สมเด็จองค์พระปฐมบรมปัจเจกพุทธเจ้า หลวงพ่อเอก เขาธัมมสรณ์

องค์พระปฐมบรมปัจเจกพุทธเจ้าในพิธีนี้ ท่านเมตตาให้พรไว้อย่างไรบ้างเจ้าคะ

หลวงพ่อ : "ท่านบอกว่า ไอ้ที่ลำบากก็ให้หายลำบาก ที่ว่าขัดเคืองในทุกสิ่งทุกอย่างให้มลายหายไปทั้งหมด ให้มีแต่ความสำเร็จสมประสงค์ เป็นมหาลาภอย่างที่เธอทั้งหลายหวังไว้ พอเสร็จแล้วท่านก็สั่ง เอ้าเต็มแล้วลูก! พอได้แล้ว ก่อนจักเลิกท่านให้ว่าบทพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ อีก ๓ จบ พ่อก็ว่าตามนั้น พอเสร็จแล้วท่านก็ลุกขึ้น คำว่าลุกขึ้นก็คือ ออกจากอกพ่อข้างบนนี่นะ แหวกเป็นแนว แผ่ไปรอบปะรำวัตถุมงคลในพิธี โอ๊ย! พูดไม่ถูก สมเด็จพ่อพระพุทธเจ้าเยอะมากๆๆ นี่แหละท่านเมตตามากนะ นี่ทุกอณูเลยนะ ท่านแผ่มาถึงหมดในเขตวัดเราทั้งก้อนหินดินหญ้า ท่านทำหมดทุกอย่างเลยนะ ท่านชี้ไปที่เรือนเก็บวัตถุมงคล แล้วถามว่า นี่วัตถุมงคลด้วยใช่มั๊ย ท่านทำให้หมดเลยนะ ทุกอย่างเลย เพราะเหมือนกับว่า มันเหลือเฟือ พลังท่านเต็มไปหมด ก็เลยลงมาข้างล่างด้วย ขึ้นชื่อว่าของใดในพิธีไม่มีจิตไม่มีวิญญาณท่านก็ทำ ปลุกให้มีวิญญาณมีธาตุ มีธรรมขึ้นมาทั้งหมด แล้วจากนั้นสมเด็จพ่อพระปฐมบรมปัจเจกฯ ท่านก็เข้ามาชะโงกพระพักตร์มองที่โถซึ่งตั้งอยู่ในพิธี แล้วท่านก็แย้มพระโอษฐ์งามมาก ตรัสบอกว่า “อันนี้ธาตุธรรมพ่อนะลูก”

ตามมาติดๆ กับเรื่องเล่าหลังพิธีพุทธาภิเศกองค์พระปฐมบรมปัจเจกพุทธเจ้าที่ผ่านมา

หลังจากเสร็จพิธี แอดมินและทีมงาน เจ้าหน้าที่ ได้เข้าไปน้อมถวายปัจจัยหลังจากพระคุณหลวงพ่อเอกอธิษฐานจิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และแน่นอนแอดต้องไม่พลาดค่ะ เรื่องแบบนี้ถ้าไม่กราบเรียนถาม พระคุณหลวงพ่อก็ไม่ยอมเล่าแน่นอน พระคุณหลวงพ่อจะยึดคตินี้ประจำองค์เสมอ “ถ้าเขาไม่ถาม อย่าตะกราม ตะกละกล่าว”

จากนั้นพระคุณหลวงพ่อได้เมตตาเล่านิมิตในพิธีให้ฟังว่า “ตั้งแต่อธิษฐานวัตถุมงคลมา นี่เป็นเป็นครั้งแรกในชีวิตพ่อเลยนะ ที่ท่านสั่งให้วางอารมณ์จิต พร้อมคุมกำกับพ่อ ให้ทำวิชชาซ้อนวิชชาทับทวีไปแบบนี้"

ไม่ต้องห่วงค่ะ แอดฟังแค่นี้ก็มึนแล้วค่ะ “วิชชาซ้อนวิชชาทับทวี” แอดมินจึงเรียนถามพระคุณหลวงพ่อว่าเป็นอย่างไรเจ้าคะ

พระคุณหลวงพ่อเมตตาเล่าว่า “พอพ่อเริ่มกำหนดใจอธิษฐาน ก็ฝันไปว่า #องค์สมเด็จพ่อพระพุทธทีปังกรเสด็จมาในเรือนมหาลาภ บอกกับพ่อว่า.. ไป ขึ้นไปข้างบนกันลูก ก็ปรากฏว่ามีแผ่นอะไรกลมๆ ๒ แผ่น มันออกมาจากใต้โต๊ะที่วางประดิษฐานพระบรมรูปฯ แล้วเหมือนติดปีกอยู่กับโต๊ะ พาให้โต๊ะนี้ พร้อมเครื่องราชวัตร ฉัตรธง ขันสาคร ข้าวของในพิธี ขึ้นไปข้างบนด้วยทั้งหมด เมื่อไปถึงข้างบนก็เห็นปะรำพิธีวัตถุมงคล ราชวัตรฉัตรธง ตั้งพร้อมอยู่อีกชุดนึงแล้ว แต่เป็นแก้วแพรวพราวเป็นระยับงดงามมาก ไอ้ ๒ แผ่นกลมๆ นั่นก็บินว่อนไปแปะข้างกลองใหญ่ทั้ง ๒ ข้าง เอ๊า! พ่อถึงได้รู้ว่าไอ้พี่เดี่ยว (หลวงพี่เดี่ยว) มันแอบเอาหนังกลองเพลซุกเศกไว้ใต้โต๊ะด้วย

ข้างบนนี้ สมเด็จพ่อองค์ปฐมทรงนั่งประทับเป็นประธาน พร้อมทั้งองค์สมเด็จพ่อพระผู้มีพระภาคเจ้าอีกมากมายหลายพระองค์นับไม่ถ้วนเลย พ่อมองไม่หมด เพราะสุดลูกตาพ่อ ก็ยังเห็นเป็นประกายพรึกเป็นทิวแถวเต็มเหยียดเลย พ่อก็เข้าไปกราบแทบพระบาทสมเด็จพ่อองค์ปฐม พร้อมกับกราบสมเด็จพ่อฯ ทุกๆ พระองค์ด้วย จากนั้นเหมือนมีแรงดึงดูดมหาศาลดึงพ่อเข้าไปข้างในพระวรกายของสมเด็จพ่อองค์ปฐม พ่อจึงเห็นทุกอย่างเบื้องหน้าชัดเจน ก็ปรากฏสมเด็จพ่อพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ซึ่งก็คือ องค์สมเด็จพระปฐมบรมปัจเจกพุทธเจ้า นั่นล่ะ ทรงอยู่ท่ามกลางปัจเจกพุทธเจ้าอีกมากมายหลายพระองค์ ทรงเด่นเป็นสง่า พระรูปพระโฉมงดงามมากๆ ทรงแย้มพระโอษฐ์น้อยๆ ขนาดพระวรกายองค์ท่านสูงกว่าสมเด็จพระพุทธเจ้าบางพระองค์ด้วย พร้อมกันนั้นสมเด็จพ่อองค์ปฐมก็ทรงกวักพระหัตถ์ตรัสเรียกสมเด็จพ่อพระปัจเจกฯ องค์ท่านก็เข้ามากราบนมัสการ แล้วก็เสด็จวูบบบเข้ามาในอกพ่อ ซึ่งก็ซ้อนอยู่ในพระวรกายของสมเด็จพ่อองค์ปฐมอีกทีนึง ครานี้องค์พระปัจเจกพุทธเจ้าที่เหลือซึ่งมาประทับรออยู่ก่อนแล้วเต็มพระนิพพาน ก็วูบบบเข้ามาในกลางท้องพ่ออีกนับไม่ถูกไม่ถ้วน เพราะเร็วมากๆๆ พระฉัพพรรณรังษีสว่างจ้าเป็นประกายพรึก จากนั้นองค์สมเด็จพ่อพระผู้มีพระภาคเจ้าทุกพระองค์ทั้งหมดในพระนิพพาน ก็มาวูบบบบเสด็จเข้ามาครอบประทับในพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์ปฐมอีกทีนึง ซึ่งซ้อนทับครอบตัวพ่อที่กำลังอยู่ในพระวรกายสมเด็จพ่อองค์ปฐมนี่ล่ะ ประทับซ้อนกันเร็วมากกกๆๆ นับไม่ถูกไม่ถ้วนเลย แล้วทุกๆ พระองค์ที่ประทับครอบพ่ออยู่ก็ดี ประทับซ้อนอยู่ในกายพ่อก็ตาม ต่างพร้อมกันเปล่งฉัพพรรณรังสีพุ่งออกมาเป็นลำใหญ่ สว่างจ้ามาก พุ่งไปที่พระบรมรูปฯ ทั้งหมด

