กระโถนข้างธรรมมาสน์ ฉบับปฐมฤกษ์ หน้า ๔
พระอาจารย์เล็ก กล่าวว่า "...ไอ้เจ้าเอ้ ลูกศิษย์ตัวแสบของอาตมาเอง ไปถึงก็..อาจารย์ครับผมอยากได้ตะกรุดเม ไอ้ตะกรุดเมนี่พวกเรารู้จักกันหรือเปล่าก็ไม่รู้ ภาษาที่หลวงพ่อท่านใช้เรียกตะกรุดมหาสะท้อน ใครทำอะไรมาไม่ว่าจะดีจะเลวมันย้อนกลับไปเป็นร้อยเท่าพันทวีเลย ท่านบอกว่าให้ใช้แผ่นเงินแผ่นนากหรือว่าแผ่นทองหนัก ๑ บาทมาทำ โดยเฉพาะพวกไสยศาสตร์ใครทำมา มันจะย้อนกลับหมด ไอ้เจ้านั่นได้ยินก็อยากได้มันไปแคะแผ่นเงินมาจากไหนก็ไม่รู้บานเลยกว่าจะเขียนเสร็จเจ็บนิ้วเป็นบ้า ปรากฏว่ามันได้ไปยังไม่ทันจะโดนอะไรหรอก ฟ้าผ่า ก็ยังไม่รู้สึกอะไรเลย ได้ยินแต่เสียงฟ้าผ่าแต่เพื่อนเห็นว่าสายฟ้ามันฟาดลงมาแล้วมันแยกออกเป็น ๒ ซีก ไอ้ตัวมันเองมันไม่เป็นไรหรอกไอ้เพื่อนอยู่ตั้งไกล โน่นไฟดูดซะกระโดดเหยงเลย แล้วเขาก็มาถามว่า อาจารย์ครับมันกันได้ด้วยหรือ บอกว่า เอ็งรอดตายมาหรือเปล่าล่ะ ถ้ามันกันไม่ได้ มันก็ไม่น่าจะรอดตายใช่มั๊ย แต่ว่าตะกรุดมหาสะท้อนนี่อันตรายมาก
คือห้ามให้เด็ก แล้วก็ห้ามเข้าในสถานที่ ๆ ผู้หญิงหรือว่าสัตว์กำลังจะคลอด มันจะคลอดไม่ออกเพราะมันย้อนอย่างเดียว เมื่อวานนี้ผู้พันจรรย์นพโทรมาบอกว่าเมียคลอดเรียบร้อยแล้ว เจ็บท้องอยู่ข้ามวันเลย สงสัยว่าทำไมคลอดยากผิดปกติ อนุญาตให้หมอผ่าเสร็จเรียบร้อยแล้วเพิ่งรู้ว่าเมียพกตะกรุดอยู่ สั่งห้ามไปนานแล้ว เขาสารภาพว่า หลวงพ่อ..หนูลืมไปจริง ๆ เจ้าค่ะ ไอ้ผ่าออกไม่เป็นไร แต่คลอดธรรมชาติมันไม่ได้..."
กระโถนข้างธรรมมาสน์ ฉบับที่ ๘๒ หน้า ๓
“...ตะกรุดมหาสะท้อน ต้องทำด้วยของมีค่า ต้องเป็นเงิน ทอง หรือนาก อย่างใดอย่างหนี่ง ยิ่งของที่มีราคาอานุภาพยิ่งสูง แปลกดีเหมือนกัน แล้วก็ต้องกำหนดด้วยว่าน้ำหนักอย่างน้อย ๑ บาท สมัยที่หัดทำใหม่ ๆ ทำด้วยเงิน ๖๐ ดอก โดนแย่งไปเสียหมด
ถาม : ใครแย่งครับ ?
ตอบ : ? หลวงพี่สมคิด วัดตะเคียนงาม รายนั้นเขาถือว่าเขาเป็นลูกศิษย์เรา ทั้ง ๆ ที่บวชพรรษาเดียวกัน เพราะว่าเราเป็นอาจารย์สอนกรรมฐานเขามาก่อน เขาก็เลยถือว่าเขาเป็นลูกศิษย์ พอเขาได้ไปเขาก็เอาไปใส่ในบาตรน้ำมนต์ แล้วก็เอาไปทำน้ำมนต์พรมให้ลูกศิษย์เขา
วันหนึ่งมีโยมคนหนึ่งผีเข้า หามกันมา ดิ้นโวยวาย ๆ มา ท่านก็จัดแจงคว้าน้ำมนต์ขึ้นมาสาดโครม มันร้องกรี๊ดเงียบไปเลย เท่านั้นแหละมึงมั่งกูมั่งแย่งกันปากบาตรหกคะมำคว่ำคะเมน ตะกรุดก็พลอยโดนตะครุบไปด้วย แล้วเขาก็มาถามว่าอาจารย์ยังมีอยู่ไหมครับ ถ้าหากว่ามีทุนก็มีนะ แต่ตอนนี้ยังไม่มีทุน เพราะว่าเงินบาทหนึ่งเราเอาไปให้เขารีด เขาก็คิดหลายสตางค์ จะทำด้วยนากหรือทองก็แพงเกินไป เงินถ้าเวลาเอาไปให้เขารีดนี่ต้องบอกให้เขาเผาก่อน ไม่อย่างนั้นจะเป็นที่เขาเรียกว่า “เงินเป็น” จะเด้งดึ๋ง ๆ ม้วนไม่ได้
ถาม : ต้องกว้างเท่าไร ยาวเท่าไรคะ ?
ตอบ : ความกว้างสัก ๑ นิ้วครึ่ง ความยาว ๓ นิ้วก็ได้ เพราะถ้าหากว่าแคบกว่านั้นมันจะหนา ม้วนยาก ความกว้าง ๑ นิ้วครึ่ง ความยาว ๓ นิ้ว กำลังดี เขียนรูปพระแค่ ๕ องค์ เขียนเล็ก ๆ ก็ได้ สำคัญตรงที่เขียนว่าทำใจอย่างไรเท่านั้นเอง ตะกรุดมหาสะท้อนนี่ผลของมันก็คือ ใครทำดีทำชั่วกับเรามันจะย้อนกลับเป็นร้อยเท่าทั้งนั้น จริง ๆ แล้วเหมาะเอาไว้ป้องกันไสยศาสตร์
ที่หลวงพ่อท่านทำและได้ผลครั้งแรก ท่านบอกว่ามีเด็กสาวคนหนึ่งอยู่ที่สมุทรสาคร ไปโดนเขาทำเสน่ห์ วัน ๆ ก็นั่งตาลอย ไม่ทำอะไรหรอก พอหลวงพ่อท่านไปเทศน์ทางด้านนั้น ไปช่วยเขาสร้างโบสถ์ พ่อแม่เขาก็มาปรึกษาว่าจะทำอย่างไร หลวงพ่อก็บอกว่ามีวิชาที่เขาเรียกว่า ตะกรุดมหาสะท้อนเพียงแต่ว่าต้องใช้ของแพงก็คือ เงิน ทอง หรือนาก น้ำหนัก ๑ บาท มาทำตะกรุด ถ้าหากว่าวัตถุยิ่งราคาแพง อานุภาพยิ่งสูง พ่อแม่เด็กก็เลยเอาทองมาเลย หลวงพ่อก็ทำให้ แล้วก็ให้เขาอาราธนาไปแขวนคอเด็ก ปรากฏว่าพอแขวนปุ๊บเด็กก็หาย แต่คนทำตาลอยแทนคือมันจะโดนคืนไปเลย กติกาก็คือห้ามเด็กใช้ แล้วก็ห้ามเข้าไปในสถานที่ที่คนหรือสัตว์กำลังคลอดอยู่ ที่ห้ามไม่ให้เด็กใช้คือจะดีจะชั่วมันคืนหมด ถ้าพ่อแม่เผลอไปตีเด็กเดี๋ยวมันโดนคืนเป็นร้อยเท่าไม่รู้ว่า เดิน ๆ ไปตกบันไดหรือโดนรถชนอะไรให้ยุ่งไปหมด จะซวยเอา ก็เลยบอกว่าให้เด็กไม่ได้
ถาม : แล้วอาวุธละครับ ?
ตอบ : อาวุธ ถ้าเรามั่นใจก็น่าจะได้นะ ขึ้นอยู่กับกำลังใจของเราเหมือนกัน เคยพกติดตัวอยู่ตะกรุดทองคำ ตอนนั้นศึกษาเป็นครั้งแรกก็ไปขอให้หลวงพ่อท่านทำให้ เอาแผ่นทองไปเลย ทองคำดีกว่า พอท่านทำเสร็จเราก็ต้องไปขอขมาท่าน เพราะหลวงพ่อท่านป่วยอยู่ พอตอนเช้าประมาณ ๗.๐๐ น. กว่า ท่านทำเสร็จ ท่านก็ให้หลวงพี่ประทีปเอามาให้ เราก็ไปนั่งกรรมฐาน ปรากฏว่าได้นิมิตเห็นหลวงพ่อท่านมาบอกว่า ธงแดงก็มีแล้ว ยันต์เกราะเพชรก็มีแล้ว ลูกแก้วมันก็มี มันยังจะเอาตะกรุดอีก ก็เลยต้องเอาพานดอกไม้ธูปเทียนไปขอขมา เพราะว่าเราขอให้ท่านทำ ก็เท่ากับว่าใช้ท่าน พอถือพานดอกไม้ธูปเทียนเข้าไปถึง ท่านก็ เออ! รู้ตัวก็แล้วกันไป เป็นไงลูกศิษย์มันอยากโง่ต้องตามไปด่าในนิมิตถึงจะฉลาด”
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตะกรุดมหาสะท้อนทองคำ รุ่น ๕ เพิ่งจะเข้าพิธีพุทธาภิเษกล่าสุดที่วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่มา ในงานก็มีตุ๊พ่อสิงห์กับหลวงตาวัชรชัยร่วมพิธีด้วย ต้องบอกว่านาน ๆ ทีจะมีตะกรุดมหาสะท้อนเข้าพิธีใหญ่สักครั้งหนึ่ง เพราะปกติเขียนเสร็จก็เสกในตัวใช้ได้เลย
ตะกรุดมหาสะท้อนบังคับเลยว่าต้องเป็นวัตถุมีค่า ต่ำสุดก็คือเงินแท้ หรือนาก หรือทองคำเท่านั้น น้ำหนักต้องไม่ต่ำกว่า ๑ บาท นี่เป็นวัตถุมงคลเนื้อทองคำรุ่นเดียว ที่อาตมาคิดราคาเท่ากับราคาท้องตลาด เพราะราคาวัตถุมงคลในตลาดที่เป็นเนื้อทองคำ คำนวณราคาทองคำที่ใช้ทำออกมาเป็นเงินแล้วคูณด้วย ๓ ก็คือราคาที่เขาออกให้บูชากัน แต่อาตมาคิด ๓ บาทพอดี ถ้าหากจะเอา ๓ เท่าพอดีต้องเกิน ๓ บาทไปหน่อย ๆ เพราะว่าเราจะให้ตะกรุดหนัก ๑ บาทตรง ๆ ไม่ได้ ต้องให้เกินไว้นิดหนึ่ง..เผื่อขาด
ส่วนใหญ่แล้วพอนานไปก็จะมีการเพี้ยน ครูบาอาจารย์ท่านระบุไว้อย่างไรก็ไม่ทำตามนั้น ซึ่งถ้าต้องการให้เป็นมหาสะท้อน แปลว่าน้ำหนักต่ำสุดต้องหนักบาทหนึ่งขึ้นไป และเป็นโลหะมีค่า ก็คือเงิน นาก หรือทองคำ เคยกราบเรียนถามหลวงพ่อวัดท่าซุงว่า โลหะมีค่าแต่ละชนิด ทำไมถึงต้องใช้ต่างกัน ? ท่านบอกว่า วัตถุมงคลยิ่งสร้างด้วยโลหะมีราคาสูงเท่าไร พรหม เทวดาที่รักษาก็ยิ่งมีอานุภาพหรือศักดานุภาพสูงเท่านั้น แล้วก็ไม่ต้องไปหาอีก เพราะว่าปกติอาตมาไม่เคยทำตะกรุดเนื้อทองคำเป็นสาธารณะ เพิ่งจะมีครั้งนี้ครั้งแรกและครั้งเดียว ถ้าพระท่านไม่อนุญาตก็ไม่กล้าทำ ตอนนี้ถ้าใครจะซื้อทองคำ อย่าเพิ่งไปสนใจราคาที่ขึ้น ๆ ลง ๆ ให้ซื้อเอาไว้ก่อน จะขาดทุนกำไรเล็กน้อยอย่างไรช่าง เพราะอาตมายืนยันว่าอีกไม่นานราคาทองคำจะแพงหูดับ..!"
____________
ถาม : หนูมีตะกรุดมหาสะท้อนแต่ไม่กล้าพก เพราะมีคนบอกว่าถ้าเราคิดไม่ดีแล้ว จะมีผล ?
ตอบ :ตะกรุดมหาสะท้อนไม่มีอะไรที่ให้ผลร้ายแก่ตัวเรา สิ่งที่ดีหรือร้ายนั้นมีผลกับคนอื่น คือถ้าใครทำดีกับเราความดีจะย้อนตอบไปหลายเท่า ถ้าใครทำไม่ดีกับเรา ส่วนไม่ดีก็ย้อนตอบไปหลายเท่า ถ้าพกเพราะกลัวว่าจะเป็นโทษแก่ตัวเองนี่ไม่ต้องกลัว มีแต่เป็นโทษหรือเป็นคุณกับคนอื่น ก็ต้องแล้วแต่ว่าเขาคิดดีหรือไม่ดีกับเรา
เรื่องของตะกรุดมหาสะท้อน อาตมายืนยันว่าตำราหลวงพ่อวัดท่าซุงระบุว่าต้องเป็นทองคำ นาก หรือเงิน หนักอย่างน้อย ๑ บาท ถ้าหากว่าหนักไม่ถึงก็ไม่มีผล แต่คราวนี้มีอีกวิธีหนึ่งไม่ต้องทองคำ นากหรือเงิน ก็คือภาวนาคาถาแทน ถ้ากำลังใจทรงตัวก็เป็นมหาสะท้อนเหมือนกัน
อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๕๘
ถาม : เราพกตะกรุดมหาสะท้อน ถ้าเราเผลอคิดไม่ดี โกรธคนอื่น ?
ตอบ : ตะกรุดให้ผลตามที่คนอื่นเขาทำดีทำชั่วกับเรา ตัวเราไม่เกี่ยว เพราะฉะนั้น..จะโกรธจะเกลียดใครก็ช่างเถอะ ถ้าคนนั้นเขาไม่ได้ทำไม่ดีกับเรา โกรธเขาให้ตายก็ไม่เกิดผลกับเขาหรอก
อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๘
ถาม : ถ้าผู้เป็นเจ้าของตะกรุดกระทำผิดอย่างชัดเจน เช่น ทำร้ายคนอื่น ลักขโมย นินทาว่าร้าย ฯลฯ บุคคลอื่นทราบเข้าจึงตำหนิการกระทำเหล่านั้น หรืออาจดำเนินคดีตามกฎหมาย บุคคลอื่นที่ตำหนิการกระทำของเจ้าของตะกรุด หรือนำตัวเจ้าของตะกรุดไปดำเนินคดีตามกฎหมาย จะโดนสะท้อนหรือไม่ อย่างไรครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าทำชั่ว ตะกรุดก็ไม่คุ้มครองป้องกันอยู่แล้ว
อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๘
พระอาจารย์กล่าวถึงตะกรุดมหาสะท้อนรุ่น ๕ ว่า "ตะกรุดรุ่นนี้ลงวันที่ปลุกเสก ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ นะจ๊ะ โดนใช้แรงงานตั้งแต่ตี ๑ เลย เสกตะกรุดจนกว่าท่านจะบอกว่าใช้ได้ ลืมตาขึ้นมาเกือบตี ๓ ไม่ต้องนอนแล้ว เข้าสมาธิทีไรมักหูตาสว่าง ไม่ต้องหลับไม่ต้องนอนกัน"
อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๘
พระอาจารย์พูดถึงตะกรุดมหาสะท้อนรุ่น ๕ ว่า "ใครเอาไป จำหน่ายต่อ ถ้าไม่มีสติ๊กเกอร์นี้ถือว่าปลอม ปกติตะกรุดมหาสะท้อนเขาเขียนไปเสกไป เขียนเสร็จม้วนเสร็จก็ใช้ได้เลย พอต้องมาแยกเสกต่างหากนี่ แหม...ท่านให้เสกเสียหลายชั่วโมง"
อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๘
ถาม : ไปถวายตะกรุดมหาสะท้อนให้หลวงพ่อจำเนียร กราบเรียนว่าตะกรุดมหาสะท้อนของพระอาจารย์เล็ก ท่านบอกว่าอันนี้ดีมากเลยนะ แล้วท่านก็เก็บเข้ากระเป๋าส่วนตัวไปค่ะ ?
ตอบ : ได้โปรดอย่า เอาไปให้ท่านบ่อย มีเท่าไรท่านเก็บเรียบ เวลาคนอื่นเล่นงานหลวงพ่อจำเนียร ท่านแผ่เมตตาให้อย่างเดียว คือวิชาการสายที่ท่านเรียนมาไม่มีประเภทตอบโต้เขา ถึงมีก็อยู่ในลักษณะการใช้ไสยศาสตร์สู้ไสยศาสตร์ ไม่ใช่แบบพุทธคุณที่ไสยศาสตร์เข้าไม่ได้แล้วย้อนกลับไป
อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๘
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตะกรุดมหาสะท้อนเที่ยวนี้พระท่านให้อย่างอื่นด้วย ลองเอาไปใช้ ๆ ดูก็แล้วกัน เอาไปใช้เดี๋ยวก็รู้เองแหละ"
อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๘
ถาม : กระผมได้บูชา ตะกรุดมหาสะท้อน รุ่น ๕ และในขณะเดียวกันตัวผมเองนั้นก็มีพระปิดตารุ่น ๑ เนื้อเงินอยู่แล้ว ด้วยข้อจำกัดเรื่องสร้อยคอ ผมจำเป็นต้องเลือกห้อยระหว่างวัตถุมงคลสองสิ่งนี้
อยากถามพระอาจารย์ ว่า
๑. การห้อยพระปิดตาเนื้อเงิน รุ่น ๑ จะมีอานุภาพความเป็นมหาสะท้อนเข้มข้นเท่าตะกรุดมหาสะท้อนรุ่น ๕ ไหมครับ ?
๒. การห้อยพระปิดตาเนื้อเงิน รุ่น ๑ จะต้องท่องคาถามหาสะท้อน เพื่ออาราธนาก่อนสวมสร้อยทุกครั้งไหมครับ หรือใช้คาถาปลุกพระ อิทธิ ฤทธิ ฯ ก็เพียงพอแล้วครับ ?
ตอบ : เอาเป็นว่า ถ้ายุ่งยากนักก็ถวายวัดไปอย่างหนึ่ง
ถาม : ถ้าคลี่ตะกรุดมหาสะท้อนออก เพื่อดูอักขระยันต์ด้านใน ไม่ทราบว่าตะกรุดจะเสื่อมอานุภาพหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ตะกรุดไม่เสื่อมหรอก แต่ว่าคนคลี่ออกมาดูคงจะขาดความมั่นใจไปเอง ก็ขี้สงสัยถึงขนาดทำอย่างนั้น ก็คงจะสงสัยต่อไปว่าตะกรุดจะศักดิ์สิทธิ์อีกไหม ?
ถาม : แขวนตะกรุดมหาสะท้อน ๑๐ ดอก กับแขวนเพียง ๑ ดอก จะมีผลหรืออานุภาพแตกต่างกันหรือไม่ ?อย่างไรครับ ?
ตอบ : แขวน ๑๐ ดอกมีผลทำให้สตางค์หมดมากกว่า..!
ถาม : เรื่องนี้เกี่ยวกับการวางกำลังใจไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าใครแขวน ๑๐ ดอกได้แสดงว่ากำลังใจต้องบ้าพอ..!
ถาม : ถ้าเอาตะกรุดไปแขวนที่กางเกง ?
ตอบ : เอาเป็นว่าอย่าให้ต่ำกว่าเอวก็แล้วกัน ใช้คลิปเหน็บกับกระเป๋าเสื้อก็ได้ ผู้หญิงหลาย ๆ คนเหน็บกับยกทรงไปเลย
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาแกล้งขู่ไว้ว่า ตะกรุดมหาสะท้อนรุ่น ๕ นี้ ถ้าไม่มีสติ๊กเกอร์ก็เป็นของปลอม พวกเอาไปเลี่ยมยังอุตส่าห์เอาสติ๊กเกอร์ใส่เข้าไปด้วย..!"
เพิ่มร้านณัชชาเป็นเพื่อน
ด้วย QR Code ด้านล่างนี้ บัญชีร้านณัชชา
หน้าที่เข้าชม | 1,996,378 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,263,493 ครั้ง |
เปิดร้าน | 12 ก.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |