผู้ใดเอาของเราไปใช้แล้ว กระทำตนเป็นผุ้คิดร้ายทำลายชาติ พระศาสนาและพระมหากษัตริย์ แล้วไซ้ เราจะผลาญมันเสียให้สิ้นชื่อแลสาปส่งมันชั่วกัปป์ชั่วกัณ  แต่ผู้ใดประพฤติดีไม่ผิดคำเรา เราพร้อมเหล่าบริวารจะอุปถัมภ์ค้ำชูให้บริบูรณ์ด้วยสิ่งดีทั้งปวงฯ เทอญ"