เหรียญหลวงปู่โต๊ะ รุ่นซื้อที่ดิน วัดถ้ำสิงโตทองจัดสร้าง
เนื้อทองทิพย์ซาติน หลังเรียบ ตอก ๙ รอบ สร้าง ๕๐๐ เหรียญ เลข ๑๓
"ในวันนี้หลังจากที่ได้ทำการหล่อรูปของหลวงปู่เรียบร้อยแล้ว คำว่าเรียบร้อยในที่นี้ ก็คือเสร็จในส่วนของศีรษะตามที่กำหนดเอาไว้ กระผม/อาตมภาพก็ต้องเข้าโบสถ์ไปปลุกเสกเหรียญหลวงปู่โต๊ะ รุ่นซื้อที่ดินวัด ซึ่งหลวงพ่อดำท่านมีดำริที่จะขยายที่วัด แต่ว่าก็เป็นเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะว่าทุกคนที่ขายที่ให้วัด ไม่ว่าจะวัดไหนในประเทศไทยก็ตาม มักจะคิดราคาแพงกว่าการประเมินของทางราชการไปหลาย ๆ เท่า ประมาณว่า "เห็นว่าพระรวย" ว่าอย่างนั้นเถอะ..!
เมื่อเข้าไปก็เจอพระเกจิอาจารย์หลายต่อหลายรูปที่รู้จักคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว กราบทักทายกันเสร็จกระผม/อาตมภาพก็เข้าสู่ที่นั่ง ทำพิธีปลุกเสกกันต่อไป ระหว่างที่พระมหานาคเจริญบทพุทธาภิเษกนั้น กระผม/อาตมภาพก็ยังแปลกใจ เพราะว่าปกติแล้วถ้าเข้าสมาธิก็จะไม่ได้ยินอะไร แต่ว่างานนี้ได้ยินเสียงพระมหานาคสวด แม้ว่าเสียงจะเบา แต่ว่าไพเราะมาก
กระผม/อาตมภาพจึงตั้งใจส่งใจตามคำสวดไปด้วย กำหนดใจขอบารมีองค์สมเด็จสัมพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย โดยมีหลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ วัดประดู่ฉิมพลี เป็นที่สุดไปด้วย ได้โปรดเมตตาอนุเคราะห์สงเคราะห์ในวัตถุมงคลรุ่นนี้ เมื่อพระท่านอนุญาตแล้ว หลวงปู่โต๊ะท่านก็มาทำพิธีให้ด้วยตนเอง
กระผม/อาตมภาพซึ่งระยะนี้ สงสัยอยู่ในเรื่องที่วัตถุมงคลเสด็จกลับ คำว่า "เสด็จกลับ" ในทีนี้ก็คือวัตถุมงคลหลายต่อหลายชิ้น ที่ให้ไอ้ตัวเล็กเอาไปออกในกระทู้ต่าง ๆ เพื่อร่วมในกองบุญการกุศลของวัด ปรากฏว่าวัตถุมงคลที่รับไปแล้ว มีการหนีกลับมา จึงทำให้กระผม/อาตมภาพสงสัยว่ามาได้ในลักษณะอย่างไร ?
หลวงปู่ท่านอธิบายเป็นวิทยาศาสตร์มาก ท่านบอกว่าก็แค่วัตถุมงคลแปรสภาพจากวัตถุกลายเป็นพลังงาน แล้วก็ไปยังสถานที่ที่ตนเองต้องการ ไปในลักษณะของคลื่น ก็คืออาศัยแรงกระเพื่อมส่งไป เมื่อไปถึงสถานที่ซึ่งต้องการแล้ว ก็กลับกลายเป็นวัตถุตามเดิมไปเท่านั้นเอง แล้วท่านก็อธิบายต่อว่า แบบเดียวกับวิชานะปัดตลอด ที่เราจะต้องตบแผ่นทองให้ทะลุวัตถุได้ ก็แค่ตบทองให้เปลี่ยนจากวัตถุเป็นพลังงาน เมื่อทะลุวัตถุอื่นลงไปแล้ว ค่อยกลับคืนเป็นวัตถุ คือเป็นแผ่นทองตามเดิม
เมื่อฟังลักษณะนี้แล้วกระผม/อาตมภาพก็เข้าใจ จึงกราบเรียนถามต่อไปว่า "แล้วในลักษณะของไสยศาสตร์ที่เขาเสกของใหญ่ ๆ อย่างเช่นว่าหนังควายทั้งผืนให้ไปเข้าท้องชาวบ้านละครับ ?"
ท่านบอกว่า "นั่นก็อยู่ในลักษณะเดียวกัน แต่เนื่องจากว่าผู้ที่ฝึกวิชาไสยศาสตร์นั้น ส่วนใหญ่แล้วนำไปใช้ในทางที่ผิด สภาพจิตไม่ได้ประกอบด้วยอุเบกขาอย่างแท้จริง จึงไม่สามารถที่จะทำถึงที่สุดได้ แค่เปลี่ยนวัตถุใหญ่ ๆ ให้เล็กเป็นฝุ่น แล้วก็อาศัยแรงอากาศเคลื่อนที่ หรือที่เรียกภาษาชาวบ้านว่าลมเพลมพัดส่งไป"
ถ้าหากว่ากำลังจิตจดจ่อให้มุ่งไปหาคนใด ก็จะมุ่งไปหาคนนั้น ถ้าไม่ได้จดจ่อมุ่งไปหาคนใด เป็นการปล่อยออกแค่ที่จะระบายความร้อนวิชาของตน วัตถุนั้นจะพุ่งไปปะทะบุคคลที่ดวงตก หรือพูดง่าย ๆ ว่า ช่วงวาระกรรมส่งผล ก็จะเกิดอาการ "ต้องลมเพลมพัด" หรือว่าบางทีหาบุคคลที่วาระกรรมส่งผลไม่ได้ ก็จะกระทบโน่นกระทบนี่ไปเรื่อย
จนกระทั่งมีผู้ที่เคราะห์ไม่ดี ส่งเสียงทักขึ้นมา จึงจะเข้าสู่บุคคลนั้น เมื่อเข้าไปแล้วก็ขยายตัว จากขนาดเล็กเป็นฝุ่นผง กลับคืนสู่สภาพตามเดิม อย่างเช่นว่า กลับคืนมาเป็นตะปูบ้าง กลับคืนมาเป็นหนังควายบ้าง เป็นต้น
เราจะเห็นได้ว่า ในส่วนของพลังงานบริสุทธิ์ ก็คือพลังจิตที่พระเถระครูบาอาจารย์ท่านบรรจุลงในวัตถุแท้ ๆ สามารถที่จะเปลี่ยนวัตถุทั้งชิ้นให้กลายเป็นพลังงานไปด้วยกัน เพราะว่าสสารทุกอย่างนั้น แกนกลางก็คือพลังงาน เป็นการจับตัวกันของอะตอมระหว่างโปรตอน อิเล็กตรอนกับนิวเคลียส จนกระทั่งหลาย ๆ อะตอมรวมกัน หนาขึ้นมาเป็นวัตถุ เมื่อกลับคืนเป็นพลังงานตามเดิมแล้ว ก็สามารถที่จะเคลื่อนไปที่ได้โดยอาศัยการกระเพื่อม ในเมื่อกระเพื่อมในลักษณะเป็นคลื่นส่งตัวเองออกไปถึงสถานที่แล้ว ค่อยกลับคืนเป็นวัตถุตามเดิม
ส่วนของไสยศาสตร์นั้นไม่สามารถที่จะเปลี่ยนวัตถุเป็นคลื่นได้ทั้งหมด เพราะว่ากำลังใจของผู้ทำไม่บริสุทธิ์พอ จึงสามารถทำได้แค่การย่อวัตถุใหญ่ให้เล็กลงเหมือนกับฝุ่นผง แล้วก็ปล่อยให้ลอยไปตามลมตามอากาศ เคลื่อนที่ไป ผู้ใดเคราะห์ร้าย มีเวรมีกรรมเนื่องกันมา หรือว่าวาระกรรมส่งผลพอดี ผู้นั้นก็จะรับไป
เมื่อคลายสงสัยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ดูหลวงปู่ท่านทำการเสกวัตถุมงคล ซึ่งก็คือการใช้พลังงานสอดแทรกเข้าไปในใจกลางของวัตถุ จนกระทั่งพลังงานทุกอย่างประสานกลมกลืนกันหมดแล้ว ถ้าดูด้วยทิพจักขุญาณ ก็จะเห็นความสว่างไสวเสมอกันหมด หลวงปู่ท่านก็บอกว่า "เสร็จเรียบร้อยแล้ว" กระผม/อาตมภาพจึงทำน้ำมนต์ พรมรอบบริเวณพิธีแล้วโปรยดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชา
ในส่วนที่ลืมไม่ได้ก็คือเทียนน้ำมนต์หรือเทียนชัยนั้น แต่ละงานกระผม/อาตมภาพจะปั้นเป็นลูกอมเทียนชัย ๑ ลูก ความตั้งใจของตนก็คือว่า จะทำเป็นประคำลูกอมเทียนชัย ถ้าหากว่าครบ ๑๐๘ ลูก ก็แปลว่าตนเองได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกหรือว่าปลุกเสกวัตถุมงคลมา ๑๐๘ ครั้งแล้ว แต่ว่าไม่สามารถที่จะเก็บได้ครบสักครา เพราะว่าได้แค่ไม่กี่ลูกก็จะโดนเจ้าตัวเล็กล้วงย่ามเอาไปลงกระทู้เสียก่อนเสมอ
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๖
https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=9232
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com
#ชุมชนคุณธรรม #วัดท่าขนุน #watthakhanun
#ig: wat.thakhanun
#tiktok: @watthakhanun
#ชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน
#ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนด้วยพลังบวร
#พระพุทธศาสนาช่วยโลก #พระสงฆ์ช่วยสังคม
#พระครูวิลาศกาญจนธรรมดร #พระครูวิลาศกาญจนธรรม #พระอาจารย์เล็ก #หลวงพ่อเล็ก