หมวดหมู่ | หลวงพ่อหล่ำ วัดสามัคคีธรรม |
ราคา | 450.00 บาท |
ลงสินค้า | 25 ต.ค. 2558 |
อัพเดทล่าสุด | 28 ก.ค. 2562 |
เครื่องรางตุ๊กแกเป็นวิชาสืบสานมายาวนาน เน้นการค้าขาย โชคลาภ บางท่านมีประสบการณ์เคยได้ยินเสียงเครื่องรางตุ๊กแกร้อง เพื่อบอกว่ากำลังมีโชคลาภด้วย การบูชาใช้คาถาเดียวกับหลวงพ่อครื้นค่ะ ตำรับเดียวกัน คาถาตุ๊กแก จุดธูปบูชา 9 ดอก ตั้งนโม 3 จบ แล้วภาวนาเจริญคาถา " เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว " จะภาวนาเจริญคาถา 3 จบ 5 จบ 7 จบ 9 จบ
รายการที่ ๑ ตุ๊กแกเนื้อดินเผาสีเขียว ตัวที่ ๑ หมายเลข ๒๘๖ เลี่ยมเดิมจากวัด ไม่มีกล่อง
รายการที่ ๒ ตุ๊กแกเนื้อดินเผาสีเขียว ตัวที่ ๒ หมายเลข ๘๑๑ เลี่ยมเดิมจากวัด ไม่มีกล่อง
รายการที่ ๓ ตุ๊กแกเนื้อดินเผาสีแดง หมายเลข ๑๐๒๙ เลี่ยมเดิมจากวัด ไม่มีกล่อง
รายการที่ ๔ ตุ๊กแกเนื้อดินเผาสีฟ้า หมายเลข ๙๔๓ เลี่ยมเดิมจากวัด ไม่มีกล่อง (บูชาแล้ว)
รายการที่ ๕ ตุ๊กแกเนื้อดินเผาสีขาว หมายเลข ๙๙๐ เลี่ยมเดิมจากวัด ไม่มีกล่อง (บูชาแล้ว)
รายการที่ ๖ ตุ๊กแกเนื้อดินเผาสีทอง หมายเลข ๑๓๕ เลี่ยมเดิมจากวัด ไม่มีกล่อง
พระอาจารย์เล็กกล่าวว่า "เครื่องรางจระเข้บ้านเราที่ทำแล้วคนให้ความศรัทธาเชื่อถือมากที่สุด ก็คือ "หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย" คาดว่าพวกเราคงไม่เคยได้ยินชื่อกันหรอก แต่สมัยนี้ที่ทำล่าสุดแล้วได้รับความเชื่อถือ เป็นของหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล หลวงปู่สุภามรณภาพแล้วเหมือนกัน แต่จระเข้ที่จะลงให้บูชาในกระทู้ (เว็บวัดท่าขนุน) นี้ ยังทันท่านอยู่ จระเข้ของท่านทำไว้เฝ้าบ้าน เอาไว้รักษาทรัพย์ นึกถึงนิทานธรรมบทในพระไตรปิฎก ที่เศรษฐีขี้เหนียวเอาทรัพย์สมบัติ ไปฝังเอาไว้ที่ท่าน้ำ จิตมัวแต่ห่วงสมบัติอยู่ พอตายก็เลยต้องไปเป็นจระเข้เฝ้าทรัพย์ ก็มาจากนิทานธรรมบทนี่แหละ แต่ว่าตอนหลังเศรษฐีขี้เหนียวเฝ้าทรัพย์ คงทนลำบากไม่ไหวจึงไปเข้าฝันบอกภรรยา ให้มาขุดไปทำบุญ จะได้ไปเกิดกับเขาบ้าง ไม่อย่างนั้น ก็ต้องเป็นจระเข้อยู่ตรงนั้น ไปไหนไกลไม่ได้ หาอาหารกินก็ไม่ค่อยจะอิ่ม เพราะว่าพื้นที่หากินแคบ จะไปไกลก็เป็นห่วงทรัพย์ ท้ายสุดภรรยาก็เลยไปขุดเอาสมบัติไปจัดทอดกฐิน ไม่รู้ไปทอดไกลแค่ไหน สามีที่เป็นจระเข้ว่ายน้ำไม่ไหว อาจจะเป็นเพราะแก่มากแล้ว หรือไม่ก็ประเภทหากินไม่พอ แรงจึงไม่ค่อยมี ก็เลยบอกภรรยาให้วาดรูปของตนไว้ในกองกฐิน กลายเป็นธงจระเข้ในกองกฐินมาจนทุกวันนี้โบราณส่วนใหญ่ทำเครื่องรางของขลังขึ้นมา ก็มักจะอิงเรื่องในพระพุทธศาสนา
