ธงมหาพิชัยสงคราม(ผืนใหญ่ 1 เมตร) คุ้มครองได้ทั้งฐาน หลวงตาวัชรชัย วัดเขาวงถ้ำนารายณ์

 

 

ทางวัดได้จัดทำธงมหาพิชัยสงคราม

เข้าพิธีปลุกเสกเสาร์๕

ณ พระอุโบสถวัดท่าซุง

ผืนใหญ่ (แดง ๕๐*๑๐๕ ซม.) 

 

หลวงตาเคยถามหลวงพ่อว่า "คุ้มอะไรได้บ้าง" 

หลวงพ่อท่านเมตตาบอกว่า "คุ้มภัยได้ตามที่อธิษฐานขอ"

 

ของวัดเขาวงพิมพ์ตามแบบลายมือเจ้ากรมเสริมที่ถวายหลวงตามา (ตามประวัติข้างล่าง) วัดเขาวงได้จัดสร้างธงมหาพิชัยสงครามครั้งแรกประมาณ 20 ปีแล้วและหมดไปนานแล้ว ส่วนรุ่นนี้สร้างเมื่อปี 2561

 

✨เรื่องธงมหาพิชัยสงคราม✨

โดย พระราชภาวนาพัชรญาณ (หลวงตาวัชรชัย อินทฺวังโส

เขียนไว้วันนี้ (วันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๔)

 

พระคุณหลวงพ่อเรียกว่าธงรบ

ย้อนหลังเวลาไปเมื่อปี ๒๕๑๘-๑๙-๒๐ วัดท่าซุงได้จัดงานฉลองวัด ที่พระคุณพ่อ(พระมหาวีระ ถาวโร หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หรือพระราชพรหมยาน) ได้นำพวกเราบูรณะปฏิสังขรณ์และสร้าง เสริมเสร็จพอที่จะประกาศถวายไว้ในพระพุทธศาสนาได้แล้ว  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๙ และพระบรมราชินี พร้อมด้วยเจ้าฟ้าทั้งสามพระองค์คือเจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์, ฟ้าหญิงสิรินธร, และฟ้าหญิงจุฬาภรณ์( พระยศในขณะนั้น)

 

ได้เสด็จมาบำเพ็ญกุศล ๒ ครั้งคือปี๒๕๑๘ เททองหล่อรูปหลวงปู่ปาน วัดบางนมโคและรูปพระคุณหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ซึ่งตั้งอยู่ ณ ศาลาเล็กหน้าอุโบสถในปัจจุบันนี้และในปี ๒๕๒๐ ทั้ง๕ พระองค์ได้เสด็จมายกช่อฟ้า และตัดลูกนิมิตอุโบสถวัดท่าซุงให้สถิตเป็นที่ทำสังฆกรรมสืบทอดพระพุทธศาสนามาจนถึงทุกวันนี้

 

หลังจากเวลานั้นมา  พระคุณพ่อก็ได้รับนิมนต์เข้าไปถวายงานในพระบรมมหาราชวังในฐานะพระอาจารย์ของในหลวง ร.๙ และประดุจที่ปรึกษาให้สบายใจแก่พระราชวงศ์ซึ่งขณะเวลานั้นประเทศของเราอยู่ในภาวะถูกประเทศมหาอำนาจคุกคามทางการเมือง มีผู้ก่อการร้ายอยู่ทั่วภาคเหนือและภาคตะวันออก  ภาคใต้ก็มีผู้ก่อการร้าย โจรแยกดินแดนสามจังหวัดภาคใต้ ทหารตำรวจและข้าราชการฝ่ายปกครองได้เสี่ยงชีวิตถวายพระเจ้าอยู่หัวป้องกันแผ่นดินที่พวกเรารักและห่วงแหน   ซึ่งแน่นอนที่ในหลวง ร.๙ พระบรมราชินี และเจ้าฟ้าทุกพระองค์ทรงห่วงใย เยี่ยมเยียน ดูแลรักษาประชาชนของท่านไม่ได้มีเวลาหยุดพักใจ เพื่อความสุขสบายส่วนพระองค์ได้  เพราะเหตุนี้ในหลวงและพระบรมราชินีจึงขอให้พระคุณพ่อเมตตาจัดทำวัตถุมงคลพิเศษให้เหล่าทหารตำรวจในแนวรบ โดยเฉพาะภาคใต้  ทหารไทยอิสลามจะต้องมีวัตถุมงคลที่ไม่มีลักษณะรูปพระพุทธเจ้าหรือพระสงฆ์เด่นชัด จนทหาร หาญกล้าคล้องคอแบบไม่ขัดต่อความเชื่อของศาสนาอิสลามได้ จึงได้เกิด" ธงพิชัยสงคราม"  ขึ้นมาให้พวกเราคนไทยทั่วแผ่นดินได้บูชาเป็นมิ่งขวัญอยู่ในทุกวันนี้

 

