พิธีหล่อและสร้างพุทธาภิเษกพุทธาภิเษก นำเข้าพิธี วาระ
วันอาทิตย์ที่ 2 เมษายน 2566
มอบแด่ผู้ร่วมบุญซื้อที่ดินกับทางสำนัก
ประธานบวงสรวง และ จุดเทียนชัย โดย
พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก )
วัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
ดับเทียนชัย โดย
ท่านพ่อมนัส มันตชาโต สำนักฝึกกัมมัฏฐานฟื้นฟูจิตบ้านคลองโป่ง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
ร่วมอธิษฐานจิตโดย
- พระครูวินัยธรอดิศร กันตสาโล สำนักสงฆ์อนันต์บูรพาราม
-ตุ๊พ่อมหาสิงห์ วิสุทโธ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน
-พระราชภาวนาพัชรญาณ
(ท่านเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย)
วัดเขาวงถ้ำนารายณ์ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
-พระปลัดเอกลักษณ์ ปัญญาคโม วัดพุทธพรหมยาน อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา
วันอาทิตย์ที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๕
รายชื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เมตตาอฐิษฐานจิต
- ท่านเจ้าคุณหลวงตา พระราชภาวนาพัชรญาณ วัดเขาวง ถ้ำนารายณ์ จ.สระบุรี
- พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก) เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
- พระครูสันติบูรพาทิศ (หลวงพ่อบุญเสริม) เจ้าคณะอำเภอบ้านฉาง วัดชากหมาก ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง
- พระครูวินัยธรอดิศร กันตสาโล สำนักสงฆ์อนันต์บูรพาราม
- พระครูสังฆรักษ์บุญส่ง อุปสโม วัดเขาแร่ในสังฆราชูปถัมภ์ สุโขทัย
ขณะทำพิธีพุทธาภิเษก
คำพูดหลวงพ่อเล็ก ในวันงานหล่อพระพุทธไสยาสน์ วาระที่ ๑
กระผมอาตมาภาพรับหน้าที่บวงสรวง บูชาพระรัตนตรัย เจิมเทียนชัย จุดเทียนชัย แล้วก็เริ่มเข้าสู่พิธีการพุทธาภิเษก
ซึ่งพระครูสังฆรักษ์ฬัสวัชร์ ฐิตสีโล เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมอนันต์บูรพารามนั้น ท่านก็ยึดหลักตามแบบของหลวงพ่อวัดท่าซุง ก็คืออาศัยคุณพระรัตนตรัยเป็นหลัก จึงได้นำญาติโยมทั้งหลายที่มาร่วมพิธีเจริญบทสรรเสริญพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณตามกำลังวัน แล้วต่อด้วยคาถาเงินล้าน ส่วนกระผมอาตมาภาพ เมื่อเข้าสู่อาจสนะที่เขาจัดไว้ก็กำหนดจิตขึ้นไปกราบขอบารมีพระ เทียนชัยจุดเทียนชัยแล้วก็เริ่มเข้าสู่พิธีการพุทธาภิเษกซึ่งพระครูสังฆรักษ์ฬัสวัชร์ ฐิตสีโล เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมอนันต์บูรพารามนั้นท่านก็ยึดหลัก ตามแบบของหลวงพ่อวัดท่าซุงก็คืออาศัยคุณพระรัตนตรัยเป็นหลักจึงได้นำญาติโยมทั้งหลายที่มาร่วมพิธีเจริญบทสรรเสริญพุทธคุณธรรมคุณสังฆคุณตามกำลังวัน แล้วต่อด้วยพระคาถาเงินล้าน
ส่วนกระผม/อาตมาภาพ เมื่อเข้าสู่อาสนะที่เขาจัดไว้ก็กำหนดจิตขึ้นไปกราบขอบารมีพระ เห็นพุทธะนิมิตหน้าตักใหญ่ถึงยี่สิบวา ครอบลงมาบริเวณพิธี เป็นอันว่าศาลาทั้งหลังอยู่ตรงกลางองค์พระพอดิบพอดี แล้วกระผม/อาตมา เมื่อกำหนดใจต่อไปก็เห็นพระรัศมีสีทองสว่างไสวพุ่งเป็นลำลงมาเต็มบริเวณพิธี ก่อนหน้านี้บางทีก็เห็นเป็นรูปองค์พระบ้าง บางทีก็เห็นเป็นแสงสว่างบ้าง แต่ว่าไม่ได้สงสัยอะไร แต่ว่าพอดีวันนี้ นั่งอยู่ข้างพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทางด้านขวานั้นท่านปู่ท่านย่าพร้อมกับพี่ ๆ หลายท่าน นั่งอยู่ กระผม/อาตมาภาพ จึงได้กราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า
“ ทำไมบางที่ถึงเป็นภาพพระพุทธะนิมิต ทำไมบางที่ถึงเป็นแสงสว่าง”
พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านหัวเราะแล้วเมตตาตอบว่า
“ แกมันโง่เอง เรียกง่าย ๆ ว่าใช้เป็นแต่ไม่เข้าใจว่าตนเองใช้อะไร การที่แกเห็นเป็นภาพพุทธะนิมิต เป็นการใช้เทพจักขุญาณทั่วไป แต่การที่แกเห็นเป็นแสงสว่างนั้น เป็นทิพพจักขุญาณ ในเจโตปริยญาณ ซึ่งแกเคยใช้ดูสี่ดูจิตทั้งของตนเอง และผู้อื่น คราวนี้ด้วยความที่ฝึกฝนญาณ ๘ มาจนครบถ้วน มันทำให้บางทีการใช้ก็เร็วจนกระทั่งตนเองลืมไปว่าใช้ในลักษณะอะไร”
ต้องบอกว่า ต้องบอกว่าญาณ ๘ นั้นหลัก ๆ เลย ก็คือ ทิพจักขุญาณ เมื่อได้ทิพย์จักขุญาณแล้ว
ถ้าหากว่าท่านใช้ในการดูอดีต เขาเรียกว่า อตีตังสญาณ
ถ้าใช้ในการดูอนาคต เขาเรียกว่า อนาคตังสญาณ
ถ้าใช้ในการดูปัจจุบันว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่ไหนในทุกมุมโลก หรือว่าในภพภูมิอื่นๆ เขาเรียกว่า ปัจจุปันนังสญาณ
ถ้าใช้ในการระลึกชาติ เรียกว่า บุพเพนิวาสานุสติญาณ
ถ้าใช้ในการดูว่าคน และสัตว์ก่อนเกิดมาจากไหน ถ้าตายแล้วจะไปไหนเรียกว่า จุตูปปาตญาณ
ถ้าหากว่าใช้ในการพินิจพิจารณาดูว่า คนและสัตว์แต่ละราย สร้างกรรมอะไรไว้ถึงเวลาจะได้รับผลกรรมอย่างไร เขาเรียกว่า ยถากรรมมุตาญาณ
ซึ่งในส่วนของญาณ ๗ อย่างนี้ ก็คือ ทิพพจักขุญาณ ทั้งสิ้นเพียงแต่ว่าเปลี่ยนวิธีการใช้ไปเท่านั้น”
กระผม/อาตมาภาพ เมื่อกระจ่างแจ้งแล้ว ก็ยังวอนหาไม้เท้า ด้วยกันถามต่อไปว่า
“ แล้วการดูหวยล่ะครับ เห็นละครับพระเดชพระคุณหลวงพ่อเมตตาตอบว่าเป็นการใช้ทิพพจักขุญาณในอนาคตังสญาณ แกจะตูไปนานกี่งวดก็ระบุให้ชัดเจนด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วมีโอกาสโดนหลอกสูงมาก
อย่างเช่นถามว่าหวยจะออกอะไร สมมติเค้าบอกว่า ๓ แล้วเราเองไปแทงปรากฏว่าผิด ก็เพราะเราไม่รอบคอบ ไม่ได้ระบุชัดว่าเป็นหวยของงวดใด วัน เดือน ปี อะไร เหล่านี้เป็นต้น”
ดังนั้นความรู้พิเศษที่ได้รับมาในวันนี้ ก็คือว่า ญาติโยมทั้งหลาย ตลอดจนกระทั่งพระภิกษุสามเณรที่ได้ทิพพจักขุญาณแล้ว ถ้าหากว่าท่านกำหนดใจดูเห็นเป็นภาพพุทธะนิมิต บ้างเห็นคนอื่นสัตว์อื่นบ้าง ท่านก็เข้าใจได้ว่านั่นคือการใช้ทิพจักขุญาณเป็นหลัก
แต่ถ้าหากว่าท่านเห็นเป็นแสงสว่าง เป็นดวง เป็นขีด เป็นแผ่น เป็นผืน ให้ท่านเข้าใจว่านั้นเป็นการใช้ทิพพจักขุญาณ ในเจโตปริยญาณเป็นต้น
เมื่อพระท่านตรัสว่าเต็มแล้ว ให้กลับลงไปได้ กระผม/อาตมาภาพ ก็กราบลาทุกท่าน ลงมาทำน้ำมนต์พรมรอบพิธี โปรยดอกไม้ ถวายเป็นพุทธบูชา นั่งรับศรัทธาญาติโยมทั้งหลายที่มาร่วมบุญด้วย แล้วก็มอบคืน ให้ท่านพระครูโก้ เพื่อนำเอาไว้ใช้จ่ายในสำนักปฏิบัติธรรมอนันต์บูรพารามแห่งนี้
แต่ว่าพระครูโก้รวบถวายกลับคืนมาทั้งหมด บอกว่าร่วมสร้างวิทยาลัยสงฆ์กับหลวงพ่อครับ แล้วกระผม/อาตมาภาพ ก็ได้บอกลาพระเดชพระคุณ ท่านเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย และหลวงพ่อบุญส่ง เดินทางกลับทันที
จากที่มา https://www.youtube.com/watch?v=3UHCXC3zcas&ab_channel=watthakhanun
ตั้งแต่ นาทีที่ 7.00 น.