"เครื่องรางจระเข้ดังที่สุด ต้องหลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย"
ถ้าจิ้งจกดังที่สุดต้องหลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง ถ้าตุ๊กแกดังที่สุดต้องหลวงปู่ครื้น วัดสังโฆสิตาราม ตุ๊กแกเป็นดินปั้นแท้ ๆ แต่ถ้าวันไหนร้องวันนั้นได้เงิน รับประกันได้เลย สายหลวงปู่ครื้นนี้มาตอนหลัง ได้ยินว่าหลวงปู่หล่ำ วัดสามัคคีธรรม น่าจะสืบทอดวิชามา แต่ไม่ได้ข่าวว่าหลวงปู่หล่ำมรณภาพหรือยัง ? เพราะอายุกาลพรรษาก็ ๘๐-๙๐ ไปแล้ว"
(เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี / ต้นเดือน มี.ค. ๕๘)
เครื่องรางตุ๊กแกโชคลาภช่วยการค้าขาย บางท่านมีประสบการณ์เคยได้ยินเสียงเครื่องรางตุ๊กแกร้อง เพื่อบอกว่ากำลังมีโชคลาภด้วยค่ะ
พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เจ้าตำรับ เครื่องรางของขลัง "ตุ๊กแก" อันลือลั่น "หลวงพ่อหล่ำ สิริธัมโม" เจ้าอาวาสวัดสามัคคี เพราะร่ำเรียนศึกษามาจากอดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายรูป หลวงพ่อหล่ำ สิริธัมโม เชื้อสายจีนเป็นผู้ชอบไสยศาสตร์ เรียนภาษาขอมจากอาจารย์ฉัตร ผาสุโก มาตั้งแต่ เด็กๆจน สามารถเสกหนวดตำลึง ให้เข้ามาพันนิ้วมือได้
เมื่อ เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ได้เข้าเรียนศาสตร์นี้จากหลายอาจารย์ ทั้งที่เป็นภิกษุและฆราวาส อย่างเช่น จาก หลวงปู่พาน นนทตาเพื่อนรุ่นน้องของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าและยัง เป็นศิษย์ก้นกุฏิของ หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ พระอภิญญาแห่งสุพรรณบุรีโดยที่ครูต้องมาตามลูกศิษย์ถึงกุฏิให้ไปรับถ่ายทอดวิชาอาคม
ในช่วงที่เรียนวิชาจากหลวงพ่อครื้นที่วัดสังโฆ ครั้งหนึ่งหลวงพ่อครื้นให้หลวงพ่อหล่ำเสกตุ๊กแก โดยท่านนั่งสมาธิคุมอยู่ทางด้านหลัง ในพิธีกรรมครั้งนั้น ตุ๊กแกทั้งฝูงเดินได้บ้าง กระโดดบ้าง ร้องบ้าง ดุจมีชีวิตจน หลวงพ่อครื้นกลั้นไม่อยู่ หลุดปากชมว่า "หล่ำทำได้เหมือนพ่อเลยนะ" จากนั้นหลวงพ่อหล่ำก็ได้รับความไว้วางใจ...