พระยอดขุนพลกาญจนบุรี วัดท่าขนุน พิมพ์ใหญ่ (แก่ผงกากยายักษ์) วัดท่าขนุน ปี 65

พระยอดขุนพลกาญจนบุรี วัดท่าขนุน พิมพ์ใหญ่ (แก่ผงกากยายักษ์) วัดท่าขนุน ปี 65
หมวดหมู่ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน
ราคา 4,500.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 3 มิ.ย. 2565
อัพเดทล่าสุด 3 มิ.ย. 2565
จำนวน
ชิ้น
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
พระยอดขุนพลกาญจนบุรี
ส่วนท่านทั้งหลายที่จอง "พระยอดขุนพลกาญจนบุรี" อยู่ ต้องการเพิ่มหรืออย่างไรก็มีเวลาไม่เกินวันที่ ๑๕ เพราะว่าหลังจากปิดกระทู้ไปแล้ว ถ้าเปิดใหม่อีกทีก็จะเป็นอีกเนื้อหนึ่ง หรือว่าอีกขนาดหนึ่ง ก็ต้องโน่น...ช่วงเข้าพรรษา
นาน ๆ ที กระผม/อาตมภาพจะสร้างพระเครื่องด้วยเนื้อผงเสียทีหนึ่ง และโดยเฉพาะถ้าใครรู้จักสังเกตทางด้านหลัง จะมี "รูปหนุมานขี่สิงห์ หาวเป็นดาวเป็นเดือน" โดยปกติแล้วปีขาลโบราณเขาให้ใช้ปีขาล เดือน ๓ วันอังคาร ในการสร้าง ในการเสกวัตถุมงคลที่เกี่ยวกับเสือ
แต่ว่าที่อยู่ในพระยอดขุนพลกาญจนบุรีนั่นเกินเสือไป ก็คือเป็น"ไกรสรราชสีห์" แล้วแถมยังมีหนุมานขี่หลังมาอีก หนุมานนั้นเขามีเคล็ดลับว่าใครฆ่าก็ไม่ตาย ทำงานอะไรก็สำเร็จ ไปที่ไหนได้เมียที่นั่น อันนี้ไม่ค่อยจะดี เลี้ยงไม่ไหว
ส่วนทางด้านหน้าองค์พระนั้นก็คือ "พระพุทธเจ้าปางปฐมเทศนา" แต่ว่าซ้ายขวากลับมีพระอัครสาวก ซึ่งตอนปฐมเทศนานั้นยังไม่มี ก็เพราะว่าคนออกแบบต้องการจะให้มีครบถ้วนสมบูรณ์ตามที่โบราณเขาถือกันมา ใครต้องการเพิ่มเติมหรืออะไรก็เหลือเวลาแค่ไม่กี่วันเท่านั้น
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๕
***************************

สำหรับการพุทธาภิเษกครั้งนี้ก็ได้รับความเมตตาบอกกล่าวจากพระท่านว่า คาถาในการอาราธนาพระยอดขุนพลกาญจนบุรีนั้น ให้ใช้
คาถาว่า
"สัตถาธะนุง อากัฑฒิตุง อะเทสะยิ นะโมพุทธายะ"
ซึ่งคาถานี้ถ้าหากว่าผู้ฟัง หรือว่าผู้ถอดเสียงฟังแล้วไม่ถนัด เมื่อถอดเสียงแล้วกระผม/อาตมภาพจะให้เขานำมาดูว่า พระคาถาบทนี้ถอดได้ถูกต้องหรือไม่ ส่วนที่ท่านทั้งหลายจะบูชาแล้วนำไปติดตัว ติดรถยนต์ หรือว่าติดบ้าน ก็แล้วแต่ท่านทั้งหลายจะพินิจพิจารณากันเอาเอง
ฯลฯ
*************************************
…หนุมานนั้นเขามีเคล็ดลับว่าใครฆ่าก็ไม่ตาย ทำงานอะไรก็สำเร็จ ไปที่ไหนได้เมียที่นั่น อันนี้ไม่ค่อยจะดี เลี้ยงไม่ไหว
…ในส่วนของพระยอดขุนพลกาญจนบุรีนั้น เป็นพระเพียงไม่กี่รุ่นที่สร้างจากเนื้อผง ซึ่งตอนทำพิธี กระผม/อาตมภาพเห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมตตาเสด็จมาสงเคราะห์ โดยปกติแล้ว เมื่อพระองค์ท่านเปล่งฉัพพรรณรังสีลงมาครอบคลุมทั่วพื้นที่ ซึ่งบางทีก็จะเห็นเป็นรูปพระครอบลงมา ก็เป็นอันว่าจบลงแค่นั้น แต่ว่างานนี้พระองค์ท่านเมตตาสงเคราะห์ ต้องบอกว่า มีการทำซ้ำรวมแล้ว ๓ รอบด้วยกัน โดยเฉพาะมีการเปลี่ยนสีไปต่าง ๆ นานา
เมื่อกราบทูลถาม ทรงตอบว่า "ก็เพราะเจ้าขอให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน สถานการณ์ปัจจุบันมีทั้งภาวะสงครามมีทั้งโรคระบาด มีทั้งปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้การสงเคราะห์ไปในด้านต่าง ๆ" ที่พูดไปนี่ไม่ใช่ปั่นยอดขาย เพราะว่าวัตถุมงคลหมดแล้ว เพียงแต่ว่าบอกกล่าวให้ทราบกัน
 
+++++++++++++++
พระยอดขุนพลกาญจนบุรี วัดท่าขนุน
***********************************************
#นาน ๆ ที กระผม/อาตมภาพจะสร้างพระเครื่องด้วยเนื้อผงเสียทีหนึ่ง และโดยเฉพาะถ้าใครรู้จักสังเกตทางด้านหลัง จะมีรูปหนุมานขี่สิงห์ หาวเป็นดาวเป็นเดือน โดยปกติแล้วปีขาลโบราณเขาให้ใช้ปีขาล เดือน ๓ วันอังคาร ในการสร้าง ในการเสกวัตถุมงคลที่เกี่ยวกับเสือ
#แต่ว่าที่อยู่ในพระยอดขุนพลกาญจนบุรีนั่นเกินเสือไป ก็คือเป็นไกรสรราชสีห์ แล้วแถมยังมีหนุมานขี่หลังมาอีก หนุมานนั้นเขามีเคล็ดลับว่าใครฆ่าก็ไม่ตาย ทำงานอะไรก็สำเร็จ ไปที่ไหนได้เมียที่นั่น อันนี้ไม่ค่อยจะดี เลี้ยงไม่ไหว
#ส่วนทางด้านหน้าองค์พระนั้นก็คือ พระพุทธเจ้าปางปฐมเทศนา แต่ว่าซ้ายขวากลับมีพระอัครสาวก ซึ่งตอนปฐมเทศนานั้นยังไม่มี ก็เพราะว่าคนออกแบบต้องการจะให้มีครบถ้วนสมบูรณ์ตามที่โบราณเขาถือกันมา ใครต้องการเพิ่มเติมหรืออะไรก็เหลือเวลาแค่ไม่กี่วันเท่านั้น
#เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๕
"#สัตถาธะนุง อากัฑฒิตุง อะเทสะยิ นะโมพุทธายะ#"
ซึ่งคาถานี้ถ้าหากว่าผู้ฟัง หรือว่าผู้ถอดเสียงฟังแล้วไม่ถนัด เมื่อถอดเสียงแล้วกระผม/อาตมภาพจะให้เขานำมาดูว่า พระคาถาบทนี้ถอดได้ถูกต้องหรือไม่ ส่วนที่ท่านทั้งหลายจะบูชาแล้วนำไปติดตัว ติดรถยนต์ หรือว่าติดบ้าน ก็แล้วแต่ท่านทั้งหลายจะพินิจพิจารณากันเอาเอง
เพียงแต่ขอให้ทราบว่าในเรื่องของรูปสตูดิโอนั้น ตอนแรกช่างถ่ายมาไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ทำให้แบบพิมพ์ใหญ่ สีดำ แก่เนื้อผงดินกากยายักษ์นั้น ต้องอาศัยรูปอื่นแทนอยู่ ๒ วาระ ๓ วาระ #ท่านทั้งหลายอาจจะเข้าใจว่ามีการจารหลังให้ ซึ่งนั่นเป็นพิมพ์นำฤกษ์พิเศษ ไม่มีการให้บูชาทั่วไป หรือว่าอาจจะเห็นว่ามีการปิดทอง ซึ่งพิมพ์นำฤกษ์เหล่านั้นก็มีแค่ ๒ - ๓ องค์เท่านั้น ไม่สามารถที่จะให้บูชาได้ เนื่องเพราะว่าไม่เพียงพอแก่บุคคลที่ต้องการ
#ดังนั้น...ขอให้ท่านทั้งหลายเข้าใจว่า ไม่ว่าจะเป็นพระยอดขุนพลกาญจนบุรีพิมพ์ใหญ่ สีดำ แก่ผงดินกากยายักษ์ หรือว่าพิมพ์ใหญ่ สีขาว แก่ผงพุทธคุณก็ตาม ล้วนแล้วแต่ไม่มีการปิดทอง ไม่มีการจารทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ถ้าหากว่าจารก็คงมีเวลาไม่เพียงพอที่จะกระทำได้ครบถ้วน
อีกส่วนหนึ่งที่จะบอกกล่าวก็คือว่า ท่านที่ "ฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับไปกระเดียด" ก็คือไม่ได้คิดเลยว่าจะฟังให้ได้ความจนครบถ้วนสมบูรณ์ เมื่อได้ยินว่ามีการให้บูชาพระยอดขุนพลกาญจนบุรี ท่านทั้งหลายก็เหมารถวิ่งตรงไปยังวัดท่าขนุนเลย ซึ่งไปแล้วก็เสียเวลาเปล่า เพราะว่าไม่ได้มีให้บูชาที่นั่น หากแต่มีให้บูชาเฉพาะในกระทู้ของเว็บวัดท่าขนุนที่เดียวเท่านั้น ก็คือกระทู้กฐินปลดหนี้วัดชลธราราม (ท่าซิก) จังหวัดเพชรบุรี ในที่อื่นก็ไม่มี และมีให้บูชาแค่ ๒ พิมพ์เท่านั้น ก็คือพิมพ์ใหญ่สีดำ แก่ผงดินกากยายักษ์ และพิมพ์ใหญ่สีขาว แก่ผงพุทธคุณ
#อีกส่วนที่ได้กระทำเอาไว้ก็คือพิมพ์ใหญ่ สีดำ ฝังตะกรุดทองคำ และ พิมพ์เล็ก สีดำ แก่ผงดินกากยายักษ์นั้น จะนำออกให้บูชาในงานทอดกฐินวัดท่าขนุน ซึ่งจะเปิดกระทู้ให้บูชาก็ต่อเมื่อถึงช่วงเข้าพรรษาไปแล้ว
แต่ว่าท่านทั้งหลายโทรมาจะเอาพิมพ์โน้น พิมพ์นี้ ซึ่งไม่สามารถที่จะมีให้ได้ โดยที่ไม่พยายามจะอ่านหนังสือให้ครบ ๘ บรรทัด หรือว่าไม่พยายามที่จะฟังให้จบเนื้อหาตามที่ได้บอกกล่าวไป แล้วก็มาเร่งรัดเอากับเจ้าหน้าที่ของทางวัด ทำให้แต่ละคนเครียดจนหัวฟูไปตาม ๆ กัน
#ตรงจุดนี้จึงขอร้องท่านทั้งหลายว่า ไม่ว่าท่านจะต้องการวัตถุมงคลขนาดไหนก็ตาม ขอให้พินิจพิจารณาดูก่อนว่า ทางวัดให้บูชาในแบบไหนพิมพ์ไหนบ้าง และขณะเดียวกันให้บูชาในกระทู้ใดบ้าง เมื่อท่านบูชาไปแล้ว ก็ขอให้โอนเงินให้ตรงบัญชีในกระทู้นั้น ๆ ด้วย
ไม่เช่นนั้นแล้วเมื่อผิดกฎผิดกติกา ก็กลายเป็นว่าท่านต้องเสียเงินทำบุญโดยใช่เหตุ เพราะว่าทางเจ้าของกระทู้ได้ตั้งกฎเกณฑ์เอาไว้ชัดเจนแล้วว่าไม่มีการโอนเงินคืน เนื่องจากว่าไม่มีเวลา ท่านโอนเงินผิดกระทู้ ก็แปลว่าตั้งเจตนาที่จะทำบุญกับทางวัดท่าขนุนเอง
เรื่องทั้งหลายนี้จะไม่เกิดขึ้น ถ้าท่านทั้งหลายมีความรอบคอบ อ่านกฎเกณฑ์กติกาให้ชัดเจน เมื่อถึงเวลาแล้วก็ดูให้ชัดว่าต้องโอนเงินเข้าไปที่กระทู้ไหน บัญชีไหน ซึ่งแต่ละกระทู้นั้นเป็นเลขบัญชีที่ต่างกันไป ไม่ใช่บัญชีเดียวกัน
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
#วันจันทร์ที่ ๒๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
#พระยอดขุนพลกาญจนบุรีนั้น สร้างขึ้นเพื่อรับสภาวะสงครามในปัจจุบัน ซึ่งเท่าที่ท่านทั้งหลายเห็นอยู่ เรียกง่าย ๆ ว่าสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งกระผม/อาตมภาพอยากจะกล่าวว่าเป็นสงครามข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะข่าวสารปลอมที่เรียกว่า "เฟกนิวส์" โดยที่ทางด้านตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ NATO หรือว่า EU ก็ตาม ได้ออกข่าวในลักษณะที่ว่าทำลายกองทัพรัสเซียไปเท่านั้นเท่านี้ เข่นฆ่าทหารรัสเซียไปเท่านั้นเท่านี้ ฆ่านายพลผู้บัญชาการของรัสเซียไปเท่านั้นเท่านี้
แต่เราจะเห็นว่ารัสเซียใช้กลยุทธ์ความสงบสยบความเคลื่อนไหว ประมาณว่า "พูดน้อยต่อยหนัก" จะออกข่าวอย่างไรก็ไม่ได้ใส่ใจ แต่ว่าค่อย ๆ รุกคืบหน้าไปตามแผนการรบของตัวเอง ก็คือเปิดทางให้ประชาชนทั่วไปอพยพออกจากเมืองต่าง ๆ ที่ตนเองบุกเข้าไปถึง ถ้าหากว่ากำหนดระยะเวลาที่พอสมควรแล้ว บุคคลที่ยังอยู่จะถือว่าเป็นทหารหรือว่าหน่วยต่อต้านทั้งหมด ก็จะทำการกวาดล้างกันแบบไม่ปรานี ซึ่งการรบแบบรัสเซียนี้ บรรดาประเทศต่าง ๆ ที่เจอเข้าล้วนแล้วแต่เข็ดหลาบไปตาม ๆ กัน เนื่องเพราะว่าถ้าหากว่ารบก็คือรบ จะไม่มีการมาเมตตาปรานีต่อกัน
ตรงจุดนี้เราทั้งหลายต้องเข้าใจว่า ทหารรัสเซียนั้นโด่งดังมาตั้งแต่อดีต ซึ่งทหารรัสเซียที่เรารู้จักดีที่สุดคือ ทหารม้าคอสแซ็ค ในอดีตนั้นทหารม้าคอสแซ็คบดขยี้กองทัพคู่ต่อสู้แบบไม่ปรานี สร้างชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วทั้งเอเชียและยุโรป ความดุเดือดโหดร้ายนั้นก็ไม่ด้อยไปกว่ากองทัพมองโกลอันยิ่งใหญ่ของเจงกีสข่านเลย
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงทำให้ประเทศต่าง ๆ ในยุโรป โดยเฉพาะที่สังกัดในสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ที่ต้องบอกว่าไปแหย่รังแตนด้วยการตั้งขีปนาวุธจ่อคอหอยรัสเซีย ซึ่งเป็นสิ่งที่รัสเซียยอมไม่ได้ ตรงจุดนี้ทำให้ประเทศในสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือทั้งหมดต้องร้อนตัว กลัวว่ารัสเซียจะบุกต่อมายังประเทศของตน จึงพยายามที่จะช่วยเหลือยูเครนในด้านต่าง ๆ
เราต้องเข้าใจว่าการช่วยเหลือแบบนี้ ก็คือช่วยให้ไปตีกันในบ้านของคนอื่น สิ่งที่ฉิบหายวายป่วงก็คือบ้านของคนอื่น ซึ่งก็คือประเทศยูเครน โดยกระผม/อาตมภาพเคยเรียกการรบในลักษณะนี้ว่า สงครามตัวแทน ความเสียหายเกิดแก่ประเทศที่เป็นคู่ศึก ไม่ใช่ประเทศของตน จะว่าไปแล้วก็เป็นการรบที่ไม่ได้มีความเป็นลูกผู้ชายนัก
__________________
👉ภาวะศึกสงครามก็ต้องมีอะไรพิเศษ ซึ่งพิเศษตั้งแต่แรกแล้วก็คือ สร้างขึ้นจากผงวิเศษที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง สั่งให้กระผม/อาตมภาพลบผงพุทธคุณ ซึ่งจะว่าไปแล้ว
👉#ในผงวิเศษทั้ง ๕ อย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห และผงพุทธคุณนั้น ผงพุทธคุณจะเป็นผงที่ทำยากที่สุด ต้องทำผงทั้ง ๔ ชนิดแรกเสร็จเรียบร้อยไปตามลำดับ ๆ แล้วค่อยนำมาลบเป็นผงพุทธคุณในตอนท้ายสุด
#แต่เนื่องจากว่าสายกรรมฐานของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโคก็ดี เมื่อสืบทอดมาถึงสายกรรมฐานของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงก็ตาม เราอาศัยบารมีของพระพุทธเจ้าในการอนุเคราะห์สงเคราะห์มาตลอด ดังนั้น...ผงที่ลบมาใช้งานจึงสามารถข้ามขั้นตอนไปเป็นผงพุทธคุณได้เลย นี่เป็นประการที่หนึ่ง
#ประการที่สองก็คือ กระผม/อาตมภาพนั้นสร้างพระด้วยผงน้อยมาก เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ถ้าหากว่าทำก็อยากจะให้ดีไปเลย ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ผงวิเศษต่าง ๆ ที่สะสมมาตั้งแต่สมัยครูบาอาจารย์ หรือว่าที่ได้รับการถวายมาจากที่ต่าง ๆ จากครูบาอาจารย์ต่าง ๆ มีแม้กระทั่งผงวัดระฆังซึ่งเป็นผงก้นกรุ ได้มาจากญาติโยมที่เมตตาถวายและแท่งผงวัดระฆัง ซึ่งเป็นแท่งที่หลงเหลือมา ได้รับการพิสูจน์ทราบอย่างชัดเจนแล้วว่าเป็นเนื้อที่เหลือจากการสร้างพระสมเด็จวัดระฆังอย่างแท้จริง
#หรือว่าผงจิตรลดาที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ได้สร้างพระสมเด็จจิตรลดา ซึ่งกระผม/อาตมภาพได้บูชาพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นและบรรจุผอบใส่ผงสมเด็จจิตรลดานี้เอาไว้ให้ด้วย ตลอดจนกระทั่งผงจากกรุวัดร้างสัมฤทธิ์
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เมื่อได้มา ก็นำลงในการสร้างพระผงในวาระต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้าน รุ่น ๑ ก็ดี พระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้าน รุ่น ๒ ก็ตาม ตลอดจนกระทั่งพระขุนแผนเกราะเพชร ไม่ว่าจะฝังตะกรุดทองคำ ตะกรุดเงิน ตะกรุดนาก หรือว่าไม่ได้ตะกรุด ก็ทำให้ผงวิเศษต่าง ๆ นั้น ร่อยหลอเหลือน้อยลงไปมาก
เมื่ออยู่ในระหว่างที่สะสมอยู่ #พระเดชพระคุณหลวงพ่อก็สั่งให้ทำผงสมเด็จคำข้าว แต่เนื่องจากว่าเหตุผลที่ได้เรียนถวายหลวงพ่อท่านไปก็คือ ถ้าหากว่าทำออกมาแล้ว พระสมเด็จคำข้าววัดท่าซุงของพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเอง ราคาก็จะไปต่อไม่ได้ เพราะว่าญาติโยมก็มักจะมาเอาของใหม่ ซึ่งจะว่าราคาถูกกว่าก็ไม่ใช่
แต่เนื่องจากว่าเป็นของที่ทันยุคสมัยของตนเอง ก็มักจะได้รับความเชื่อถือมากกว่า ในเมื่อทำให้ราคาของสมเด็จคำข้าววัดท่าซุงไปต่อไม่ได้ กระผม/อาตมภาพจึงกราบขอความเมตตา ขอชะลอการสร้างสมเด็จคำข้าวเอาไว้ก่อน พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ จึงได้สั่งให้สร้างพระยอดขุนพลกาญจนบุรีขึ้นมาแทน
__________________
#ในการสร้างพระยอดขุนพลนั้น สร้างตามขนาดพิมพ์มาตรฐานที่นิยมมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็คือ คนโบราณนั้นร่างกายใหญ่โตกว่ายุคของเรามาก พระที่เราเห็นว่าใหญ่เท่าฝ่ามือ จึงเป็นพระที่พอเหมาะพอดีกับยุคนั้น #และกระผม/อาตมภาพก็ได้ขออนุญาตสร้างพิมพ์เล็กขึ้นมาด้วย ซึ่งได้รับอนุญาตให้สร้างแค่เนื้อเดียวคือเนื้อผงสีดำแก่ดินกากยายักษ์ เนื้อผงสีขาวแก่ผงวิเศษนั้น ไม่สามารถที่จะสร้างได้ เพราะว่าผงวิเศษได้เทลงไปในพิมพ์ใหญ่จนหมดแล้ว..!
#เมื่อญาติโยมทั้งหลายบูชาพระยอดขุนพลกาญจนบุรีไป ซึ่งกระผม/อาตมภาพนั้น จะพยายามออกมาให้ทันรับภาวะสงครามที่เกิดขึ้น ซึ่งได้แต่ภาวนาเอาใจช่วยทั้ง ๒ ฝ่ายที่เป็นคู่ศึกต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายอเมริกา ยุโรป นาโตหรือยูเครน กับฝ่ายรัสเซีย ซึ่งบัดนี้โดนผนวกจีนและอินเดียเข้าไปด้วย เพราะว่าทั้ง ๒ ประเทศนี้ก็ไม่ยอมลงให้กับทางชาติตะวันตกเช่นกัน
ขอให้ทั้ง ๒ ฝ่ายมีสติสัมปชัญญะ อย่าได้ใช้อาวุธนิวเคลียร์ในการรบกันเลย เพราะว่าอันดับแรกนั้น จะมีความเสียหายและคนตายจำนวนมากมายมหาศาล ประการที่สองก็คือ สารกัมมันตภาพรังสีนั้นจะตกค้างอยู่เป็นเวลานาน
#การพุทธาภิเษกพระยอดขุนพลกาญจนบุรีในครั้งนี้ สิ่งหนึ่งที่จะต้องขอพระท่านโดยที่กระผม/อาตมภาพไม่เคยขอมาก่อนเลยก็คือ
👉ขอให้ #ป้องกันรังสีนิวเคลียร์ได้ ตรงจุดนี้ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า ถ้าหากว่าไม่ได้รับอนุญาตจากพระท่านแล้ว ต่อให้เราทำเองขนาดไหน ก็จะมีข้อจำกัดด้วยกฎของกรรม
#ญาติโยมทั้งหลายจึงควรที่จะพิจารณาบูชากันเอาเอง และในการออกพระยอดขุนพลกาญจนบุรี พิมพ์เล็กก็ดี พิมพ์พิเศษฝังตะกรุดทองคำซึ่งมีไม่กี่องค์ก็ตาม จะออกสำหรับงานกฐินวัดท่าขนุน ซึ่งจะมีขึ้นต่อเมื่อเข้าพรรษาแล้วทุกปี แปลว่าจะเว้นระยะห่างจากการบูชาพระยอดขุนพลกาญจนบุรีสำหรับกฐินปลดหนี้นี้หลายเดือน ท่านทั้งหลายไม่จำเป็นที่จะต้องรอ เหตุเพราะว่าถ้าหากว่าสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านก็จะได้รับไปเลย เพื่อที่จะใช้ป้องกันอันตรายต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากภาวะสงครามได้
ตอนนี้ก็เลยระยะเวลาที่เคยบันทึกเสียงมาแล้ว จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมในเบื้องต้นแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
วันอาทิตย์ที่ ๒๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
ตรงจุดนี้ทางวัดท่าขนุนของเรานั้น #ตอนแรกกระผม/อาตมภาพได้รับคำสั่งจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษี ฯ วัดท่าซุง ให้ทำพระจากการใช้ข้าวเสกด้วยพระคาถาเงินล้าน หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่าพระคำข้าว แต่ว่ากระผม/อาตมภาพได้ให้เหตุผลกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อไปว่า ขออนุญาตชะลอไว้ก่อน เนื่องเพราะว่าถ้าทำเช่นนั้นไปเมื่อไร ญาติโยมส่วนหนึ่งที่หันมาบูชาพระคำข้าวจากวัดท่าขนุน ก็จะทิ้งพระคำข้าวของทางด้านวัดท่าซุงไป โดยไม่ได้ใส่ใจไปติดตามบูชา จะทำให้ราคาของทางวัดท่าซุงนั้น อาจจะไม่มีการขยับขึ้นไปตามอุปสงค์อุปทานที่ควรจะเป็น
#ดังนั้น...หลวงพ่อท่านจึงให้เปลี่ยนใหม่ มาทำวัตถุมงคลที่รับการภาวะสงคราม ก็คือให้กระผม/อาตมภาพไปพิจารณาลบผงวิเศษ เพื่อสร้างพระยอดขุนพลกาญจนบุรี ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนในการทำงานก็สำเร็จไปเกิน ๘๐ เปอร์เซ็นต์แล้ว ตรงจุดนี้การสร้างพระยอดขุนพลกาญจนบุรีนั้น น่าจะขออนุญาตพระท่านในการปลุกเสกเพื่อรับภาวะสงครามอย่างเต็มที่
#โดยปกติแล้ววัตถุมงคลของทางวัดท่าขนุน กระผม/อาตมภาพจะเน้นในเรื่องของลาภผล โดยมีแนวคิดว่า ถ้าญาติโยมมีความคล่องตัวในแนวทางการทำมาหากิน ก็จะมาสนับสนุนวัดของเราเอง แต่ว่าผลในด้านอื่น ๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการคงกระพันชาตรีก็แอบซุก ๆ เอาไว้ข้างใน
แต่ว่าพระยอดขุนพลกาญจนบุรีนี้ สร้างเพื่อรับภาวะสงครามที่เกิดขึ้น ก็อาจจะต้องนำในส่วนของคงกระพันชาตรีออกหน้า ซึ่งในเวลานั้นก็จะมีการกราบขออนุญาตจากพระ จากครูบาอาจารย์ แล้วแต่ว่าท่านจะอนุเคราะห์สงเคราะห์ไปในด้านใด และให้มาในระดับใด
__________________
ส่วนการออกทำบุญนั้นจะแบ่งเป็น ๒ ส่วน ส่วนแรกก็คือจะทำบุญในกระทู้กฐินปลดหนี้ วัดชลธราราม (ท่าซิก) อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งท่านพระครูวัชรชลธรรม ซึ่งกระผมเรียกตามความคุ้นเคยว่า "หลวงพ่อญา" ท่านสร้างวิหารหลังใหญ่มา ๒๐ ปีแล้ว ยังไม่เสร็จสรรพเรียบร้อย เนื่องเพราะว่าความประณีตในการสร้างอย่างหนึ่ง งบประมาณในการสร้างอีกอย่างหนึ่ง
กระผม/อาตมภาพได้รับปากท่านเอาไว้ว่าจะนำเอากฐินปลดหนี้ไปให้สักปีหนึ่ง ซึ่งก็มาตรงกับปี ๒๕๖๕ นี้ อีกส่วนหนึ่งก็จะทำบุญกฐินวัดท่าขนุนเอง
#เมื่อถึงเวลานั้น ญาติโยมทั้งหลายก็พิจารณาเอาว่าเราจะบูชาพระยอดขุนพลพิมพ์มาตรฐาน ซึ่งโตประมาณฝ่ามือผู้ใหญ่ หรือว่าจะเป็นพิมพ์เล็กที่ขออนุญาตย่อลงมาทำ โตกว่าเหรียญ ๑๐ บาทเล็กน้อยเท่านั้น ก็ตามแต่ท่านทั้งหลายจะพิจารณาร่วมบุญกับทางวัดท่าขนุนเอา แต่ขอให้ทราบว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ท่านทำบุญมานั้น กระผม/อาตมภาพใช้ไปในงานของพระพุทธศาสนา คุ้มค่ายิ่งกว่าความตั้งใจของญาติโยมที่ได้ทำมา
#อีกส่วนหนึ่งก็คือว่า การที่พวกเราได้สละปัจจัยไทยธรรมทำบุญมานั้น เป็นการตัดความโลภ ซึ่งรัก โลภ โกรธ หลง เป็นกิเลสใหญ่ ๔ ตัวที่ครองใจเราอยู่ เหมือนกับเก้าอี้ที่มี ๔ ขา เมื่อโดนตัดขาไปข้างหนึ่ง อีก ๓ ขาก็ไม่มั่นคง เราใช้กองกรรมฐานต่าง ๆ ที่ใช้ในการจัดการกับความโกรธ ความหลงต่อไปก็จะง่ายขึ้น
จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
#วันศุกร์ที่ ๒๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
#อีกส่วนหนึ่งก็คือ ตอนแรกอาตมภาพได้รับคำสั่งให้สร้างพระสมเด็จคำข้าว แต่เป็นสมเด็จคำข้าวในรูปแบบของวัดท่าขนุน ก็คือไม่ได้สร้างขนาดหรือรูปแบบของวัดท่าซุง แต่อาตมภาพขอไว้ว่า สมเด็จคำข้าวของวัดท่าซุงราคายังไปไม่ถึงไหน ถ้าวัดท่าขนุนออกมา แล้วจำหน่ายราคาสูงกว่า จะดูไม่งามอย่างแน่นอน ในเมื่อห่วงหน้าพะวงหลัง พระท่านก็เลยให้ไปนั่งลบผง เพื่อที่จะสร้างพระยอดขุนพลกาญจนบุรีที่อาตมภาพหมายตาเอาไว้หลายปีแล้ว
#ถ้าหากว่าลบผงตามวิชา👉 ต้องเริ่มจากผงปถมัง ต่อด้วยผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช แล้วไปจบที่ผงพุทธคุณ แต่ด้วยความที่อาตมภาพเคยชินกับการอาราธนาบารมีพระท่านสงเคราะห์ ก็เลยข้ามขั้นไปลบผงพุทธคุณอย่างเดียว เพราะว่าปกติเราต้องลบผงปถมัง เสร็จเรียบร้อยแล้วก็เอาผงนั้นมาปั้นแท่ง แล้วก็เขียนลบเพื่อลบเป็นผงอิทธิเจ ได้ผงอิทธิเจมาแล้วปั้นเป็นแท่ง เขียนลบเป็นผงตรีนิสิงเห จากผงตรีนิสิงเหได้มาก็ปั้นเป็นแท่ง แล้วลบเป็นผงมหาราช หลังจากนั้นก็ถึงจะเอาผงมหาราชมาปั้นแท่ง ลบเป็นผงพุทธคุณ เรียกว่าผง ๕ อย่าง
ตำราลบผงที่อาตมภาพเรียนมาตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งไม่ได้ตั้งใจเรียน เพราะว่าพระครูแสงท่านชอบเรื่องพวกนี้มาตั้งแต่เด็ก ถึงเวลาก็นั่งท่องคาถา นั่งเขียนยันต์ นั่งลบผงไปเรื่อย อาตมภาพถือว่าตัวเองเป็นคนความจำดี ท่านว่าอะไรมาก็จำได้หมด ปัจจุบันนี้พระครูแสงคงจะลืมไปเกลี้ยงแล้ว..! แต่ว่าสมัยนี้ถามกูเกิลได้ ตำรามีข้างในกูเกิลเยอะแยะ เริ่มจาก "ปะฐะมัง พินทุกัง ชาตัง" ไล่ไปเรื่อย ก็คือเริ่มตั้งแต่หัวตัวนะ "ทุติยัง ทัณฑะเมวะ จะ" ถ้ามีโอกาสก็ลองไปศึกษากันดู
ในเรื่องของการลบผงนั้น โบราณเขาถือว่าช่วยให้ "ดีนอก" ก็คือวัตถุในการสร้างพระมีเนื้อหาดี แล้วการพุทธาภิเษกช่วยให้ "ดีใน" เพราะฉะนั้น..ส่วนใหญ่โบราณมักจะนิยมทั้งดีนอกและดีใน ในส่วนนี้เมื่อถึงเวลา จะรอดูวาระที่เหมาะสมเมื่อไรแล้วค่อยออกให้บูชา เพราะว่าระยะนี้แต่ละคนก็ต้องบอกว่า โดนเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ เล่นเอาจนแทบจะยืนไม่ติดไปตาม ๆ กัน
#เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๔

วิธีการชำระเงิน

บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ออมทรัพย์
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขากองบัญชาการกองทัพบก ออมทรัพย์
  • ค่าธรรมเนียม 3.9% + 11 THB
  • การชำระผ่าน PayPal คุณไม่จำเป็นต้องแจ้งชำระเงิน เนื่องจากระบบจะจัดการให้คุณทันที ที่คุณชำระเงินเสร็จสมบูรณ์

CATEGORY

       เพิ่มร้านณัชชาเป็นเพื่อน    
       ด้วย QR Code
ด้านล่างนี้  

       บัญชีร้านณัชชา      

CONTACT US

0851242951

STATISTICS

หน้าที่เข้าชม1,996,665 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด1,263,780 ครั้ง
เปิดร้าน12 ก.ค. 2558
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

MEMBER

พูดคุย-สอบถาม