ธงมหาพิชัยสงครามต้นแบบ

ที่ พล.อ.ต. ม.ร.ว.เสริม สุขสวัสดิ์ เขียนลอกจากตำราโบราณที่พระคุณพ่อมีครอบครองไว้ เพื่อทำแบบพิมพ์ออกมาเป็นธงขนาดเล็กพอที่จะบูชาติดตัวได้ 

พระคุณพ่อได้สั่งให้ "เจ้ากรมเสริม" พล.อ.ต. ม.ร.ว.เสริม สุขสวัสดิ์ เจ้ากรมสื่อสารทหารอากาศ

(ซึ่งต่อมาได้เป็นเจ้ากรมสื่อสารทหาร ในยศ พล.อ.ท.) ให้คัดลอกขยายธงมหาพิชัยสงครามจากตำราโบราณสมัยพระร่วงอาณาจักรสุโขทัยซึ่งพระคุณพ่อได้ครอบครองไว้ แล้วย่อเป็นแบบพิมพ์คอมพิวเตอร์พิมพ์ธงนี้ลงในพื้นผ้าสีแดงตามตำรา มีทั้งขนาดพกติดตัวและขนาดใช้เย็บลงในธงชาติขึ้นเสาเป็นธงประจำกองร้อย ตลอดชายแดนประเทศไทยมีกำลังพลทหารตำรวจของเราทำหน้าที่อยู่

 

พระบรมราชินีได้สั่งให้พิมพ์ออกมาหลายแสนผืน จัดพิธีพุทธาภิเษกที่พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร นิมนต์ครูบาอาจารย์ที่ในหลวง ร.๙ เคารพหลายองค์นั่งปรกพุทธาภิเษกซึ่งมีสมเด็จพระญาณสังวร พระคุณพ่อ เป็นองค์ประธานเพื่อปลุกเสกเสร็จแล้ว ก็นำมานับจัดแบ่งเพื่อแจกจ่ายกันที่บ้านซอยสายลมอันเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของวัดท่าซุง ซึ่งมีพระคุณพ่อเป็นครูบาอาจารย์มิ่งขวัญของพวกเรา

 

เจ้ากรมเสริมและคุณเฉิดศรี สุขสวัสดิ์ ณ อยุธยา และลูกหลาน ศรัทธาถวายเป็นที่เผยแผ่ธรรมะจนทุกวันนี้เมื่อนับและ มัดบรรจุเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วก็นำเข้าถวายพระบรมมาราชินีเพื่อทรงประทานแจกจ่ายตามที่ท่านเห็นสมควร

 

เรื่องธงมหาพิชัยสงคราม ตามตำนานพระคุณพ่อเราเล่าว่าในสมัยพระร่วงโน้นพระอาจารย์จะเขียนด้วยมือใช้เวลาตลอดพรรษา ๓ เดือนจึงจะเขียนได้หนึ่งผืนใช้เป็นธงประจำกองทัพหรือประจำหน่วยรบซึ่งท่านบอกว่ากองนึงจะมีได้หนึ่งผืนเท่านั้นและคุ้มภัยได้ทั้งกองรบนั้น ต่อมาสมัยนี้มีเครื่องพิมพ์ทำแม่พิมพ์ผลิตออกมาได้จำนวนมากแล้วเอาเข้าพิธีปลุกเสกรวมภายหลังแต่ต้องย่อขนาดธงลงให้เข้าแทนพิมพ์ได้ พระคุณพ่อสั่งให้ทำออกมาเป็นผืนเล็กสองขนาด สำหรับพกติดตัว และสำหรับเย็บลงกับธงชาติประจำหน่วยรบ หรือประจำบ้าน ซึ่งจะคุ้มภัยได้ทั้งหน่วยนั้นๆ

 

เมื่อหลวงตาออกจากวัดท่าซุงมาอยู่วัดเขาวงแล้ว ได้ไปขอถ่ายรูปธงพิชัยสงครามต้นแบบที่เจ้ากรมเสริมเขียนที่บ้านซอยสายลมเจ้ากรมเสริมมีเมตตาบอกว่าท่านได้ใช้คอมพิวเตอร์แก้แบบธงสวยงามสมบูรณ์แบบไว้แล้ว จะมอบธงต้นแบบลายมือท่านซึ่งท่านบอกว่าสวยสู้ทำจากคอมพิวเตอร์ไม่ได้มอบให้หลวงตาเลยแต่ต้องสัญญาว่าจะไม่เอาไปครอบครองไว้เป็นสมบัติส่วนตัวให้สถิตติดไว้ประจำวัดและอธิษฐานให้คุ้มครองทั้งวัด หลวงตาได้มาเข้ากรอบบูชาประจำวัดเพราะรูปต้นแบบนี้ท่านได้เข้าพิธีปลุกเสกที่วัดบวรนิเวศน์ดังที่เขียนเล่ามาแล้ว ต่อมาก็ได้บวงสรวงขออนุญาตพระคุณพ่อทำแบบพิมพ์ทำออกมาขนาดเดียวคือขนาดใหญ่ติดประจำวัดประจำบ้านนำออกมาให้ลูกหลานพระคุณพ่อรุ่นหลังได้บูชากันเช่นทุกวันนี้