เสกตุ๊กแกแทนหลวงพ่อครื้นตลอดมา จนกระทั่งหลวงพ่อครื้นมรณภาพ และช่วงที่ หลวงพ่อครื้นใกล้มรณภาพ ได้อยู่ในอ้อมกอดของหลวงพ่อหล่ำ ท่ามกลางศิษยานุศิษย์ ทั้งหลาย ท่านได้บอกว่า "หล่ำเอ๋ยพ่อจะไปแล้วนะ วิชาของพ่อมอบให้หล่ำไปหมดแล้ว ต่อไปต้องสงเคราะห์ชาวบ้าน แทนพ่อด้วยนะ" เมื่อสิ้น หลวงพ่อครื้น หลวงพ่อหล่ำ ก็เดิน ตามรอยเท้ามาเรื่อยๆ แต่ ปฏิบัติแบบเรียบง่าย ไม่โอ้อวด ดังแบบลึกๆ ตลอดระยะเวลา 30 กว่าปี เป็นที่รู้จักกันดีของศิษย์ชาวต่างชาติ
ตุ๊กแกทำจากดินเผาซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ พระในวัดจะปั้มเอง เผาเอง บรรจุกล่องเอง ไม่ใช่สั่งจากโรงงาน และสีที่ตัวตุ๊กแกก็พระในวัดทาเอง
ในเรื่องวัตถุมงคลของหลวงปู่หล่ำ โดยเฉพาะเครื่องรางของขลัง "เบี้ยเศรษฐี" ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของศรัทธาสาธุชน เพราะนำไปใช้แล้วได้ผลทันตาเห็น ไม่ว่าจะเรื่องค้าขาย เรื่องโชคลาภ อีกทั้งป้องกันภัย ผู้ที่ได้มีไว้บูชาต่างยืนยันกันว่า เข้มขลังมีอิทธิฤทธิ์มาก จึงเป็นที่กล่าวขานกันว่าใครมีแล้วไม่รู้จักจน เป็นสุดยอดเบี้ยแก้จน
หลวงปู่หล่ำจัดสร้างเบี้ยเศรษฐีตามตำรา "ครูปู่ฤษี" โดยนำเม็ดเงินมาเสกบรรจุไว้ภายใน แล้วอุดทับด้วยชันโรง ผสมผงและฝังตะกรุดเสริมดวง จึงเด่นด้วยพลังมนตรา เรียกทรัพย์แก้จน กล่าวกันว่า ถ้าจะขอสิ่งใดก็ให้เขย่าเบี้ยแก้ แล้วตั้งจิตอธิษฐานขอสิ่งที่ต้องการจะสำเร็จ เงินทองมีมาไม่ขาดสาย จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีอำนาจยศถาบรรดาศักดิ์ ผู้คนเกรงขาม เป็นเสน่ห์ เมตตามหานิยม และที่เบี้ยเศรษฐีหลวงปู่ได้ตอกโค้ตกันปลอมและสร้างจำนวน 680 ตัวเท่านั้น
ตะกรุดใต้น้ำ ของ หลวงพ่อหล่ำ วัด สามัคคีธรรม ก็มีวิธีการทำไปอีกแบบหนึ่ง โดย การสร้าง นั้นจะหาพื้นที่น้ำที่สงบๆ ไม่มีคนพลุกพล่าน แล้วหลวงพ่อจะนำเอาแผ่นโลหะ แล้วดำลงไปใต้น้ำ
ใน ช่วงที่ดำอยู่นั้นก็จะทำการจาร เขียนยันต์ ใส่บนแผ่นโลหะ จนแล้วเสร็จ ซึ่งจะดำลงผุดขึ้นมากี่ครั้ง ก็แล้วแต่ เมื่อจารแล้วก็จะทำการม้วน แผ่นโลหะ ให้เป็นตะกรุด ซึ่งก็จะลงไปม้วนในน้ำอีก
เมื่อเป็นตะกรุดแล้ว หลวงพ่อหล่ำก็จะดำน้ำลงไปบริกรรมคาถาปลุกเสกอีกที (ส่วนจะนานเท่าใดก็แล้วแต่) ถือว่าเป็นการแล้วเสร็จ การสร้างที่ยากเย็น (อยู่ในน้ำ) เช่นนี้ ผู้คนทั้งหลายจึงพากันศรัทธาว่าขลัง และเชื่อว่า ตะกรุดใต้น้ำของหลวงพ่อหล่ำนั้นมีพลังในด้านเมตตามหานิยม มีโชคลาภ และ อยู่ยงคงกระพัน
พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เจ้าตำรับเครื่องรางของขลัง "ตุ๊กแก" อันลือลั่น "หลวงพ่อหล่ำ สิริธัมโม" เจ้าอาวาสวัดสามัคคีธรรม ถนนลาดพร้าว ซอย 64 แขวง/เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ท่านแก่กล้าวิชาอาคม เพราะร่ำเรียนศึกษามาจากอดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายรูป
วิชาหนึ่งที่ "หลวงปู่หล่ำ" โดดเด่นไม่แพ้การสร้างเครื่องรางของขลัง ตุ๊กแก คือการทำ "ตะกรุดใต้น้ำ" ในอดีตกว่าจะได้ตะกรุดแต่ละดอกนั้น ท่านต้องลงใต้น้ำจารแผ่นตะกรุด ลงอักขระโดยใช้เหล็กจารลงแผ่น ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดไม่ให้ขาดตอน แล้วจึงนำขึ้นมาจากน้ำ แต่ถ้าคราใดที่ลงทำพิธีจารตะกรุดไม่ต่อเนื่องก็ต้องนำขึ้นมาทำพิธีใหม่
วัตถุมงคล หลวงพ่อหล่ำอีกวิชาของท่านก็คือ "ตะกรุดไม้รวก" ท้าวกุเวรมหาราช โดยนำไม้ไผ่ที่ตายพราย (ยืนแห้งตาย) ลงอักขระยันต์ท้าวกุเวร ลงคาถาต่างๆ เช่น พระอิติปิโสแปดทิศแปดด้าน บารมีสิบทิศ อาวุธพระเจ้า กล่าวกันว่าใช้ป้องกันได้สารพัดอย่าง
ส่วนในเรื่องของตะกรุดเมตตามหาเสน่ห์ของท่านก็คือ "ตะกรุดหลงมหาหลง" เป็นที่กล่าวขวัญในบรรดาลูกศิษย์ลูกหาแบบปากต่อปากในทางด้านเมตตามหานิยม เครื่องรางของขลังอีกชนิดหนึ่ง "จระเข้อาคมตะกั่วตีนแห"
เคยมีเรื่องเล่าถึงประสบการณ์เกี่ยวกับเครื่องรางของขลัง "จระเข้อาคมตะกั่วตีนแห" พ.ต.ท.สุรจิตร เปลี่ยมประเสริฐ สารวัตรสืบสวน สน.พหลโยธิน เล่าว่า "มีอยู่วันหนึ่งหลังจากที่ได้เสร็จจากภารกิจตอนดึก จึงขับรถแวะรับประทานข้าวต้มร้านริมถนนแถววังหิน ขณะที่ทานข้าวต้มอยู่ได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วยวิ่งจากทางที่ท่านจอดรถทิ้งไว้ คิดว่าคงเกิดเรื่องทะเลาะวิวาท จึงลุกขึ้นหวังเข้าไประงับเหตุ"
ชายผู้นั้นพูดอย่างตื่นเต้นว่า "ตนจะเปิดรถเพื่อหาของมีค่า ปรากฏว่าพอไขกุญแจ เปิดประตูรถได้มีจระเข้ตัวใหญ่อ้าปากจะงับ เขาตกใจจึงร้องเสียงหลง และรถคันดังกล่าวก็คือรถของสารวัตรนั่นเอง ท่านสารวัตรรู้ได้ทันทีว่าคงเป็นจระเข้อาคมของหลวงปู่หล่ำ ที่ได้วางไว้หน้ารถแสดงอิทธิฤทธิ์ช่วยคุ้มครองให้แน่นอน"
อีกชิ้นหนึ่งเป็น "รูปถ่ายหลังตะกรุดจตุโลกบาลฝังเกศาและจีวร รุ่นสุดยอด" ที่มีชื่อว่า "รุ่นสุดยอด" เพราะว่าสร้างดีปลุกเสกดี มวลสารที่อุดด้านหลังของรูปดี จนมีชื่อว่า "รุ่นสุดยอด" มีเกศาของหลวงพ่อหล่ำรวมทั้งจีวร และยังมีตะกรุดจตุโลกบาลที่ฝังด้านหลัง ดังนั้น รูปถ่ายรุ่นนี้จึงถูกขนานนามว่า "รุ่นสุดยอด"
ส่วนเรื่องพุทธคุณนั้น เคยมีผู้นำรูปถ่ายรุ่นนี้ไปบูชามีโชคลาภต่างๆ มากมาย ตลอดจนเรื่องแคล้วคลาดปลอดภัย จนเป็นที่รู้จักของศิษย์ทั่วไป ปัจจุบันรูปถ่ายรุ่นสุดยอดเป็นที่ต้องการของศิษย์อย่างมากมาย เนื่องจากสร้างจำนวนน้อยนั่นเอง รูปถ่ายหลังตะกรุดควรแก่การบูชา และสะสมใครมีรูปถ่ายรุ่นนี้เอาไว้บูชารับรองสุดยอดเหมือนชื่อรุ่นสุดยอดของรูปถ่ายหลวงปู่หล่ำอย่างแน่นอน
เหนือฟ้า ใต้บาดาล
ตุ๊กแกหลวงพ่อหล่ำเป็นที่ศรัทธาของคนต่างชาติ
ใกล้เกลือกินด่าง...หมายถึง พวกเรา ที่อยู่ใกล้กับของดีแต่ไม่รู้จัก เมื่อสัปดาห์ต้นๆ เดือน บ้านเรามีประชุมเกี่ยวกับโรคเอดส์ ชาวต่างชาติจากทั่วโลก จำนวนไม่น้อยที่เข้าสัมมนา ในครั้งนี้...
...และก็ มีส่วนหนึ่งที่เป็นผู้ติดตาม ผู้ที่เข้าร่วมประชุมได้ พากันเดินทางไปที่วัดสามัคคีธรรม ถนนลาดพร้าว ซอย 64 ตามใบสั่งของญาติที่เป็นชาวสิงคโปร์ มาเลเซียฮ่องกง และไต้หวัน ซึ่งเคยมาปฏิบัติ ธรรมที่วัดแห่งนี้ เพื่อขอเช่าตุ๊กแกอันเป็นเครื่องรางของ หลวงพ่อหล่ำ สิริธัมโม หรือ พระครูสิริธรรมวัต เจ้าอาวาส
ซึ่งพวกเขาศรัทธาว่า "ตุ๊กแก" ของหลวงพ่อหล่ำ นี้ เป็น ตุ๊กแกอาถรรพณ์ มีพลังในเมตตามหานิยม เรียกลูกค้าดี ร่มเย็นเป็นสุข เตือนภัย ให้ โชค ฯลฯ
...ยิ่งถ้า ได้ยินเสียง ตุ๊กแกร้อง (ทำด้วยวัสดุ ไม่มีชีวิต เป็นไปได้ยังไง!!!)...ยิ่งจะทำให้ โชคดีทุกๆอย่าง
O O O
...จากนั้นจึงได้มีการบอกข่าว เล่าต่อของกลุ่มพสกข้างวัด... และก็ได้สะพัดมาถึงสำนัก "เหนือฟ้า ใต้บาดาล" จึงได้ตามกลิ่นไป ก็ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเป็นเรื่องจริง โดยมี แอร์โฮสเตสสาวการบินไทย คนหนึ่ง เพื่อนๆเรียกเธอสั้นๆว่า "รินทร์" ไปได้ ตุ๊กแกของหลวงพ่อหล่ำ (ก็ไม่รู้ว่าจากเมืองไทย หรือจากคนต่างชาติแล้วนำมาเมืองไทย) จึงเอาไปบูชาไว้ที่บ้านอันเป็นทาวน์เฮาส์
ปรากฏว่าในช่วงนั้น เพื่อนบ้านใกล้เคียงถูก ขโมยขึ้นบ้านฉกทรัพย์สินไปหมดทั้ง 10 หลัง คงมีแต่บ้านเธอเท่านั้นที่รอดปลอดภัย ทั้งๆ ที่เธอเองก็ ไม่ค่อยจะอยู่บ้านด้วย (เพราะ ต้องบินไปต่างประเทศ)
วันหนึ่งช่วงที่ไม่ได้ ไปทำงานเกิดฝนตก น้ำฝนไหลรั่วบนหลังคาบ้านต่อมาจึงให้ช่างมาซ่อมแซม ปรากฏว่าที่หลังคารั่วเป็นช่อง ที่คนเจาะเข้ามาเพื่อ ขโมยของ...
