เครดิตภาพและข้อมูลเว็บวัดท่าขนุน http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4887
"ท่านอานนท์ อานนฺโท เป็นลูกศิษย์ที่เรียน มจร. วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาฯ ท่านอยู่วัดบึงลาดสวาย วันนี้ท่านเอาวัตถุมงคลมาให้เสก เป็นพระอุปคุตชัยวัฒน์ คือพระอุปคุตองค์เล็ก ๆ มีส่วนผสมของ "แร่ขี้นกเขาเปล้า"
หลายท่านอาจจะไม่เข้าใจว่าแร่ขี้นกเขาเปล้าคืออะไร นกเขาเปล้าเป็นนกป่าชนิดหนึ่ง อยู่ในตระกูลนกพิราบหรือนกเขานั่นแหละ นกเขาเปล้ากับนกเขาเขียว แม้จะเขียว ๆ เหมือนกันแต่คนละเรื่องกันเลย เพราะนกเขาเขียวจะเขียวเข้มมาก ส่วนนกเขาเปล้าจะเป็นสีเขียวอ่อนและมีสีเทา สีม่วง และสีชมพูแทรก
นกเขาเปล้าชอบลงกินดินโป่ง ไม่ทราบว่าลงไปกินเอาแร่โลหะบางอย่างเข้าไปหรืออย่างไร ? ทำให้ขี้นกเขาเปล้าจะมีธาตุโลหะผสมอยู่ พวกเล่นแร่แปรธาตุในอดีตมีความรู้ในเรื่องนี้ก็ จึงไปเก็บรวบรวมเอามาหลอม เอาโลหะที่ตกค้างมาสร้างวัตถุมงคลบ้าง หรือมาเล่นแร่แปรธาตุบ้าง แร่ขี้นกเขาเปล้าที่หลอมมาได้มีลักษณะคล้าย ๆ ตะกั่ว แต่จะมีเหลือบสีน้ำเงิน คล้ายกับเหลือบรุ้ง
โยมที่อยู่ร่วมพิธีจะเห็นว่าท่านขนมาเป็นคันรถเลย ขอยืนยันว่า แค่ผสมแร่ขี้นกเขาเปล้าลงไป เพราะถ้าขนมาเป็นรถขนาดนั้นแล้วทำจากแร่ขี้นกเขาเปล้าทั้งหมด คงต้องเคี่ยวขี้นกหลายสิบตันกว่าจะได้โลหะพอ ซึ่งโอกาสจะรวบรวมได้สักกิโลกรัมหนึ่งก็ยากแล้ว
ตอนเสกอาตมาก็ถามพระท่านด้วยว่า พิธีกรรมพรุ่งนี้จะให้จัดอย่างไรบ้าง ลืมตาขึ้นมา เฟิร์สบอกว่าวัตถุมงคลเต้นได้ครับ แต่อาตมาไม่ทันรู้ตัว ถ้าขืนปล่อยให้เต้นบ่อย ๆ เดี๋ยวอาตมาตายเร็ว ถ้าใครต้องการวัตถุมงคลรุ่นนี้ไปหาที่วัดบึงลาดสวายนะ บอกว่าเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์เล็ก ขอราคาพิเศษหน่อย อาจจะได้ราคาแพงเป็นพิเศษ..!
๑๐๐ องค์นี้จะให้ "ตัวเล็ก" เอาไปลงในกระทู้ทำบุญงานอุปสมบทหมู่ ๑๐๐ ปีหลวงพ่อวัดท่าซุง ไปแย่งกันในนั้นก็แล้วกัน เป็นกระทู้ที่ร้อนแรงมาก ลงอะไรไปหมดเกลี้ยงทุกที"
เก็บตกบ้านวิริยบารมีต้นเดือน มี.ค. ๕๙
งานพุทธาภิเษกรอบพิเศษ (ฝ่าวิกฤติ) ณ บ้านวิริยบารมี
"วันนี้ถือว่าเป็นงานพิเศษ ถ้าหากเป็นสำนวนของทิดกวางก็คืองานสัมภเวสี ก็คือร่อนเร่มาเองโดยไม่เจตนา ตุ๊พ่อสิงห์ท่านเตรียมวัตถุมงคลไว้เข้าพิธีงานเป่ายันต์เกราะเพชร แล้วโดนอาตมายกเลิก ...(หัวเราะ)... อาตมาไม่ได้ยกเลิกนะ เพียงแต่คำสั่งเจ้านายบอกว่า ให้พระอุปัชฌาย์ใหม่ไปเข้ากรรมฐานหน่อย ความจริงต้องบอกว่าคำสั่งเจ้านายให้ไปพักผ่อน
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น งานเป่ายันต์ฯ มีไม่ได้ วัตถุมงคลที่ท่านให้ลูกศิษย์จองอยู่ไม่สามารถเข้าพิธีได้ จำหน่ายไม่ได้ เงินก็ไม่เข้าวัด ถ้าเงินไม่เข้าวัดนี่ปัญหาใหญ่เลย เพราะว่าตุ๊พ่อท่านกำลังสร้างพระจุฬามณีอยู่ และในขณะเดียวกัน การสู้คดีเกี่ยวกับที่ดินวัด ก็จ่ายค่าทนายไปเยอะ แล้วส่วนที่จ่ายไปก็คือเงินสงฆ์ ทุกวันนี้ตุ๊พ่อพยายามหายใจเข้าไว้...ยังตายไม่ได้...เพราะเป็นหนี้สงฆ์อยู่ จึงโทรมาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี ? อาตมาก็ต้องช่วยแก้ปัญหาตามประสาน้องที่ดี
เมื่อกราบเรียนถามครูบาอาจารย์ ถามพระท่านแล้ว ท่านก็บอกว่าทำได้ จัดงานพุทธาภิเษกขึ้นมาสิ ปรากฏว่าจัดไปจัดมาหน้าตาออกมาอย่างที่เห็น อาตมาเองก็งง ๆ อยู่เหมือนกัน คือคำสั่งมาทีละอย่างสองอย่าง ไปเรื่อย ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมท่านให้เอามีดหมอที่มีอยู่มาทั้งหมดเลย"
"เล่มถัดลงมาติดกับพระขรรค์ คือมีดหมอหลวงปู่บุญมี วัดเขาสมอคอน จังหวัดลพบุรี เรียกว่ามีดหมอปราบไพรี สมัยหลวงปู่บุญสร้างใหม่ ๆ คนไม่ได้อยากได้กันหรอก หลวงปู่แจกให้ เขาก็เอาไปทิ้งกอง ๆ ไว้แถวหน้าโบสถ์ คนสมัยก่อนนี่ดีจริง ๆ เลย...! ปรากฏว่ามีคนเมาเห็นกองมีดหมออยู่ ก็พูดว่า "หลวงพ่อมีแน่แค่ไหนวะ ? ถึงบังอาจทำมีดหมอออกมา" ว่าแล้วก็ชักปืนยิงเสียงเปรี้ยง...! สนั่น ยิงออก..แต่มือเละ ปืนแตกคามือเลย แล้วมีดหมอกองนั้นก็แสดงปาฏิหาริย์หายวับไปกับตา ไปขอใหม่หลวงปู่ท่านก็ไม่ให้แล้ว
เล่มถัดมาที่อยู่ใต้พระขรรค์ คือ มีดหมอหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตารามหรือที่ชาวบ้านเรียกวัดบ้านแค ชื่อมีดหมอมนต์พระกาฬ เล่มนี้วันเอามา หนีไปนอนที่ไหนก็ไม่รู้ ? จนอาตมาคิดว่าคนเอามาลืมหรือเปล่า ? ปรากฏว่าพอถึงที่แล้วก็นั่งยิ้มเผล่อยู่ตรงนั้น ไม่ได้ไปไหนหรอก ท่านล้อเล่นแค่นั้น วัตถุมงคลของหลวงพ่อกวยท่านห้ามด่าแม่เด็ดขาด ใช้วัตถุมงคลหลวงพ่อกวย ถ้าด่าแม่เมื่อไรบางทีวัตถุมงคลท่านแตกคามือเลย ก็คือไม่ให้ใช้ต่อ เพราะบังอาจด่าแม่ที่เคารพ ถามว่าหลวงพ่อกวยเป็นใคร ? ท่านเป็นเจ้าของคาถา "นะโมตาบอด" ที่อาตมาเรียนมา
เล่มล่างสุดนี่ของพระอาจารย์โดยตรง มีดหมอดาบฟ้าฟื้น หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง ห้ามจิ๊กนะ..!"
"ส่วนพานล่างที่วางอยู่บนผ้าขาว ๓ เล่มนั่นของหลวงปู่รุ่ง วัดหนองสีนวล ทั้งหมดเลย แปลว่าอาตมามีมีดหมอของหลวงปู่รุ่งอยู่ ๔ เล่ม
ถัดมาด้านล่างก็คือมีดหมอเพชราวุธ แต่เล่มนี้พิเศษตรงที่ด้ามเป็นงากวัก ฝักเป็นงางอก เคยได้ยินไหม ? งากวักก็คืองาช้าง ซึ่งปกติแล้วงาช้างจะแหลมยาวออกไปเฉย ๆ แต่งากวักคือปลายจะงอกลับเหมือนตะขอ พอดีทำด้ามมีดเลย ส่วนงางอกคืองาช้างที่มี "คด" งอกอยู่ข้างในโพรงงา
ส่วนด้ามตรงกลางเล่มใหญ่ ตุ๊พ่อสิงห์ท่านกำลังหมายตาอยู่ คือ พระขรรค์โสฬส ๘๔ พรรษาธรรมิกราช ที่อาตมาสร้างถวายในหลวงเพื่อประคองให้พระองค์ท่านอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
ส่วนแก้วสีเขียว ๆ นั่น ท่านปู่พระอินทร์ประทานมาให้เรียกว่า "แก้วอินทนิล" ถามว่าทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วย ? ท่านบอกว่าที่ต้องจัดพิธีขนาดนี้ เพราะอีก ๔ วัน ตามตำราโหราศาสตร์ ดาวมฤตยูจะทับดวงเมือง สยดสยองไหม ? ถ้าไม่ทำพิธีแบบนี้อาจจะมีเลือดนองท้องช้าง..! แล้วถามว่าประโยชน์ทางด้านอื่น ท่านบอกว่าปีนี้เศรษฐกิจแย่มาก ๆ
ฉะนั้น...รุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นวัตถุมงคลรุ่นฝ่าวิกฤติก็แล้วกัน คนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่าง เพราะว่าพวกเราพกอาวุธมาเต็มตัวขนาดนี้ต้องไปได้ ไปได้ยังไม่พอนะ แก้วอินทนิลของท่านเองนี่เด่นเรื่องมหาลาภ มหาปราบ เรื่องนี้ท่านจะถนัดมาก ก็แปลว่าไปรอดแล้วยังต้องรวยอีกด้วย"
"ถ้าถามว่าวัตถุมงคลที่เข้าพิธีวันนี้มีอะไร ? ก็มีขอสับช้างของวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ที่เป็นต้นเรื่องเลย มีขนาดใหญ่กับขนาดเล็ก ตุ๊พ่อท่านบอกว่าเหลือไว้ให้อย่างละ ๑๐๐ นอกนั้นเขาจองไว้แล้ว ขนาดเล็ก ๙๐๐ บาท ขนาดใหญ่ ๑,๒๐๐ บาท ขึ้นราคาหน่อยได้ไหม ? ...(หัวเราะ)... หลังจากพุทธาภิเษกเสร็จ กราบเรียนตุ๊พ่อท่านว่าเอาจำหน่ายตรงนี้เลย โยมที่ต้องการจะได้ไม่ต้องไปจองในเว็บ ไม่ต้องไปถึงวัด มีอย่างละร้อยด้ามเท่านั้น ห้ามจองคนเดียว ๙๙ ด้าม..!
ส่วนของวัดท่าขนุนมีพระขุนแผนเกราะเพชร ที่จะออกในงาน ๑๐๐ ปีหลวงพ่อฤๅษี ขุนแผนรุ่นนี้ทำด้วยผงยานัตถ์ุของหลวงพ่อฤๅษีที่อาตมาเก็บสะสมไว้ ก็จะมีพิมพ์ใหญ่ ฝังตะกรุดหัวใจขุนแผน เนื้อทองคำ ๓,๐๐๐ องค์ เนื้อนาก ๓,๐๐๐ องค์ เนื้อเงิน ๓,๐๐๐ องค์ กำลังคิดว่าจะขูดรีดโยมเท่าไรดี ? ...(หัวเราะ)... ส่วนพิมพ์เล็กไม่มีตะกรุด เพราะว่าขนาดตะกรุดถ้าฝังลงไปแปลว่าล้นองค์พระ พิมพ์เล็กมี ๑๐,๐๐๐ องค์ เป็นเนื้อผงยานัตถุ์อย่างเดียว
แล้วก็มีวัตถุมงคลเก่าของวัด ก็มีเหรียญของขวัญปีใหม่ เนื้อตะกั่ว ๔,๐๐๐ เหรียญ ๔,๐๐๐ เหรียญนี่ตัวเล็กเอาไปออกในกระทู้งานอุปสมบทหมู่ ๑๐๐ ปีหลวงพ่อฤๅษีไปแล้ว ๑,๐๐๐ เหรียญ ใครจองไว้ถือว่าเฮงมากเลยเพราะตอนนั้นลดราคาให้ครึ่งหนึ่ง พอเอาเข้าพิธีแล้วคงต้องเพิ่มราคาขึ้นครึ่งหนึ่ง..!
แล้วก็มีเหรียญฉลองพระอุปัชฌาย์ เนื้อเงิน ๓,๐๐๐ เหรียญ ที่จองกันไป ๑,๐๐๐ เหรียญแล้ว เนื้อทองคำ ๓๐๐ เหรียญ จองกันไป ๑๐๐ กว่าเหรียญแล้ว ใครไม่ได้จองไม่ต้องเสียใจเพราะอาตมาตั้งใจขึ้นราคาอยู่แล้ว..!
แล้วก็มีผงงาช้าง ๖๐ กิโลกรัม จะเอาไว้สร้างพระ ผงงาช้างได้มาจากงาน OTOP ที่จังหวัดสุรินทร์ ปกติเขาขายกันแพงมาก แต่คณะของคุณหญิง (ณญาดา) ไม่รู้ไปตีซี้อีท่าไหน ? ไปโกยมาหมดเลย บอกว่าเอามาให้หลวงพ่อไว้สร้างพระ ซึ่งอาตมายังไม่มีอารมณ์จะสร้าง ยังนึกลูกเล่นไม่ออกว่าจะสร้างเป็นอะไรดี"
"เมื่อวานนี้ท่านอานนท์ วัดบึงลาดสวาย เอาพระอุปคุตชัยวัฒน์มาเข้าพิธี พระอุปคุตชัยวัฒน์รุ่นนี้สร้างด้วยเนื้อแร่ขี้นกเขาเปล้า ซึ่งถือว่าเป็นโลหะอาถรรพ์อย่างหนึ่ง ท่านถวายไว้ ๑๐๐ องค์ แล้วอาตมานำเอามาเข้าพิธีใหม่ เดี๋ยวไปแอบ ๆ ดูกันในกระทู้งานอุปสมบทหมู่ ๑๐๐ ปีหลวงพ่อฤๅษีก็แล้วกัน จะให้ "ตัวเล็ก" เอาไปออกให้บูชาในนั้น ถ้าใครไม่รู้จักแร่ขี้นกเขาเปล้าก็ไปค้นหาดู ในกูเกิ้ลน่าจะมีรายละเอียดอยู่
ส่วนของอื่น ๆ ก็น่าจะไม่มีอะไรแล้ว เพราะว่าท่านไม่ให้รับวัตถุมงคลอื่นเข้าพิธี ตั้งใจจะสงเคราะห์ตุ๊พ่ออย่างเดียว เดี๋ยวตอนทำพิธีก็อธิษฐานกันเอาเองตามอัธยาศัย ใครจะฝ่าวิกฤติมาก ฝ่าวิกฤติน้อย ก็อธิษฐานกันเอา"
