เหลือ 1 ดอก ตะกรุดโทน พิธีระงับโรคาพินาศ (และพิธีพลิกชีวิต) วัดบึงลาดสวาย (เข้าพิธีหลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน อธิษฐานจิต) ปี 63

ตะกรุดโทนจากพิธีมหาระงับโรคาพินาศ พระครูสมุหอานนท์ วัดบึงลาดสวาย นครปฐม

 

ตะกรุดความยาว 3 นิ้ว

 

ความเป็นมาของการจัดสร้างตะกรุดมหาระงับ

 

เครื่องพิชัยสงคราม ทั้ง ๕ ตามที่ผู้ใหญ่ในสายกรรมฐานมีพระบัญชาสั่งให้ " คุณข้าผู้น้อยฯ " จัดสร้างขึ้น ประกอบด้วย

 

๑. วิชามหาระงับคุณพระพิชัยสงคราม ( จัดสร้างเป็นตะกรุดมหาระงับ และเทียนมหาระงับ )

 

๒. กริ่งมหาฤทธิ์คุณพระพิชัยสงคราม

 

๓. ดาบอาญาสิทธิ์น้อยคุณพระพิชัยสงคราม

 

๔. เบี้ยแก้คุณพระพิชัยสงคราม

 

๕. เหรียญคุณพระพิชัยสงครามอารักษ์เมือง

 

( รายการที่ ๒ - ๕ ไว้จัดสร้างในวาระโอกาสต่อๆ ไป )

 

เครื่องพิชัยสงครามทั้ง ๕ อย่างนี้ ท่านสั่งไว้ว่า เมื่อได้รับแล้ว ( ทุกอย่าง ยกเว้นเทียนมหาระงับ ) ก่อนจะอธิษฐานอาราธนาใช้ครั้งแรก ให้ใช้ฤกษ์ทักษาวันคู่มิตรตามวันเกิดของผู้ที่ใช้เป็นหลัก คือ

 

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ ให้อธิษฐานอาราธนาใช้ครั้งแรกในวันพฤหัสบดี

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์ ให้อธิษฐานอาราธนาใช้ครั้งแรกในวันพุธกลางวัน

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร ให้อธิษฐานอาราธนาใช้ครั้งแรกในวันศุกร์

 

ผู้ที่เกิดวันพุธกลางวัน ให้อธิษฐานอาราธนาใช้ครั้งแรกในวันจันทร์

 

ผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืน ให้อธิษฐานอาราธนาใช้ครั้งแรกในวันเสาร์

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี ให้อธิษฐานอาราธนาใช้ครั้งแรกในวันอาทิตย์

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์ ให้อธิษฐานอาราธนาใช้ครั้งแรกในวันอังคาร

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์ ให้อธิษฐานอาราธนาใช้ครั้งแรกในวันพุธกลางคืน

 

สำหรับผู้ที่ไม่รู้วันเกิดตนเอง ให้อธิษฐานอาราธนาใช้ครั้งแรกในวันพุธกลางคืนเช่นกัน ( อิงตามวันเกิดผู้สร้าง )

 

สำหรับการจัดสร้างเครื่องพิชัยสงครามในส่วนของ " วิชามหาระงับคุณพระพิชัยสงคราม " โครงวิชาในการจัดสร้าง คุณข้าผู้น้อยฯ ได้ยึดตามนิมิตเป็นหลัก ผสมผสานกับวิชาของหลวงปู่หิ่ม, หลวงพ่อสำเนียง, หลวงพ่อสมภพ และพ่อครูไพศาล ไวจรรยา ตามที่ได้ครอบเรียนศึกษามา โดยได้นำมาจัดสร้างแยกเป็น ๒ อย่าง คือ ตะกรุดมหาระงับ และเทียนมหาระงับ

 