...แต่...ทำไมไม่มีของที่บ้านนั้นหายไปสักชิ้น ทั้งๆที่ไม่มีคนเฝ้าบ้านเลย มันก็เป็นเรื่องที่แปลก เธอเชื่อและก็บอกใครๆว่า... "ตุ๊กแกหลวงพ่อหล่ำ" เฝ้าบ้านได้จริงๆ
O O O
หลวงพ่อหล่ำ สิริธัมโม อายุ 75 ปี 55 พรรษา เกิดเมืองไทยเชื้อสาย จีนเป็นผู้ชอบไสยศาสตร์ เรียนภาษาขอมจากอาจารย์ฉัตร ผาสุโก มาตั้งแต่ เด็กๆจน สามารถเสกหนวดตำลึง ให้เข้ามาพันนิ้วมือได้
เมื่อ เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ได้เข้าเรียนศาสตร์นี้จากหลายอาจารย์ ทั้งที่เป็นภิกษุและฆราวาส อย่างเช่น จาก หลวงปู่พาน นนทตา เพื่อนรุ่นน้องของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
และยัง เป็นศิษย์ก้นกุฏิของ หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ พระอภิญญาแห่งสุพรรณบุรี โดยที่ครูต้องมาตามลูกศิษย์ถึงกุฏิให้ไปรับถ่ายทอดวิชาอาคม
ในช่วงที่เรียนวิชาจากหลวงพ่อครื้นที่วัดสังโฆ ครั้งหนึ่งหลวงพ่อครื้นให้หลวงพ่อหล่ำเสกตุ๊กแก โดยท่านนั่งสมาธิคุมอยู่ทางด้านหลัง ในพิธีกรรมครั้งนั้น ตุ๊กแกทั้งฝูงเดินได้บ้าง กระโดดบ้าง ร้องบ้าง ดุจมีชีวิต...
...จน หลวงพ่อครื้นกลั้นไม่อยู่ หลุดปากชมว่า ..."หล่ำทำได้เหมือนพ่อเลยนะ" จากนั้นหลวงพ่อหล่ำก็ได้รับความไว้วางใจ...เสกตุ๊กแกแทนหลวงพ่อครื้นตลอดมา จนกระทั่งหลวงพ่อครื้นมรณภาพ
และช่วงที่ หลวงพ่อครื้นใกล้มรณภาพ ได้อยู่ในอ้อมกอดของหลวงพ่อหล่ำ ท่ามกลางศิษยานุศิษย์ ทั้งหลาย ท่านได้บอกว่า "... หล่ำเอ๋ย...พ่อจะไปแล้วนะ วิชาของพ่อมอบให้หล่ำไปหมดแล้ว ต่อไปต้องสงเคราะห์ชาวบ้าน แทนพ่อด้วยนะ..."
เมื่อสิ้น หลวงพ่อครื้น หลวงพ่อหล่ำ ก็เดิน ตามรอยเท้ามาเรื่อยๆ แต่ ปฏิบัติแบบเรียบง่าย ไม่โอ้อวด ดังแบบลึกๆ ตลอดระยะเวลา 30 กว่าปี เป็นที่รู้จักกันดีของศิษย์ชาวต่างชาติ
O O O
กับ "เหนือฟ้า ใต้บาดาล" ที่ได้พบกับหลวงพ่อหล่ำในกุฏิ ซึ่งดูลักษณะเป็นสงฆ์ที่ยิ้มแย้มแจ่มใส อย่างคนมีเมตตาและอารมณ์ดี เมื่อท่านรู้ว่าเราต้องการอะไร เมื่อรู้ในจุดประสงค์ ท่านจึงเล่าว่า...ในอดีตนั้นชอบในเรื่องนี้และ ได้เรียนวิชาอาคมจริง แต่อย่าไปเชื่อเลยว่ามันจะมีปาฏิหาริย์ อย่าให้มันเป็นเรื่องราวใหญ่โตเลย หลวงพ่ออยากอยู่เงียบๆ
เป็นอันว่าแนวโน้มที่จะได้ข้อมูลจากหลวงพ่อ เพื่อยืนยันกับข่าวที่กำลังฮือฮาเป็นอันริบหรี่ แต่ก็ไม่สิ้นไปเลยซะทีเดียว ศิษย์หลวงพ่อหล่ำคนหนึ่ง ใจกล้ายืดอกออกมาบอกแทนว่า... หลวงพ่อท่านไม่อยากพูดอะไร เนื่องจากเป็นพระผู้ใหญ่ หากออกไปเป็นข่าวจะถูกกล่าวหาว่า เป็นต้นตอในการสร้างความงมงาย
ซึ่งในความจริงแล้ว หลวงพ่อหล่ำท่านได้สร้างตุ๊กแกขึ้นมาหลายรุ่น แต่ทำไม่มาก เพียงไม่กี่ชิ้น แป๊บเดียวก็หมด ผู้ที่ได้ไปก็เป็นศิษย์ที่มาจากแดนไกล เป็นพวกชาวต่างชาติที่วนเวียนกันมา...แล้วก็จะไม่มีค้างที่วัดเลย
ส่วนคนไทยน้อยคนที่จะได้ ด้วยเหตุผลเดียวกับที่ไม่อยากออกมาเป็น ข่าว...แต่ก็มีบ้างเป็นบาง คนที่ได้ตุ๊กแกจากหลวงพ่อ ไป
O O O
และในช่วงที่กำลังสนทนากันอยู่นั้น ก็ มีสตรีสูงอายุท่านหนึ่ง บอกว่ามีภูมิลำเนาอยู่ที่จันทบุรี แต่ตอนนี้อยู่ในกรุงเทพฯ ชื่อ นางสมหมาย โพธิพัฒน์ บอกว่า เดินทางมานมัสการหลวงพ่อหล่ำ แล้วก็บอกว่า ที่ได้ตุ๊กแกจากหลวงพ่อไปเมื่อไม่นานมานี้ ก็เอาไปไว้ บนหิ้งบูชา และก็ ได้ยินเสียงตุ๊กแกร้องในห้องพระ
ก็เป็นงงเหมือนกัน หากเป็นที่บ้านเมืองจันท์ก็ไม่เป็นไร นี่อยู่ในกรุงเทพฯไม่น่าจะมีตุ๊กแกร้อง ก็นึกได้ว่าคงจะเป็น...ตุ๊กแกของหลวงพ่อหล่ำร้องทักโชคลาภแน่ๆ
...จากนั้นก็เลยลองซื้อลอตเตอรี่ดู ผลปรากฏว่าโชคมีจริงๆ จึงถูกลอตเตอรี่ในงวดนั้น และก็ได้ยินเสียง ตุ๊กแกร้องอีก ผลคือ เดือนมิถุนายนถูก 2 งวด และเดือนกรกฎาคมอีก 1 งวด...จึงมานมัสการหลวงพ่อ
เพิ่มร้านณัชชาเป็นเพื่อน
ด้วย QR Code ด้านล่างนี้ บัญชีร้านณัชชา
หน้าที่เข้าชม | 1,996,378 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,263,493 ครั้ง |
เปิดร้าน | 12 ก.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |