สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์

สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์
สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ปลอดภัย รวยเงินล้าน เข้าพิธี ๓ วาระ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อบ๊ะ พุทธาภิเษก พ่อตุ๊มหาสิงห์
หมวดหมู่ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน
ราคา 450.00 บาท
ลงสินค้า 5 ธ.ค. 2567
อัพเดทล่าสุด 13 ก.พ. 2568
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
เก็บไว้ให้จงดีครับ เมษาปีหน้าเป็นต้นไปถึง ปี 70 สงครามใหญ่หนักมาก
ถึงเวลาจะได้อาราธนา ทำน้ำมนต์ และมีคาถาเงินล้านด้วย ด้านมหาลาภก็มี ถูกหวยหลายท่าน ค้าขายดี ปลอดภัย
ครูบาอาจารย์เมตตา มาสงเคราะห์ ถึง 3 วาระ ในพิธีเททอง นำเข้าพิธีวัดถ้ำป่าไผ่ อีกมั่นใจได้เลยครับ

เหรียญนี้ ได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษก และอธิษฐานจิตดังนี้
วาระที่ 1 พุทธาภิเษกในพิธีหล่อสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก 89 นิ้ว
หลวงปู่ครูบาเจ้า อินสม วัดจอมทอง แม่สะเรียง เป็นประธาน
หลวงปู่พระมหาสิงห์ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน
หลวงปู่ครูบาคำฝั้น วัดกอโชค เชียงใหม่
หลวงปู่ครูบาดวงจันทร์ วัดมะกับตอง เชียงใหม่
หลวงปู่วิชัย วัดแม่สะลาบ เชียงใหม่
วาระที่ 2 พิธีพุทธาพิเษก เสาร์ 5 ตรีวัน ณ อารามสวนป่าห้วยลึกพระอานนท์
วาระที่ 3 นำเข้าพิธีสืบชะตา วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ วางในที่เหมาะโยงสายสินจน์ (ทางวัดให้วางที่ตักได้) โดยพระอาจารย์เล็ก เมตตานำแก้วท่านปู่พระอินทร์ วางเป็นประธานในพิธี ( ชุ่มเย็นเป็นสุข )

พิธีวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่
 
วัตถุมงคลหลายรายการ หนึ่งในนั้นคือเบี้แก้ หลวงพ่อบ๊ะอธิษฐานจิตพุทธาภิเษก (เปิด Auto ไว้ อธิษฐานบูชาได้เลย) ไม่มีคาถาสวดเฉพาะ

 "เบี้ยแก้เพชรกลับปรอททะเล"( เบี้ย ๓๒ ฟัน ตามตำรา )✨💫💫วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ 🔆ซึ่งเป็นปรอทธรรมชาติ มีฤทธิ์ในตัว 🔆ปรอทหนัก 1 บาท 🔆มีรอยจารรอบ ทั้งด้านหน้าและหลัง 🔆สร้างน้อยแค่ 400 ลูก 
🚩เบี้ยแก้ คือ เครื่องรางของขลังชนิดหนึ่งมีอานุภาพทั้งกันทั้งแก้สิ่งชั่วร้าย เสนียดจัญไร คุณไสย คุณคน คุณผี ยาสั่ง ยาเบื่อ ยาเมา พิษสัตว์ร้ายทั้งหลาย ซึ่งเบี้ยเพชรกลับนี่เป็นเบี้ยพิเศษซึ่งหาได้ยากกว่าเบี้ยทั่วไป อีกทั้งยังนำมาบรรจุปรอททะเลเอาไว้ภายใน ซึ่งปรอททะเล เป็นปรอทธรรมชาติ มีฤทธิ์คล้ายปรอทป่า แต่สถานที่ที่ไปดักจับต่างกัน และมีฤทธิ์ในตัวที่สูงกว่าปรอทวิทยาศาสตร์มากมายมหาศาล แถมอุดด้วยชันโรงและหุ้มเบี้ยแก้ด้วยตะกั่วและจารอักขระตรงตามตำราซึ่งหาได้ยากและทรงคุณวิเศษ พิธีนี้ได้รับการเมตตาสงเคราะห์จากพระสุปฏิปันโนที่มีความชำนาญและศึกษาวิชาเบี้ยแก้มา คือ พระเดชพระคุณพระครูวิลาศ กาญจนธรรม ดร. ( หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน ) และ พระอาจารย์ ศิริชัย ชยธมฺโม วัดโพธิลังการ์ และนำเข้าพิธีมหามงคลสืบชะตาตุ๊พ่อมหาสิงห์ ที่มีพระถราจารย์ที่ทรงคุณความดีอีกหลายท่าน 🚩คุณวิเศษบางส่วนของเบี้ยแก้ค่ะ 🌺 เบี้ยแก้ เมื่อยามศึกสงครามให้เอาไว้ด้านหน้า สารพัดศัตรูบีฑาย่ำรุกไล่ให้เอาไว้ด้านหลัง หากเจ้าฟ้ามหากษัตริย์เจ้าขุนมูลนาย ให้เอาไว้ด้านข้างขวา เมื่อหาหญิงหานางพญาให้ไว้ข้างซ้าย 🌺เบี้ยแก้ สามารถป้องกันสรรพอันตรายต่างๆ แล้ว ยังป้องกันยาสั่ง ตลอดถึงของที่เขาปล่อยเข้ามา และแก้การกระทำทางคุณไสยทั้งปวง 🌺เบี้ยแก้ เป็นอิทธิวัตถุที่มีลักษณะท้าทาย อย่างเปิดเผยต่อการปล่อยคุณไสย และการกระทำย่ำยีในไสยศาสตร์ทั้งปวง ———————//////——————— .... วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ เมื่อคืนท่านที่เป็นเวรยามก็คงจะเห็นว่ากระผม/อาตมภาพกลับมาช้า เหตุเพราะว่าคู่เจรจาเจตนาถ่วงเวลา คือกะว่าถ้าไม่ไปสถานีตำรวจแล้ว จะเจรจากับกระผม/อาตมภาพได้ง่ายขึ้น บุคคลผู้นี้ก่อเหตุลักษณะนี้มาหลายครั้งแล้ว ตามที่ท่านผู้กำกับมนตรี แตงโต ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิท่านไปสืบมา แต่ว่ารอดคดีมาได้ทุกครั้ง เพราะว่าทางด้านเจ้าทุกข์ยอมประนีประนอมด้วย แล้วกระผม/อาตมภาพก็เข้าใจเลยว่าทำไมเจ้าทุกข์ถึงยอมประนีประนอมด้วย เพราะว่าพ่อเจ้าประคุณ "เล่นของ" มาถึงศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สายนี่แล้วยังเล่นอีกต่างหาก..! เพียงแต่ว่าเป็นการเล่นของเด็กอนุบาล ก็คือเป็นไปทางสายพวกเสน่ห์ยาแฝด ในลักษณะทำให้รัก ทำให้หลง ทำให้เมตตา ตามใจเขาทุกประการ แม้กระทั่งวันที่เขานัดมา ก็เป็นวันที่เขาเลือกแล้วว่าเป็นวันพุธ ซึ่งทางโบราณเขาถือว่าเป็นวันที่เจรจาได้ง่ายที่สุด เพราะตามหลักของโหราศาสตร์ เขาถือว่าวันพุธเป็นปาก แต่เขาก็คงไม่รู้ว่ากระผม/อาตมภาพเป็นใคร..! ดังนั้น..เมื่ออยู่ภายในห้องสอบสวนกัน แล้วเขาขอความเมตตา กระผม/อาตมภาพบอกว่า "ได้เมตตาให้มาตลอดแล้ว ก็คือเวลามึงทำของใส่แล้วกูไม่สวนให้คว่ำไปตรงนั้นเลย..! ต่อไปให้เลิกเสีย เพราะว่าหาความก้าวหน้าไม่ได้หรอก เนื่องจากว่ากูนี่แหละเป็นต้นตำรับ..!" เขาก็เลยนั่งตะลึงไปประมาณเกือบ ๕ นาที พูดไม่ออกบอกไม่ถูก คาดว่ากลับไปอาจจะ "วิชาเสื่อม" ไปเลย เพราะว่าหมดความมั่นใจ นอกจากเขาจะไม่รู้ว่ากระผม/อาตมภาพเป็นใครแล้ว ยังไม่รู้ว่าภายในศาลา ๑๐๐ ปีฯ แห่งนี้ กระผม/อาตมภาพเอาเบี้ยแก้ตัวครู หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้วใส่พานไว้คู่หนึ่ง..! ...คำว่า เบี้ยแก้ พวกเราต้องเข้าใจว่า คำว่า แก้ คืออะไร ? ส่วนใหญ่คือแก้พวกคุณไสย ไสยเวทย์มนต์ดำอะไรพวกนี้ทุกเรื่อง ถ้าหากว่าบ้านเราอาจจะไม่ชัดเจน แต่ว่าทางพม่าเขาเล่นของพวกนี้หนักกว่าบ้านเรามาก ทุกอย่างทางด้านนั้นถือโชคถือลาง ถือเคล็ด ถือเวทมนตร์ไสยศาสตร์เป็นหลัก กระผม/อาตมภาพเจอเข้าหลายครั้ง ต้องบ่นภาษาวัยรุ่นว่า "กูจะบ้า..!" เนื่องเพราะว่าด้วยความเคยชิน พอถึงเวลาจะเดินทาง กระผม/อาตมภาพก็กำหนดวันไปวันกลับแน่นอนแล้ว วันนี้จะต้องกลับถึงเมืองไทยให้ได้ แต่พอไปเช่ารถ เขาบอกว่า "วันนี้ไม่วิ่งรถ เพราะว่าเป็นวันจม" คือสมัยก่อนส่วนใหญ่เป็นการสัญจรทางน้ำ วันจมวันลอยจึงเกี่ยวกับเรื่องของเรือ แต่แม้กระทั่งมาใช้รถแล้ว เขาก็ก็ยังถือวันจมวันลอยอยู่ ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายสังเกต แต่คงไม่มีโอกาสสังเกตหรอกกระมัง ? บรรดาผู้หญิงที่มี "อาชีพอย่างว่า" ทางฝั่งโน้น พกแมลงภู่คำทุกคนเลย ส่วนใหญ่ก็มัดติดกับสายยกทรงไว้ เพราะว่าแมลงภู่คำก็อยู่ในลักษณะเดียวกับเบี้ยแก้ ก็คือบรรจุปรอท #ซึ่งส่วนใหญ่จะล้างพวกอาถรรพ์ไสยศาสตร์ต่าง ๆ ได้ #ช่วยป้องกันการกระทำของผู้ชายได้..! เนื่องเพราะว่าแม้แต่ในบ้านเราก็เหมือนกัน พวกบาร์ผู้ชาย หรือว่าพวกไนท์คลับที่มีผู้หญิงอยู่ ไม่มีใครที่ไม่เล่นของพวกนี้ เพราะว่าต้องการดึงให้ลูกค้าติด จะได้มาหาบ่อย ๆ แล้วส่วนใหญ่ก็เป็นประเภทไสยศาสตร์ฝ่ายต่ำ ประเภทเด็กอนุบาลอย่างที่กระผม/อาตมภาพว่าไป คือถ้ากำลังใจของเรามีสมาธิทรงตัวก็รอดแล้ว ยกเว้นประเภทที่ทำให้กินเข้าไป คราวนี้ของพวกนี้มีทั้งไสยเวทย์อาคม วัตถุอาถรรพ์ต่าง ๆ แม้กระทั่งน้ำมันพราย ถ้าจะเอาตัวรอดกันจริง ๆ ก็พกเบี้ยแก้ หรือว่าแมลงภู่คำที่บรรจุปรอทป่าเอาไว้บ้าง กระผม/อาตมภาพก็พกเบี้ยแก้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าพกเบี้ยแก้หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว ถามว่าทำไมพกเบี้ยแก้หลวงปู่เจือ ทั้ง ๆ ที่ของหลวงปู่รอด วัดนายโรงก็มี ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วก็มี ? ก็เพราะว่าของเหล่านั้น "เอาไว้ขาย" เป็นของแพง เนื่องจากคนต้องการมาก..! ในเรื่องของเบี้ยแก้นั้น ถ้าหลัก ๆ เลยบ้านเรามาจากตำราวัดประดู่โรงธรรม ซึ่งสืบสายมาจากสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว หรือถ้าหากว่านามเดิมก็คือพระมหาเถรคันฉ่อง พระมหาเถระชาวพม่า ที่ถือว่าเป็นพระอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมาก่อน บ้านเราถ้าหากว่าเบี้ยแก้นี่ แยกออกเป็นสายหลัก ๆ ได้เลยก็สามสายด้วยกัน ก็คือสายหลวงปู่รอด วัดนายโรง กับสายวัดกลางบางแก้ว แล้วก็สายหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ ที่เขาเรียกว่า "สายอ่างทอง" แต่ว่าสายของหลวงปู่รอด วัดนายโรงกับสายวัดกลางบางแก้วนั้น ถือว่าเป็นสายเดียวกัน เรื่องนี้พระครูธรรมวิจารณ์ หรือหลวงปู่ชุ่ม วัดชีปะขาว ซึ่งปัจจุบันชื่อวัดศรีสุดารามวรวิหาร ท่านเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่แขก วัดบางบำหรุ ที่เป็นครูบาอาจารย์สอนวิชาเบี้ยแก้ให้หลวงปู่รอด วัดนายโรงนั้น เป็นพระภิกษุชาวนครชัยศรี ธุดงค์ขึ้นไปทางด้านบางบำหรุแล้วชอบใจพื้นที่ ก็เลยอยู่จำพรรษาที่นั่น จนคนไม่รู้ที่มาที่ไปแล้วว่าเป็นคนมาจากที่ไหน ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายไม่รู้ว่าในสมัยรัชกาลที่ ๒ ที่ ๓ ทางด้านธนบุรีของเราเป็นป่าขนาดไหน เอาแค่สมัยที่กระผม/อาตมภาพเป็นวัยรุ่นก็พอ เพราะว่าบ้านยายอยู่ตรงสามแยกไฟฉาย พอเดินเข้าหลังบ้านไป ก็จะเป็นสวนลักษณะที่ชาวบ้านเขาเรียกกันว่าสวนสมรม ก็คือปลูกสารพัดพืชผักด้วยกัน แล้วแต่ละสวนบางทีก็ต่อเนื่องกันไปหลาย ๆ ร้อยไร่..! ดูแลกันไม่ทั่วถึงก็มีสภาพเป็นป่าดี ๆ นี่เอง ถ้าถามว่าบ้านคนอยู่ที่ไหน? ส่วนใหญ่บ้านคนจะปลูกอยู่ริมคลอง มีท่าน้ำยื่นลงไปในคลอง เป็นที่อาบน้ำอาบท่า ซักผ้า ใส่บาตร หรือว่าผูกเรือแพของตนเอง นี่ขนาดช่วงกระผม/อาตมภาพเป็นวัยรุ่นแล้วยังเป็นป่าดี ๆ นี่เอง พวกเสือปลา ชะมด อีเห็นเต็มไปหมด โดยเฉพาะเหี้ย ตัวใหญ่อย่างกับจระเข้ แล้วสมัยรัชกาลที่ ๒ ที่ ๓ จะเป็นป่าขนาดไหน พระท่านถึงไปธุดงค์กันที่นั่น..! ดังนั้น..ในส่วนของหลวงปู่ปาน วัดตุ๊กตา หลวงปู่ปาน วัดกลางบางแก้ว แล้วก็หลวงปู่แขก วัดบางบำหรุ ท่านน่าจะศึกษาวิชาจากสายเดียวกัน เพราะว่าต้องเลือกเบี้ยแก้ที่มีฟัน ๓๒ ซี่ และบรรจุปรอทน้ำหนัก ๑ บาท แต่ทางสายอ่างทองของหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์นั้น ต้องบอกว่าด้วยความที่ท่านเป็นพระอภิญญา ดัดแปลงวิชาการเอง ทางด้านโน้นก็เลยบรรจุปรอทตามขนาดของเบี้ย ไม่ได้สนใจว่าจะหนักเท่าไร ของหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ถือว่าหายากที่สุด ราคาแพงมาก กระผม/อาตมภาพบูชามาตัวสุดท้ายหลายปีก่อน ราคา ๔๐,๐๐๐ บาท..! เบี้ยแก้สายอ่างทองรองลงไปเป็นของหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ แล้วก็หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน เบี้ยแก้ของสองท่านนี้แยกจากกันยากมาก เพราะว่าซื้อหอยเบี้ยจากร้านเดียวกันมาทำ แล้วถึงเวลาลูกศิษย์เอาไปเลี่ยม ก็ร้านเดียวกันอีก แต่คราวนี้เป็นที่สังเกตว่า ถ้าเป็นเบี้ยแก้ของหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ เวลาเราเขย่าจะมีเสียงเหมือนมีทรายอยู่ข้างใน ถ้าเป็นของหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน ก็จะเป็นเสียงปรอทขลุก ๆ ตามปกติ กระผม/อาตมภาพไปกราบหลวงปู่เจือ ตั้งใจว่าจะไม่รบกวนท่าน ตั้งท่าไปบูชาวัตถุมงคลในตู้เอง ท่านกวักมือเรียก บอกว่า "จะเอาเบี้ยให้มาเอาที่ผมนี่..!" ถึงท่านไม่พูดอีก ก็เป็นอันว่ารู้กันว่าในตู้นั่นปลอมทั้งนั้น..! เพราะว่าไอ้คนขายก็คือคนที่ทำเบี้ยแก้ให้ท่านนั่นแหละ แล้วก็ทำขายเองด้วย เพียงแต่หลวงปู่ไม่ได้เสก ไม่ได้ลงให้..! คราวนี้ถ้าหากว่าเป็นเบี้ยแก้สายอื่นที่มีหลุดรอดออกไปจากสายวัดกลางบางแก้ว มีหลวงพ่อกา วัดแค นครชัยศรี อันนี้ก็สายเหนียว สังเกตง่าย เบี้ยแก้มีห่วงเดียว แล้วห่อด้วยผ้ามุ้งชุบรัก เพราะฉะนั้น..จะเป็นตาข่ายยิบ ๆ แล้วก็มีห่วงเดียว ถัดจากนั้นก็หลุดไปโน่นเลย หลวงพ่อไพล วัดบางแคกลาง สมุทรสงคราม ไม่รู้ว่ามาได้อย่างไร ? ไม่รู้ว่าใครเป็นครูบาอาจารย์ของท่าน แต่เบี้ยแก้ของท่าน แถวนั้นนิยมมาก บอกว่ากันผีเด็ดขาดที่สุด..! แล้วถ้าจะเอาหายากสุด ๆ ก็เบี้ยแก้พอกครั่ง หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง เพราะว่าเบี้ยแก้พอกครั่งของท่านก็มาจากการที่ท่านทำในเรื่องครั่งจนกระทั่งดังแล้ว ก็เลยเอามาใช้กับเบี้ยแก้ด้วย แต่ในชีวิตของกระผม/อาตมภาพ ได้มาแค่ ๕ - ๖ ตัว ต้องบอกว่าได้มาน้อยกว่าของหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ที่หายากเสียอีก..! คราวนี้ในเรื่องของเบี้ยแก้ ถ้าหากว่าเราพกติดตัว ไม่ว่าจะอยู่ในป่า อยู่ในบ้าน ต้องปลุกไว้เป็นปกติ ไม่ใช่ว่าพกเอาไว้เฉย ๆ เหมือนอย่างกับพกสากกะเบือ..! วัตถุมงคลทุกอย่าง ถ้าเราจะใช้ให้เกิดผล จะต้องมีการปลุกเป็นปกติ คาถาไปหาเอาได้ ตาม "กูเกิ้ล" มีเยอะแยะไป ชอบใจบทไหนก็ว่าไปเลย อานุภาพมีครบแต่เน้นด้านใดเท่านั้น มีของสายวัดกลางบางแก้วที่หลากหลายหน่อย จะใช้ประเภทปกติทั่วไป หรือจะเอาประเภทเหนียว หรือจะเอาประเภทถอนคุณถอนของนั่นมีหมด ส่วนใหญ่ของสายอื่นจะไปเน้นเรื่องความเหนียวมากกว่า ดังนั้น..ไอ้ตัวแสบไม่รู้ว่า นอกจากเบี้ยแก้ตัวครู หลวงปู่เจือในศาลานี้แล้ว กระผม/อาตมภาพยังพกเบี้ยแก้ติดตัวด้วย ทำไปก็เหนื่อยเปล่า รำคาญก็เลยเตือนไป บอกว่า "ให้เลิกซะ..ไม่มีประโยชน์หรอก เหมือนอย่างกับเด็กอนุบาลจะมาเล่นอะไรกับคนจบปริญญา คุณก็หาเรื่องเดือดร้อนเอง..!" แต่คราวนี้พอไกล่เกลี่ยเสร็จ แต่คาดว่าเขาคงทำไม่ได้หรอก เพราะว่าผู้กำกับท่านคงเห็นแล้วว่า ไม่มีทางหรอกที่จะทำงานเราให้เสร็จ แต่ว่าถ้าหากว่าเขาไม่ทำตามสัญญาภายในสิ้นเดือนมกราคม แล้วส่งหัวรถจักรให้เรา เราสามารถฟ้องในข้อหาฉ้อโกงได้เลย เพราะว่าเขาตั้งเจตนาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย) ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ———————//////——————- แล้วกระผม/อาตมภาพก็ต้องนำเอาลูกแก้วอินทนิล ซึ่งได้รับมาเนิ่นนานแล้ว และแทบจะไม่ได้ใช้งานเลย เอามาประกอบในพิธีครั้งนี้ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ทางด้านวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ได้จัดสร้างวัตถุมงคลหลายอย่างหลายประการด้วยกัน ที่จำได้ก็มีเบี้ยแก้ มีลูกอมเมฆสิทธิ์ มีพระปิดตาหนุนดวง มีพระกริ่งพิชัยสงคราม มีพระขรรค์ มี "ลูกแก้วอินทนิลน้อย" กระผม/อาตมภาพไม่ได้คิดจะนำแก้วอินทนิลออกมาใช้งาน เนื่องเพราะว่าถ้าไม่มีคำสั่งจากท่านปู่พระอินทร์เจ้าของดวงแก้วก็จะไม่นำออกมา ปรากฏว่างานนี้ท่านปู่พระอินทร์ท่านมากำกับด้วยองค์ท่านเอง จึงจำเป็นที่จะต้องนำออกมาตั้งเป็นองค์ประธาน ระหว่างที่กราบอาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระธรรมและพระอริยสงฆ์ทั้งหมด พรหมเทวดาทั้งหมด ก็ยังได้กราบเรียนสอบถามท่านปู่พระอินทร์ว่า ในเมื่อนำเอาแก้วอินทนิลมาประกอบอยู่ในพิธีจะมีอานุภาพอย่างไร ? ท่านบอกว่านอกจากอานุภาพอื่นที่พระท่านอนุเคราะห์สงเคราะห์ให้แล้ว ในส่วนของท่านก็คือสร้างความชุ่มเย็น ดับร้อนให้กับสถานที่ต่าง ๆ แล้วก็ทำภาพให้เห็นว่าท่านถือมหาสังข์เอาไว้ในมือ เทโปรยปรายน้ำมนต์ลงมาประดุจดังฝนตก ที่สร้างความสงบร่มเย็นให้กับทุกสถานที่ ถ้าหากว่าใครบูชาไป ก็ขอให้รำลึกถึงท่านปู่พระอินทร์ด้วย พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ———————-/////——————— 🚩เบี้ยแก้ไม่มีคาถา หลวงพ่อบ๊ะ ท่านเปิด Auto ไว้ สามารถอธิษฐานได้เลยครับ หลวงพ่อบ๊ะ เมตตาเสกเบี้ยแก้ให้หลายสายวิชา
 
พิธีพุทธาภิเษก 18 สิงหาคม 2567
"...หลังจากนั้นก็เดินทางไปยังศาลาอเนกประสงค์พระราชพรหมยาน ซึ่งเป็นศาลาทำบุญเดิม แต่ว่าได้รับการปรับใหม่ทำให้ดูกว้างขวางขึ้นจากเดิมมาก เนื่องเพราะว่าในส่วนด้านหลังอาสนะสงฆ์ ที่เคยเป็นพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับจัดวางสิ่งของ หรือว่าให้ผู้ทำงานได้อยู่อาศัย โดนรื้อออกไปจนหมด แล้วเอาอาสนะสงฆ์ไปตั้งติดผนังเลย ทำให้สามารถรองรับผู้คนเพิ่มได้อีกเป็นร้อยคน..!
 
เมื่อไปถึงกระผม/อาตมภาพ พร้อมด้วยตุ๊พ่อสิงห์ และท่านอาจารย์บ๊ะ (พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม) วัดโพธิ์ลังกา ก็ได้นั่งรับศรัทธาญาติโยม บอกกล่าวบางเรื่องที่ควรจะบอก และพยายามที่จะไม่บอกบางเรื่องที่ไม่ควรจะบอก จนกระทั่งทุกอย่างพร้อมแล้ว กระผม/อาตมภาพก็อาราธนาตุ๊พ่อสิงห์เข้าสู่ซุ้มสืบชะตา 
 
เมื่อท่านนั่งเรียบร้อย กระผม/อาตมภาพก็ออกมาจุดเทียน ไม่ว่าจะเป็นเทียนสัตตบริภัณฑ์ เทียนบูชาเทวดานพเคราะห์ เทียนค่าคิง เทียนมงคลซ้ายขวา แม้กระทั่งเทียนขันแก้ว ๕ โกฐากและเทียนธาตุ ๔ สำหรับผู้รับการสืบชะตา
 
คำว่าขัน ๕ โกฐากนั้นประกอบไปด้วยเทียน ๕ ต้น
 
เทียนต้นที่ ๑ แทนการบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุเจดีย์ทั่วทั้งสากลทวีป ตลอดจนกระทั่งต้นโพธิ์ทุกต้น
 
เทียนต้นที่ ๒ แทนการบูชาพระธรรม
 
เทียนต้นที่ ๓ แทนการบูชาพระอริยสงฆ์ทั้งหมด
 
เทียนต้นที่ ๔ บูชาครูอุปัชฌาย์อาจารย์
 
เทียนต้นที่ ๕ บูชาครูสอนพระกรรมฐาน
 
ดังนั้น..ถ้าท่านทั้งหลายสงสัยว่าเทียน ๕ โกฐากนั้นมีเอาไว้เพื่ออะไร ก็คือเพื่อบูชา ๕ ประการดังที่ได้กล่าวมานี้
 
แล้วกระผม/อาตมภาพก็ต้องนำเอาลูกแก้วอินทนิล ซึ่งได้รับมาเนิ่นนานแล้ว และแทบจะไม่ได้ใช้งานเลย เอามาประกอบในพิธีครั้งนี้ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ทางด้านวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ได้จัดสร้างวัตถุมงคลหลายอย่างหลายประการด้วยกัน ที่จำได้ก็มีเบี้ยแก้ มีลูกอมเมฆสิทธิ์ มีพระปิดตาหนุนดวง มีพระกริ่งพิชัยสงคราม มีพระขรรค์ มี "ลูกแก้วอินทนิลน้อย" 
 
กระผม/อาตมภาพไม่ได้คิดจะนำแก้วอินทนิลออกมาใช้งาน เนื่องเพราะว่าถ้าไม่มีคำสั่งจากท่านปู่พระอินทร์เจ้าของดวงแก้วก็จะไม่นำออกมาปรากฏว่างานนี้ท่านปู่พระอินทร์ท่านมากำกับด้วยองค์ท่านเอง จึงจำเป็นที่จะต้องนำออกมาตั้งเป็นองค์ประธาน
 
ระหว่างที่กราบอาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระธรรมและพระอริยสงฆ์ทั้งหมด พรหมเทวดาทั้งหมด ก็ยังได้กราบเรียนสอบถามท่านปู่พระอินทร์ว่า ในเมื่อนำเอาแก้วอินทนิลมาประกอบอยู่ในพิธีจะมีอานุภาพอย่างไร ?
 
ท่านบอกว่านอกจากอานุภาพอื่นที่พระท่านอนุเคราะห์สงเคราะห์ให้แล้ว ในส่วนของท่านก็คือสร้างความชุ่มเย็น ดับร้อนให้กับสถานที่ต่าง ๆ แล้วก็ทำภาพให้เห็นว่าท่านถือมหาสังข์เอาไว้ในมือ เทโปรยปรายน้ำมนต์ลงมาประดุจดังฝนตก ที่สร้างความสงบร่มเย็นให้กับทุกสถานที่ ถ้าหากว่าใครบูชาไป ก็ขอให้รำลึกถึงท่านปู่พระอินทร์ด้วย
 
เมื่อเสร็จพิธีแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้ทำการพรมน้ำพระพุทธมนต์ในวัตถุมงคลทั้งหมด พร้อมกับโปรยข้าวตอกดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชา จากนั้นก็รีบเก็บแก้วอินทนิลอย่างเร่งด่วน เหตุเพราะว่าถ้ามีคนรู้เข้า เดี๋ยวก็จะไปรุมถ่ายรูปกันอีก
 
ต่อจากนั้นก็ได้มาทำการผูกข้อมือถวายให้กับตุ๊พ่อสิงห์ ซึ่งบรรดาพระเถระชาวล้านนาที่มาร่วมงานส่วนใหญ่ก็บอกว่า "ขอหื้ออยู่ร้อยซาวปี๋เน้อ" กระผม/อาตมภาพเองก็ได้แต่สั่นหัว เนื่องเพราะว่าตัวเองอายุแค่ ๖๐ กว่าปีก็ "แทบจะตะบันน้ำกิน" แล้ว รู้ดีว่าคนแก่นั้นลำบากขนาดไหนที่จะอยู่ อายุ ๘๐ กว่าปีนี้ก็แทบจะต้องลากสังขาร เดินก้าวหนึ่งหอบครั้งหนึ่งแล้ว ยังจะมาอวยพรให้อยู่ ๑๒๐ ปี แต่ก็แล้วแต่น้ำใจของท่านก็แล้วกัน
 
ระหว่างที่ผูกข้อมือก็กราบเรียนตุ๊พ่อว่า "กระผมขออนุญาตลากลับเลยนะครับ ไม่ได้อยู่ฉันเพลด้วย" แล้วก็กลับสู่อาสนะของตนเอง เมื่อพิธีการ "ฮ้องขวัญ" ซึ่งทำโดยพระครูปลัดฟลุก (พระครูปลัดธีร์นวัช ญาณสิทฺธิวาที) เจ้าอาวาสวัดยางกวง จังหวัดเชียงใหม่ เสร็จลงแล้ว ตุ๊พ่อสิงห์ก็ได้ถวายปัจจัยไทยธรรมให้กับกระผม/อาตมภาพ ซึ่งพอรับแล้วก็กราบลาพระประธาน พนมมือไหว้บรรดาพระเถรานุเถระทุกรูปรอบทิศ แล้วก็ตรงมาขึ้นรถ เดินทางออกจากวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่เลย
 
คาดว่าคืนนี้กว่าจะถึงที่พักก็คงจะดึกตามเคย แต่ว่าในระหว่างที่เดินทางอยู่ เมื่อถึงเวลาก็ต้องบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เพื่อให้ท่านทั้งหลายที่รอฟังอยู่จะได้มีเสียงธรรมเอาไว้ฟังทุกวันโดยไม่ขาดตอน.."
 
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๗
 
https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=10442
 
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com
 

วิธีการชำระเงิน

บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ออมทรัพย์
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขากองบัญชาการกองทัพบก ออมทรัพย์
  • ค่าธรรมเนียม 3.9% + 11 THB
  • การชำระผ่าน PayPal คุณไม่จำเป็นต้องแจ้งชำระเงิน เนื่องจากระบบจะจัดการให้คุณทันที ที่คุณชำระเงินเสร็จสมบูรณ์

CATEGORY

       เพิ่มร้านณัชชาเป็นเพื่อน    
       ด้วย QR Code
ด้านล่างนี้  

       บัญชีร้านณัชชา      

CONTACT US

0851242951

STATISTICS

หน้าที่เข้าชม1,996,483 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด1,263,598 ครั้ง
เปิดร้าน12 ก.ค. 2558
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

MEMBER

พูดคุย-สอบถาม