กรรมวิธีการจัดสร้าง เริ่มด้วยการตั้งเครื่องบอกกล่าวพระแม่ธรณี เพื่อเก็บกู้ใบรู้นอน ๗ สิ่ง ในฤกษ์วันแรม ๑ ค่ำ ตามพระบัญชา คือวันศุกร์ที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๓ ตั้งแต่เวลา ๑๒.๐๑ น. เป็นต้นไป ด้วยคำครูท่านที่บอกไว้ว่า " มหาระงับนี้เป็นเรื่องของพระอังคาร ( ภุมโม ) " จึงได้ดำเนินการตำผงใบรู้นอน ๗ สิ่ง ที่เก็บกู้ได้ พร้อมเรียกสูตรปั๊มยันต์มหาระงับด้านหน้า ประทับหลังด้วยยันต์นครฐาน ( รายละเอียดในยันต์ไม่เหมือนกับวิชามหาระงับที่มีเผยแพร่อยู่ทั่วไป เพราะยึดทำตามนิมิตเป็นหลัก เช่น ตั้งองค์พระพิศดาร และเฝ้ารักษา เป็นต้น ) ลงในกระดาษสาเป็นปฐมฤกษ์ ( กระดาษสานำเข้าพิธีเสกถมเรื่อยมากว่า ๒ ปี ซึ่งจะนำมาใช้จัดสร้างตะกรุดมหาระงับ และเทียนมหาระงับชุดนี้ ) กระทำในวันอังคารที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๓ และได้นำไปอธิษฐานบอกกล่าวขอการสงเคราะห์ ณ วัดเวฬุวนาราม อ.บางเลน จ.นครปฐม อันเป็นสถานที่สถิตแห่งจิตของครูบาอาจารย์อีกหนึ่งท่านในต้นวิชาตามตำรับตำราที่คุณข้าผู้น้อยฯ ได้ครอบเรียนศึกษามา เมื่อวันอังคารที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๓

 

หลังจากที่คุณข้าผู้น้อยฯ ได้ลงเหล็กจารยันต์มหาระงับบนแผ่นทองแดงชุดบูชาครูทั้ง ๙ แผ่นแล้ว ( ชุดนี้มอบให้เจ้าภาพที่ร่วมบุญชุดบายศรีเท่านั้น ) คุณข้าผู้น้อยฯ ก็ได้นำแผ่นยันต์มหาระงับจารมือทั้ง ๙ แผ่น , ตรายางยันต์มหาระงับ - ยันต์นครฐาน , ผงมหาระงับ หลวงปู่กี๋ วัดหูช้าง จ.นนทบุรี , ผงใบรู้นอนทั้ง ๗ สิ่ง ผสมมวลสารต่างๆ และผงจูซา ไปขอความเมตตาพระคุณหลวงพ่อพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. ( พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ ) เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี ได้อธิษฐานจิตเป็นปฐมฤกษ์ " เปิดฤกษ์เบิกยันต์ " เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ณ บ้านเติมบุญ

 

ตะกรุดมหาระงับที่จัดสร้างขึ้นเพื่อเปิดให้ร่วมบุญบูชาทั่วไป เป็นเนื้อกระดาษสา ด้านหน้าปั๊มยันต์มหาระงับ ด้านหลังประทับด้วยยันต์นครฐาน อธิษฐานม้วนกรึงสำเร็จขึ้นเป็นตะกรุดพันเชือกขาวเข้าพิธีเสกถมเรื่อยมา โรยผงใบรู้นอนทั้ง ๗ สิ่ง ผสมผงมวลสารต่างๆ ที่ด้านนอก ส่วนด้านในตะกรุดได้บรรจุผงมหาระงับของหลวงปู่กี๋ วัดหูช้าง จ.นนทบุรี ทุกดอก ซึ่งตะกรุดแต่ละดอกจะมีขนาดไม่เท่ากันเนื่องด้วยการตัดกระดาษสาที่มีหลายขนาด ทำให้ตะกรุดที่สำเร็จออกมามีความสั้นยาวแตกต่างกันไป ( ประมาณ ๓ - ๔ นิ้วฟุต )

 

พิธีอธิษฐานจิตวัตถุมงคลชุดมหาระงับ ฯลฯ ( ตะกรุดมหาระงับ , เทียนมหาระงับ ฯลฯ )

 

ณ กุฎีเทพรักษา วัดบึงลาดสวาย อ.บางเลน จ.นครปฐม

 

วันเสาร์ที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๓ ( เสาร์ ๕ - วันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ )

 

บวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย และท้าวมหาราชทั้ง ๔ เวลาเดียวกับพิธีบวงสรวงไหว้ครู - พุทธาภิเษกวัตถุมงคลของทางวัดสี่แยกเจริญพร จ.นครปฐม " พิธีพลิกชีวิต " ( กราบเรียนแจ้งถึงวาระพิธีกรรม ขอความเมตตาอนุเคราะห์สงเคราะห์ผลด้านมหาระงับ และได้รับอนุญาตจาก " พระคุณหลวงพ่อเล็ก " แล้ว )

 

วันอาทิตย์ที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๓ ( ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๕ )

 

สวดอิติปิโสธงชัย ๑๐๘ จบ และฝึกกรรมฐานมโนยิทธิสายคุณครูไพศาล ไวจรรยา ประจำเดือนมีนาคม ( ขอบารมีพระ บารมีผู้ใหญ่ในสายกรรมฐานฯ สงเคราะห์วัตถุมงคลชุดนี้เป็นกรณีพิเศษ )

 

วันจันทร์ที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๓ ( ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๕ )

 

อธิษฐานจิตโดย พระอาจารย์ปลัดอำพล ( พระอาจารย์อ๊อด ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหูช้าง จ.นนทบุรี และพระใบฎีกาอุดมศักดิ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดวังน้ำเขียว จ.นครปฐม

 

วันอังคารที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๓ ( ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๕ )

 

อธิษฐานจิตโดย พระอาจารย์เอราวัณ อติวีโร พุทธอุทยานธรรมโกศล จ.ปทุมธานี

 

วันพุธที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๓ ( ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๕ )

 

พิธีภาคกลางวัน บวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย ท้าวมหาราขทั้ง ๔ และอธิฐานจิตพุทธาภิเษกโดย พระคุณหลวงพ่อพระครูวิลาศกาญจนธรรม,ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี ( พิธีมหาระงับโรคาพินาศ )

 

พิธีภาคกลางคืน ( ราหู ) อธิษฐานจิตขอบารมีพระ บารมีครูผู้ใหญ่ในสายกรรมฐานมาสงเคราะห์ในพิธีกรรมโดย พระครูสมุห์อานนท์ อานนฺโท วัดบึงลาดสวาย จ.นครปฐม

 

วันพฤหัสบดีที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๓ ( ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๕ )

 

อธิษฐานจิตโดย หลวงพ่อพระครูปลัดพิจารย์ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และพ่อครูศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ บวงสรวงบอกกล่าวขอบารมีครูเทพเจ้าของศิลปะวิชา องค์มหากาลไภรวะ ( พระพิราพ ) มหาเทพผู้บันดาลชีวิตแลความตาย ระดับดับโทษภัย ขจัดปัดเป่าอุปสรรคโรคร้ายให้หายสูญ ฯลฯ สงเคราะห์ประสิทธิประสาทแผ่บารมี พร้อมทั้งอธิษฐานจิตขอเมตตาบารมีครูเทพเจ้าของศิลปะวิชาเขียนลบผงอิทธิเจสายศิลปินลงน้ำเทพมนต์ใช้ประพรมวัตถุมงคลชุดนี้เพื่อเสริมสร้างกำลังใจในการเปิดโชคลาภ เสน่เมตตามหานิยม สำเร็จสมหวังตามปรารถนา ฯ

 

วันศุกร์ที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๓ ( ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๕ )

 

พระมหาอดุลย์ วุฒิโก ผู้ข่วยเจ้าอาวาสวัดมะขาม จ.ปทุมธานี เจริญสาธยายพระคาถาอุปปาสันติ ( มหาสันติงหลวง ) และอธิษฐานจิตปิดโดยพระครูสมุห์อานนท์ อานนฺโท วัดบึงลาดสวาย จ.นครปฐม ด้วยการหนุนเสริมอานุภาพด้านลาภผลในท้ายที่สุด เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี

 

*เริ่มพิธีในวันเสาร์ อันเป็นตัวแทนของบาปเคราะห์ ดุจดั่งชีวิตที่ต้องต่อสู้ฟันฝ่าถึงทางสว่าง จึงได้จบที่ " มหาสันติสุข " ในวันศุกร์ อันเป็นวันอธิษฐานปิด

 

" ตะกรุดโทนมหาระงับ " ( ตามคำครูผู้ใหญ่ในสายกรรมฐาน )

 

๑. อาราธนาวางไว้ในบ้านเป็นคุ้มครองป้องกันภัยแก่บ้านเรือนนั้นๆ

 

๒. อาราธนาพกพาประดุจดั่งอาราธนาบารมีพระพุทธเจ้ามาคุ้มครองตัว

 

๓. อธิษฐานได้ตามปรารถนา แต่ไม่เกินวาระแห่งกรรมตามที่แต่ละฅนได้กระทำกันมา

 

๔. หากเป็นความให้อาราธนานำตะกรุดแช่ลงขันน้ำมนต์ ตั้งจิตอธิษฐานขออานุภาพจงเป็นเกราะป้องกันภัยทั้งปวง จำเริญพุทธคุณห้องเดียวจนจบตามกำลังวัน แล้วเอาน้ำมนต์ดื่ม ๓ ครั้ง ลูบหน้าสระหัว แล้วอาบ ความจะหาย เคราะห์ร้ายจะหมด ต้องธรณีสารก็หาย โรคภัยไข้เจ็บก็หาย นำน้ำมนต์ที่แช่ตะกรุดใส่ต้มยาเพิ่มสรรพคุณยิ่งนัก หรือจะนำมารดว่านทุกชนิดเพิ่มพลังสรรพคุณดียิ่ง จะค้าขาย ขอลาภ นำตะกรุดแช่น้ำแล้วดื่มมิพบความยากจน ปรารถนาสิ่งใดจะสมควรปรารถนาทุกประการฯ

 

คาถา และวิธีอาราธนาใช้ตะกรุด

 

ก่อนจะผูก หรือคล้องตะกรุด หรือพกพาไว้ส่วนใดของร่างกาย ให้อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยก่อน แล้วตั้ง นะโม ๓ จบ เพื่อน้อมระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า แล้วจึงภาวนาว่าพระคาถา ดังนี้ :- นะโม พุท ธา ยะ, นะ มะ ภะ ทะ, จะ ภะ กะ สะ, มะ อะ อุ, ( ว่า ๓ ครั้ง ) แล้วภาวนาพระคาถาบารมี ๓๐ ทัศ คือ อิติปาระมิตาติงสา, อิติสัพพัญญูมาคะตา, อิติโพธิมะนุปปัตโต, อิติปิโสจะเตนะโมฯ ว่า ๓ ครั้ง แล้วอธิษฐานขอบารมีพระพุทธเจ้ามาคุ้มครอง

 

วิชามหาระงับ เป็นวิชาใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในวิชาประกอบในเครื่องพิชัยสงคราม ครูบาอาจารย์ท่านนำมาทำเป็นตะกรุดมหาระงับ และเทียนมหาระงับ สำหรับท่านที่ได้ไว้ ผมขอย้ำไว้ว่า ของเหล่านี้ไม่ใช้ของเล่น อย่าดูถูก และการจะนำไปใช้ก็ควรใช้อย่างมีสติ ตามคำครูท่านว่า.. " มันผู้ใดนำไปใช้ในทางที่ผิดศีลธรรม หรือนำไปช่วยคนที่มีจิตคิดคดทรยศต่อชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ ฯลฯ เราในฐานะผู้รับพิทักษ์รักษาวิชา ขอขัดขวางยับยั้งผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการนำไปใช้นั้น แลสาปแช่งให้มันผู้นั้นเกิดความวิบัติแก่ชีวิตตัว และครอบครัวสืบไปฯ "