วัตถุมงคลทุกอย่าง เป็นประกายพรึก สว่างจัด พร้อมกันกับในขณะนั้นก็มีพระพรหมองค์หนึ่ง สว่างจ้ามาก มาตีกลองใหญ่ ตึ้งๆๆๆ รัวดังลั่นทั่วพระนิพพานเลยทีเดียว บรรดาาพรหมเทวดาทั้งที่อยู่ข้างบนและเบื้องล่าง ต่างพร้อมใจกัน สาธุ พร้อมกันทั้งหมด เข้าใจมั๊ยลูก? (ตอนนี้ทั้งแอดมินและเพื่อนๆ พี่ๆ ที่นั่งฟังอยู่ด้วยยอมรับว่ามีงงค่ะ ลูกหลานยังปฏิบัติภาวนาไปไม่ถึงไหนเลยค่ะ ใครจะลอกเลียนแบบก็ได้นะคะ แต่ต้องฝึกทำให้ถึงค่ะ)

เสร็จแล้วท่านก็ให้ดูของในพิธี ท่านบอกพระคาถาภาวนาแต่ละบท บทนี้มหาลาภ บทนี้คล่องตัวง่าย บทนี้ร่ำรวยใหญ่ บทนี้กำหราบศัตรู บทนี้คุ้มครองป้องกัน บทนี้ทำน้ำมนต์กำจัดโรค ฯลฯ อันนี้ให้ว่าบทนี้ๆๆ วัตถุมงคลแต่ละอย่างที่เข้าพิธีในวันนี้ก็จะมีบทเฉพาะลงไป วันนี้ท่านให้หลายบทมากลูกเอ๊ย! ( แอดมินเห็นพระคุณหลวงพ่อนับประคำหลายรอบมากค่ะ) พ่อมีความรู้สึกว่าทำไม่นานนะ! เพราะว่าคุณพระท่านทำเร็ว เป็นประกายพรึกหนาไปทั้งหมด เป็นทั้งลาภสักการะ คุ้มครองภยันตรายทั้งปวงด้วย ท่านบอกว่าอันข้างหน้านี้ที่เป็นสีดำๆ (ชิ้นไม้พญางิ้วดำเก่าแก่ มีเพชรหน้าทั่งเกาะ) ท่านทำให้เป็นขุนคลังนะ เป็นของงอกเงย นำไปไว้ในบ้าน ทรัพย์สินเงินทองก็จักงอกเงย คือทรัพย์สมบัติที่มีก็จักเจริญรุ่งเรืองงอกเงย ท่านเรียกขุนคลังเลยล่ะ! ทั้งพระบรมรูปฯ ทั้งเหรียญพระปัจเจกฯ ทั้งมงคลวัตถุทั้งปวงนี้ สว่างไสวมาก ขึ้นเป็นประกายเพชรแสงหนาทึบมาก ล้นไหลลงมาคลุมอาณาเขตที่พักสงฆ์ทั้งหมด วัตถุมงคลทุกอย่างที่มีอยู่ในเรือนมหาลาภก็ดี ที่แขวนอยู่ในคอดี วัตถุมงคลในกุฏิพระ ที่พักโยมก็ตาม รถยนต์ที่จอดอยู่ ต้นไม้ใบหญ้า หิน ดิน ทรายในเขตวัดเรานี่เป็นแสงประกายเพชรระยิบระยับหนาทึบล้นไปหมด ท่านทำกันเต็มที่ เศกให้ทุกอย่างเต็มที่เลยล่ะลูก”