หุ่นพยนต์ หลวงปู่แก่น วัดเขื่อนท่าทุ่งนาประชาสรรค์ ปี 58

หุ่นพยนต์เทพทันใจขยับได้‬ ...!!!

หลวงปู่แก่น วัดเขื่อนท่าทุ่งนาประชาสรรค์
จัดสร้าง 108 องค์ สูง 14 นิ้ว
บูชาองค์ละ 3500 บาท ที่ร้านมีองค์เดียวชุดสีแดงค่ะ 
...ถ้าเรายังจำกันได้ว่า ในยุคก่อนที่ หลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง ซึ่งเป็นรุ่นพี่บ้านเดียวกัน(ต.คลองตาคต) และยังเป็นศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกับหลวงปู่แก่น จะละสังขารลง ท่านได้เคยสร้างหุ่นพยนต์ไว้จนเป็นที่นิยมบูชาของญาติโยมเพราะก่อเกิดประสบการณ์อยู่ไม่น้อย ทำให้ญาติโยมรุ่นหลังๆทางแถบบ้านของหลวงปู่และหลวงพ่อสง่าอยากได้หุ่นพยนต์บ้าง แต่ไม่สามารถหาของแท้ๆได้ จึงได้อ้อนวอนขอให้หลวงปู่ ท่านช่วยสร้างหุ่นพยนต์ให้บ้าง หลวงปู่ท่านก็เมตตาสร้างหุ่นพยนต์เทพทันใจจำนวน 108 องค์ (มีโค๊ดและหมายเลข) ให้ได้บูชากันสมใจในสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้
เรื่องราวการสร้างหุ่นพยนต์
พยนต์ ความหมายจาก พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน คือ [พะยน] น. สิ่งที่ผู้ทรงวิทยาคมปลุกเสกให้มีชีวิตขึ้น เช่น หุ่นพยนต์ (ป. วยนฺต ส. วฺยนฺต) ดังนั้น หุ่นพยนต์จึงหมายถึงหุ่นจำลองรูปคน สัตว์ เทวดา ยักษ์ หรืออะไรต่อมิอะไรที่ผู้ทรงวิทยาคมปลุกเสกให้มีชีวิตขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้งานทางไสยศาสตร์หรือก่อให้เกิดผลตามที่ผู้ทรงวิทยาคมประสงค์
วัสดุที่นำมาใช้ทำหุ่นพยนต์นั้น สามารถใช้วัสดุทำได้เกือบทุกอย่าง โดยบางสำนักก็นำก้านใบไม้ เถาวัลย์ หวาย ผ้าหรือด้ายสายสิญจน์ มาสานให้เป็นหุ่น บางสำนักก็นำไม้มาแกะสลัก บางสำนักก็นำดินหรือเทียนมาปั้นเป็นหุ่น บางสำนักก็นำโลหะมาหล่อให้เป็นหุ่น โดยมีขั้นตอนพิธีกรรมจัดทำแตกต่างกันไปในแต่ละสำนัก แต่ละผู้สร้าง (บางสำนักต้องการให้มีอิทธิฤทธิ์แรงขึ้นก็จะหาวัตถุอาถรรพ์ต่างๆมาเป็นวัสดุ อย่างเช่น เขี้ยวงาสัตว์ พิษสัตว์ ด้ายจูงศพ ผ้าห่อศพ เชือกผู้คอตาย ดินขี้เถ้าเชิงตะกอน ตะปูตอกโลงศพ เหล็กแทงศพ ยิ่งเฮี้ยนยิ่งดี)
เมื่อทำเป็นตัวหุ่นเสร็จแล้วผู้ทรงวิทยาคมจะนำมาปลุกเสกบรรจุธาตุทั้ง๕ อันมี ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศธาตุ และเรียกอาการให้ครบ ๓๒ ซึ่งเป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตทั่วไป เสร็จแล้วจึงเชิญวิญญาณลงสถิต จากนั้นก็ผูกกรึงไว้ให้เป็นหุ่นพยนต์ แล้วจึงมาลงอักขระคาถาหนุนพร้อมปลุกเสกให้มีอิทธิฤทธิ์มากขึ้น เพื่อที่จะสามารถอธิษฐานหรือเรียกใช้ได้ดังใจ
ขั้นตอนการเชิญวิญญาณลงสถิตนี้ค่อนข้างสำคัญ เพราะผู้ทรงวิทยาคมบางท่านก็นำวิญญาณภูติพรายไม่ว่าจะเป็นผีคนหรือสัตว์ ดีหรือเลว เอามาลง เพื่อมุ่งหวังเพียงแต่จะให้สามารถใช้หุ่นพยนต์ไปทำงานได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าดีหรือเลว โดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะตามมาว่าหุ่นพยนต์ตัวนั้นอาจจะแว้งกลับมาทำร้ายผู้ที่ใช้งานได้ เมื่อตอนที่อาคมซึ่งผูกกรึงวิญญาณไว้เกิดเสื่อมลง อีกทั้งหุ่นพยนต์ที่เอาวิญญาณผีมาลงแบบนี้ยังต้องเลี้ยงหรือเซ่นตลอดเวลา
ดังนั้นผู้ที่ทรงวิทยาคมบางท่าน โดยเฉพาะพระอริยะเจ้าผู้ทรงศีลซึ่งมีคุณธรรมสูง จะมีกำลังฤทธิ์หรือมีอำนาจสูงกว่าพวกเทวดา ก็จะสามารถเชิญเทพเทวดาได้ลงสถิตในหุ่นพยนต์แทนวิญญาณภูติพรายได้ โดยจะเลือกเพียงเทวดาชั้นจาตุมมหาราชิกา ได้แก่ พวกกึ่งอมนุษย์กึ่งเทวดา เช่น คนธรรพ์, กุมภัณฑ์, นาค ที่เป็นสัมมาทิฏฐิ มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาเท่านั้น ( หากเลือกเทวดาที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ ไม่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา มีใจคอโหดร้าย ถ้าใครทำให้ไม่ถูกใจ ก็จะให้โทษได้ ) หุ่นพยนต์เทพจึงไม่จำเป็นต้องเลี้ยงหรือเซ่น แต่ต้องกราบไหว้สวดบูชาเท่านั้นก็เพียงพอที่จะขอให้ท่านบันดาลสิ่งต่างให้สมปรารถนา
การที่หุ่นพยนต์จะทรงฤทธิ์หรืออานุภาพได้มากน้อยเพียงใดนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับตำรับวิธีการสร้าง วัสดุ และผู้ทรงวิทยาคมที่ปลุกเสกว่ามีอำนาจจิตและภูมิธรรมสูงเพียงใด ถ้าผู้ที่ปลุกเสกมีภูมิธรรมสูงมากก็จะสามารถอัญเชิญเทพซึ่งมีฤทธิ์อานุภาพลงสถิตได้
หุ่นพยนต์เทพทันใจของ หลวงปู่แก่น วัดเขื่อนท่าทุ่งนาฯ ก็เช่นกัน หลวงปู่ท่านได้เชิญองค์เทพลงสถิตไว้มีแต่ให้คุณ ตามหลักพุทธาคมครูบาอาจารย์กล่าวว่า หากบูชาแล้วจะขออะไรก็ได้สมใจปรารถนา เลื่อนตำแหน่ง โชคลาภ ค้าขายดี ได้ผลรวดเร็วทันอกทันใจ ไม่มีการให้โทษแต่ประการใด ดัง โบโบยีนัต วัดโบตะทาว ที่คอยพิทักษ์ปกป้องมหาเจดีย์ชเวดากอง ซึ่งชาวพม่าเชื่อกันว่าเป็นเทพทันใจ อธิษฐานอะไรมักสัมฤทธิ์ผลตามจิตอธิษฐานเสมอ (โดยมีเคล็ดลับว่า ในแต่ละครั้งที่อธิษฐานต้องขอเพียงข้อเดียวเท่านั้น นัยว่าเพื่อพลังกล้าแข็งของความปรารถนา )

--------------------------------------