"เวลาพระหรือครูบาอาจารย์ท่านสั่งให้ทำงาน งานบางอย่างก็แปลก ๆ ในความรู้สึกของพวกเรา แต่ว่าต้องทำ เพราะคำสั่งนี้ห้ามสงสัยเด็ดขาด ทำไปเถอะ...แล้วจะมีคำเฉลยทีหลังทุกที พอเฉลยมา บางทีก็นั่งงง ๆ ว่า อ๋อ...ที่แท้อย่างนี้นี่เอง งานนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นคุณความดีที่ตุ๊พ่อสิงห์ท่านกระเป๋าฉีก จ่ายเกินตัว ทำให้มีงานนี้ขึ้นมา ไม่อย่างนั้นจะมีงานอีกทีก็โน่น ๙ กรกฎาคมเลย ก็คืองานเป่ายันต์เกราะเพชร
ในเมื่อเรามีงานนี้ขึ้นมาก่อน ตามที่ท่านบอกเอาไว้ก็คือ อย่างน้อย ๆ ก็ช่วยผ่อนสถานการณ์ของประเทศชาติ จากหนักให้เป็นเบา เมื่อวานก็ยังสงสัยว่า ตอนปลุกเสกพระอุปคุตชัยวัฒน์แร่ขี้นกเขาเปล้าให้ท่านอานนท์ ทำไมพระท่านเต้นระบำได้ ? ที่แท้ท่านเตรียมเอาไว้สำหรับงานนี้ นาน ๆ อาตมาจะปลุกของให้เต้นได้สักที เพราะปกติแล้วตัวเองมักจะหลับ ต้องรอพระท่านมาปลุก...!
งานที่ปลุกของแล้วเต้นได้เห็น ๆ ก็คือ มีดหมอเพชราวุธ แล้วก็มางานนี้ เพราะว่าเรื่องพวกนี้ถ้าทำให้คนเห็นเป็นเรื่องที่ไม่ดีอย่างแน่นอน เพราะคนจะเห็นเป็นอัศจรรย์ แล้วต่อไปก็จะมากวนกันหัวไม่วางหางไม่เว้น"
"เนื่องจากพิธีครั้งนี้เป็นของพิเศษ ก็คือมาเองโดยมิได้นัดหมาย การพุทธาภิเษกวัตถุมงคลชุดนี้ก็คงจะไม่เหมือนใคร ในเมื่อไม่เหมือนใคร ก็คงไม่ต้องไปรอหาของใหม่ เพราะว่าเสกใหม่ก็ไม่เหมือน มีทางเดียวถ้าต้องการคือ บูชาวัตถุมงคลรุ่นนี้ไปเลย เสร็จแล้วก็ทำเครื่องหมายไว้ว่าเข้าพิธีชุดนี้
เมื่อเช้าอาตมาเขียนตะกรุดมหาสะท้อนเนื้อทองคำ ๒ ดอก รหัสไม่เหมือนใคร โค้ดงวดนี้ก็คือ ๕ - ๓ - ๕๙ คือวันนี้ ๕ มีนาคม ๒๕๕๙ มีแค่ ๒ ดอกในโลกเท่านั้นที่เป็นโค้ดนี้ โค้ดอื่นก็ไม่มี และตะกรุดมหาสะท้อนที่อาตมาเอาเข้าพิธีด้วยก็มีรุ่น ๕ เนื้อทองคำ ๔๖ ดอก และเนื้อเงิน ๔๔ ดอก แล้วที่เขียนใหม่ ๒ ดอก นอกเหนือจากนี้ก็ไม่มี ว่าจะไปเขียนติดซองเอาไว้ว่า ฝ่าวิกฤตกู้โลก ...(หัวเราะ)... เอาแค่ฝ่าวิกฤติก็พอนะ อย่าถึงกับกู้โลกเลย กู้โลกเดี๋ยวดอกเบี้ยจะเยอะ...!"
***************
พระอาจารย์กล่าวว่า “พิธีพุทธาภิเษกเมื่อวานที่มาเกิน คือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว อาตมาอาราธนาแค่เจ้าของมีดหมอ เพื่อนเจ้าของมีดหมอก็มาด้วย
หลวงปู่หลวงพ่อครูบาอาจารย์องค์จริง บางทีความสงบสำรวมทำให้รู้สึกว่าเคร่งขรึมน่ากลัว แต่พออยู่ในความเป็นทิพย์แล้ว บางทีท่านก็เล่นกันสนุกเฮฮาเลย สมัยก่อนมีหลวงปู่ทอง วัดเขากบ คนเขาชอบลองวิชากับท่าน เข้ากุฏิไปเสียงตึงตังโครมครามอย่างกับวางมวยกัน สักพักอีกฝ่ายก็กระเด็นปลิวออกนอกหน้าต่าง ไปยืนหัวเราะอยู่ที่ลานวัด ไม่มีใครรู้ว่าท่านทำอะไรกัน แต่เสียงดังอย่างกับคนวางมวยกันเลย”
***********************
ถาม : ตอนเสก ฐานกล่องวัตถุมงคลสั่นกรุบ ๆ ตั้งแต่อยู่มาเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก ?
ตอบ : อาตมาไม่ได้ทำอะไร นั่งเฉย ๆ จะเอากระโดดออกจากกล่องไหมเล่า ? ถ้าทำอะไรชัดเจนเกินไปสมัยนี้ตายเร็ว อย่างรุ่นครูบาอาจารย์เสกต้องให้โดดได้ก่อน รุ่นของเราถ้าเกิดว่าโดดได้เมื่อไร เดี๋ยวอีกไม่ถึง ๒ ชั่วโมงทั่วโลกได้ดูกันอุตลุด เอาไปแค่นั้นแหละพอแล้ว
ต้องบอกว่าท่านอานนท์ค่อนข้างจะมีสัญชาตญาณในเรื่องของวัตถุมงคล เมื่อปีที่แล้วท่านถวายมีดหมอของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตารามมาเล่มหนึ่ง วัดโฆสิตารามนี่ไปบอกชาวบ้านชาวบ้านไม่รู้จักหรอก เขาเรียกวัดบ้านแค ท่านเองก็ไปได้มีดหมอของหลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือมา
เมื่อวานตอนเดินทางมา พระท่านให้เอามีดหมอทั้งหมดที่มีมาด้วย ปรากฏว่าอาตมาไปนั่งทางด้านท้ายรถแล้วออกไม่ได้ ให้ "หมวยนี้" ไปยกพานใส่มีดหมอมา ปรากฏว่ามีดหมอหลวงพ่อกวยไม่ว่ารู้อันตรธานไปไหน รถก็วิ่งออกไปแล้ว ก็เลยคิดว่าไม่เป็นไร ท่านไม่มาก็แล้วแต่ท่านเถอะ พอมาถึงวัดกาญจนบุรีเก่า ไปกราบถวายฎีกาหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัด มีดหมอก็ยิ้มเผล่อยู่ตรงนั้น แต่ตอนแรกไม่มีแน่นอน แหม...น่าเหวี่ยงจริง ๆ
********************
พระอาจารย์สนทนากับหลวงพี่เอ (พระมหานันทวัฒน์ เขมธมฺโม) "เวลาป่วยหนัก ๆ นี่ผมเห็นประโยชน์ตรงที่ว่าเรารู้ว่าต้นทุนเรามีเท่าไร พร้อมที่จะไปหรือยัง ? ป่วยขึ้นมาแต่ละทีนี่ไม่อยากกลับเลย โดนถีบกลับมาทุกที"
ถาม : ใช่ครับ ทำใจยากจริง ๆ ไปเลยเสียยังดีกว่า
ตอบ : พอรู้ต้นทุนของเราแล้วก็เหลืออยู่อย่างเดียวว่าพอหรือยัง ถ้าไม่พอต้องรีบตะกายทำให้มากไว้
ไปนึกถึงหลวงปู่ธรรมชัย พอท่านรู้ว่าเป็นวันที่ ๕ ธันวาคม ท่านก็ตั้งใจเข้าสมาธิถวายกุศลในหลวง คราวนี้หลวงปู่ท่านเข้าปุ๊บชีพจรก็หยุดเต้นนะสิ โหย...พยาบาลเขาช่วยกันปั๊มซะ แล้วคราวนี้เขากระแทกแรง ๆ หลวงปู่ท่านก็คงรำคาญไปเลยดีกว่า คนที่ไม่เข้าใจนี่ลำบาก
หลวงปู่มหาอำพันท่านเข้าสมาธิอยู่ หมอมาตรวจร่างกายพอดี พอจับชีพจรหมอตกใจวิ่งไปตามคน เรารู้ท่านก็เลยสะกิด “หลวงปู่ครับ ๆ ถ้าหลวงปู่ไม่กลับนี่หมอเขาเอาไปเผาแน่”
ถาม : เดี๋ยวต้องไปบูชาวัตถุมงคลที่เข้าพิธีเมื่อวานครับ ตอนทำพิธีนี่สะเทือนไปถึงเจดีย์วัดปากน้ำ นั่งไม่ติดเลยครับ
ตอบ : ต้องฝากทุกที่ ที่ไหนที่มีเจดีย์เป็นหลักก็เอาหมดเลย ครูบาอาจารย์ท่านตั้งใจสงเคราะห์จริง ๆ สำคัญว่าเราจะรับกันหรือเปล่า แต่ว่าเป็นห่วงเหมือนกันเพราะสถานการณ์ประเทศชาติแย่มาก โดยเฉพาะในหลวง ไม่รู้จะประคองท่านได้อีกนานเท่าไร
ถาม : ตอนนี้ข่าวเขาปิดกันครับ
ตอบ : เพราะข่าวไม่ออกนี่แหละถึงลำบาก คือถ้าออกข่าวคนทั้งประเทศพร้อมใจกันทำความดีถวายท่านจะมีผล ไม่อย่างนั้นแค่จุดเล็ก ๆ อย่างพวกเราเหมือนกับเอาน้ำถังเดียวไปดับไฟทั้งกองก็ยาก
ถาม : (พูดถึงพระอุปคุตชัยวัฒน์)
ตอบ : ไม่ทันรู้ตัวว่าพระเต้นได้ พวกนี้เขาดูอยู่ พิธีอย่างนี้ก็คงไม่มีอีกแล้ว เพราะฉะนั้นเก็บได้เก็บเถอะ เผื่อ ๆ ลูกศิษย์เขาต้องการจะได้มีให้
เก็บตกบ้านวิริยบารมี ต้นเดือน มี.ค. ๕๙
@@@ สำหรับเครดิตภาพและข้อมูลการหลอมชนวนมวลสารและอธิษฐานจิต กราบขอบพระคุณอพระอานนท์ อานนฺโท